16 ต.ค.2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย กล่าวถึงการตัดสินใจร่วมงานกับรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยว่า นายกรัฐมนตรีให้เวลาตนคิด 1 วัน และตนได้ปรึกษาลูก บุคคลใกล้ชิด และผู้ใหญ่ รวม 3 คน ด้วยเหตุผลข้อที่ 1 คือ มีบุคคลภายนอกที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคมาร่วมรัฐบาล เช่น นายเอกนิติ นิติทันฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งรู้จักกันเพราะท่านไปเรียนที่สถาบันพระปกเกล้า และตนก็สนิทกับบิดาของนายเอกนิติ ส่วนสีนายหศักดิ์ พวงเกตุแก้วรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ก็ทำงานร่วมกันมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ ซึ่งนายสีหศักดิ์ เป็นผู้ประสานงานของกระทรวงการต่างประเทศ จึงคิดว่านายกรัฐมนตรี มีความตั้งใจจริงที่จะทำอะไรบางอย่าง เหตุผลข้อที่ 2 ว่า ตนได้ขอพร 3 ข้อจากนายกรัฐมนตรี คือ 1. ไม่ขอเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย 2. ตนไม่ขอเข้าไปยุ่ง หรือแทรกแซงองค์กรอิสระ เรื่องคดีเขากระโดงและคดีฮั้วสว. และ 3 ตนได้บอกว่าเป็นคนคิดอย่างไรก็พูดอย่างนั้น ดังนั้นตนจะมีความเห็นอย่างไรต่อครม.หรือตัวนายกรัฐมนตรี ก็ต้องให้ตนพูด และจะทำหรือไม่ ก็เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี และคิดว่ารัฐบาล 4 เดือน บวก 4 เดือนรักษาการ ก็ไม่ได้เยอะอะไร

เมื่อถามว่านายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ได้เตือนให้ระวังอะไรหรือไม่ นายบวรศักดิ์ กล่าวยืนยันว่าไม่มี ตนก็โทรไปถามท่าน ท่านก็บอกให้รับเถิด เพราะนายวิษณุเป็นรองนายกรัฐมนตรีตลอดกาล

ส่วนกรณีมีข้อสังเกตหากรัฐบาลอยู่ไม่ครบ 4 เดือน จะกระทบกับไทม์ไลน์การแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ว่า ไม่เกี่ยวกัน เป็นเรื่องของสภาฯ แต่ถ้ายื่นยุบสภาก่อน รัฐธรรมนูญถึงจะชะงัก แต่ถ้ารัฐธรรมนูญอยู่ในการพิจารณาของคณะกรรมาธิการแล้วมีเหตุอื่น เปลี่ยนรัฐบาล สภาก็ดำเนินเรื่องไป แต่ถ้ายุบสภาก็จบ รัฐบาลใหม่ที่มาหลังจากการเลือกตั้ง สามารถขอให้สภาหยิบขึ้นมาพิจารณาได้ภายใน 60 วัน ส่วนพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติฉบับใหม่ที่นำขึ้นทูลเกล้าฯไปแล้ว ซึ่งจะครบ 90 วันในวันที่ 3 พฤศจิกายน 68 จะโปรดเกล้าฯเวลาใดนั้น เราไปเดาไม่ได้ เป็นพระราชอำนาจ รู้แต่ว่าถ้าใช้กฏหมายประชามติ พ.ศ.2564 ไทม์ไลน์ก็เร็วขึ้น แต่ถ้าใช้ฉบับใหม่ และลงมาก่อนวันที่ 3 พฤศจิกายน ไทม์ไลน์ก็เปลี่ยน สภาจะมีเวลามากขึ้นอีกเดือน ส่วนกรณีครบ 90 วัน แล้วยังไม่โปรดเกล้าฯกฏหมายประชามติฉบับใหม่ลงมาจะเป็นอย่างไรนั้น เป็นเรื่องที่สภาต้องประชุมกันตามมาตรา 146 ของรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตามอย่าไปตั้งสมมติอย่างนั้น รอความจริงก่อน และจากสถิติที่ผ่านมาส่วนใหญ่โปรดเกล้าฯลงมาทั้งหมด เว้นแต่มีข้อขัดข้องทางเทคนิค เช่น ผิดพลาดทางถ้อยคำ