จากกรณี นายเฉิน จื้อ นักธุรกิจชื่อดังสัญชาติจีน ถูกตั้งข้อหาจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐและกำลังถูกทางการติดตามตัว เพื่อดำเนินคดี ในข้อหาสมคบคิดกันฉ้อโกง, ฟอกเงินและหลอกลวงด้านการลงทุนสกุลเงินคริปโต นั้น ล่าสุดมีการเปิดเผยข้อมูลว่า เมื่อ 11 ปีที่แล้ว นายเฉิน จื้อ ถูกคนกลุ่มคนร้ายลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่ในประเทศไทย ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจของไทย โดยเหตุการณ์เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2557 ซึ่งถูกจับตัวไปขณะเดินออกจากโรมแรมกำลังจะไปตึกใบหยก จากนั้นมีรถยนต์ฟอจูนเนอร์สีดำ กับ รถจักรยานยนต์ตามประกบ ก่อนจะมีชายฉกรรจ์อ้างว่า นายเฉิน จื้อ มีหมายจับจากประเทศจีนแล้วพาตัวขึ้นรถไป ก่อนที่รถจะขับออกไปทาง ซ.ราชปรารภ 3 โดยมีการเปิดเผยว่า มีการเรียกค่าไถ่มากถึง 100 ล้านบาท ต่อมา นายเฉิน จื้อ ได้ส่งข้อความกลับมาหาครอบครัวว่า ได้รับการปล่อยตัวแล้วที่ประเทศกัมพูชา แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ นายเฉิน จื้อ ปฎิเสธที่จะเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนไทย และไม่ดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้าย

ขอบคุณภาพ : รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3

สำหรับประวัติของ นายเฉิน จื้อ นั้น เป็นผู้ก่อตั้งและประธานกลุ่มบริษัท Prince Holding Group (Prince Group) ในปี 2558 หลังจากได้รับสัญชาติกัมพูชาในปีก่อนหน้า กลุ่มบริษัทดังกล่าวเป็นกลุ่มธุรกิจข้ามชาติขนาดใหญ่ในกัมพูชาที่ประกอบกิจการหลายสิบแห่งในกว่า 30 ประเทศ ซึ่งมีทั้งธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บริการทางการเงิน การธนาคาร ซึ่งมีการก่อตั้งธนาคาร Prince เป็นธนาคารพาณิชย์ในกัมพูชาเต็มรูปแบบตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบัน

และเขายังก่อตั้ง Prince Foundation ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลที่ดำเนินกิจกรรมช่วยเหลือสังคมด้านต่างๆ เช่น การศึกษา สาธารณสุขและชุมชน โดยในประวัติขององค์กรมีการระบุว่า เฉิน จื้อ คือผู้บริจาคเงินรายใหญ่เมื่อกัมพูชาประสบภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม รวมทั้งเคยร่วมบริจาคเงินเพื่อซื้อวัคซีนให้ชาวกัมพูชาระหว่างเกิดสถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาด

จากนั้นเมื่อเดือนเมษายน 2567 พระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี แห่งกัมพูชา ทรงออกพระราชกฤษฎีกา พระราชทานบรรดาศักดิ์ให้ “เฉิน จื้อ” เป็น “เนียก ออกญา เฉิน จื้อ” ก่อนหน้านี้ เขามีฐานะเป็นที่ปรึกษาส่วนบุคคลของอดีตนายกรัฐมนตรีฮุน เซน และเมื่อพล.อ.ฮุน มาเนต ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เขาก็มีชื่อเป็นที่ปรึกษาของ พล.อ.ฮุน มาเนต เช่นกัน