“สหรัฐฯ” ยื่นฟ้อง-ยึดทรัพย์ เจ้าพ่อสแกมเมอร์ กัมพูชา “เฉิน จื้อ” อดีตที่ปรึกษาระบอบฮุนเซน เกือบ 5 แสนล้าน

"สหรัฐฯ" ยื่นฟ้อง-ยึดทรัพย์ เจ้าพ่อสแกมเมอร์ กัมพูชา "เฉิน จื้อ" อดีตที่ปรึกษาระบอบฮุนเซน เกือบ 5 แสนล้าน

ในคำฟ้องที่เปิดเผยเมื่อวันอังคารตามเวลาสหรัฐฯ (14 ต.ค.) อัยการบรูกลินได้ตั้งข้อหา เฉิน จื้อ ผู้ก่อตั้งและประธาน ปรินซ์ โฮลดิ้ง กรุ๊ป กลุ่มบริษัทข้ามชาติที่มีฐานอยู่ในกัมพูชา สมรู้ร่วมคิดฉ้อโกงผ่านอิเล็กทรอนิกส์ และสมรู้ร่วมคิดฟอกเงิน

เฉิน วัย 38 ปี ถูกกล่าวหาว่าใช้ความรุนแรงต่อคนงาน สั่งการติดสินบนเจ้าหน้าที่ต่างชาติ และใช้ธุรกิจอื่น ๆ ของเขา เช่น การพนันออนไลน์และการขุดสกุลเงินดิจิทัล เพื่อฟอกเงินกำไรที่ผิดกฎหมายอัยการสหรัฐฯ กล่าวว่า เฉินคือ จอมบงการเบื้องหลังอาณาจักรการฉ้อโกงทางไซเบอร์ และปฏิบัติการฉ้อโกงการลงทุนใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ มีครั้งหนึ่ง เฉินคุยโวว่า การหลอกลวงที่เรียกว่า “การฆ่าหมู” สร้างรายได้ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในหนึ่งวัน ( 980 ล้านบาท)

กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่า เมื่อปีที่แล้ว (2567) ชาวอเมริกันสูญเสียเงินอย่างน้อย 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ( 3 แสน 2 หมื่น 7 พันล้านบาท) ให้กับการหลอกลวงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพิ่มขึ้น 66% จากปี 2566 โดย ปรินซ์ โฮลดิ้ง กรุ๊ป เป็น “ผู้เล่นหลัก” ในอุตสาหกรรมฉ้อโกงที่กำลังเติบโต / นายเฉิน ที่ยังรู้จักในชื่อ วินเซนต์ ยังคงหลบหนีอยู่ หากถูกตัดสินมีความผิด อาจต้องโทษจำคุก 40 ปี ทรัพย์ที่ยึดจากนายเฉินกว่า 4 แสน 9 หมื่นล้านบาท ถือเป็นการริบทรัพย์มากที่สุดในประวัติศาสตร์กระทรวงการคลัง และหากศาลอนุญาต รัฐบาลสหรัฐฯจะนำไปจ่ายคืนให้แก่เหยื่อ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ตามคำฟ้องเอาผิดนายเฉิน จื้อ / ปรินซ์ โฮลดิ้ง กรุ๊ป ซึ่งดำเนินธุรกิจในกว่า 30 ประเทศ ได้สร้างคอมเพล็กซ์อย่างน้อย 10 แห่งในกัมพูชา บังคับคนงานที่ส่วนใหญ่เป็นคนต่างด้าวและถูกกักขัง ให้ติดต่อกับเหยื่อหลายพันคนผ่านโซเชียลมีเดีย หรือแพลตฟอร์มส่งข้อความออนไลน์ สร้างความสัมพันธ์ และชักชวนให้พวกเขาโอนเงินดิจิทัลโดยหวังว่าจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนก้อนโต แต่ในความเป็นจริง เงินเหล่านั้นถูกยักย้ายถ่ายเทไปยังธุรกิจอื่นๆ ในเครือปรินซ์ โฮลดิ้ง กรุ๊ป และบริษัทบังหน้า และนำไปใช้จ่ายซื้อสิ่งต่าง ๆ เช่น การท่องเที่ยวและความบันเทิงสุดหรู นาฬิกา บ้านพักตากอากาศ เรือยอชต์ เครื่องบินเจ็ต งานศิลปะหายากอย่างภาพวาดปิกัสโซ และแม้แต่นาฬิกาโรเล็กซ์ให้คู่สมรสของผู้บริหาร

อัยการกล่าวหาว่า เหยื่อรายหนึ่งถูกหลอกดูดเงินสกุลเงินดิจิทัล มูลค่ากว่า 400,000 ดอลลาร์สหรัฐ ( 13 ล้านบาท)

คอมเพล็กซ์ทำหน้าที่เป็นค่ายบังคับใช้แรงงาน มีหอพักที่ล้อมรอบด้วยกำแพงสูงและรั้วลวดหนาม มีศูนย์คอลเซ็นเตอร์อัตโนมัติ พร้อมโทรศัพท์มือถือหลายร้อยเครื่องเรียงรายอยู่บนชั้นวาง ใช้ควบคุมบัญชีโซเชียลมีเดียปลอมหลายหมื่นโปรไฟล์ คอมเพล็กซ์แห่งหนึ่งเกี่ยวข้องกับ “โรงแรมกาสิโนจินเป่ย” ของปรินซ์ โฮลดิ้ง กรุ๊ป อีกแห่งรู้จักกันในชื่อ “โกลเด้น ฟอร์จูน”

ตามแถลงการณ์คว่ำบาตรของกระทรวงการคลัง ระบุว่า คนงานในสถานที่ดังกล่าวถูกกักขัง บางครั้งถูกขังเดี่ยว และถูกทุบตี หลังจากถูกล่อลวงไปที่นั่นด้วยคำสัญญาว่าจะได้งานที่มีค่าตอบแทนสูง เช่น งานบริการลูกค้าหรือการสนับสนุนด้านเทคนิค

ภาพถ่ายที่รวมอยู่ในคำฟ้อง แสดงให้เห็นชายคนหนึ่งมีบาดแผลฉกรรจ์บนใบหน้า ผู้ชายหลายสิบคนนอนอยู่บนพื้นโดยมือถูกมัดไว้ และชายคนหนึ่งมีรอยแดงที่หน้าอกและแขน เฉินอนุมัติให้ทุบตีชายคนหนึ่งด้วยตนเองอย่างน้อย 1 ราย หลังก่อความวุ่นวายในคอมเพล็กซ์ แต่เตือนว่าไม่ควร “ตีจนตาย” และมีผู้เห็นเหตุการณ์คนงานที่หลบหนีจาก โกลเดน ฟอร์จูน ถูกตีจนแทบเอาชีวิตไม่รอด

ขณะเดียวกัน ทางการสหรัฐฯ และอังกฤษ ยังได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรบริษัทของนายเฉิน ซึ่งยังมีธุรกิจเกี่ยวข้องกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และบริการทางการเงิน โดยกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้ประกาศให้บริษัทนี้ เป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ส่วนรัฐบาลอังกฤษ ได้อายัดอสังหาริมทรัพย์ในลอนดอน 19 แห่ง มูลค่ากว่า 100 ล้านปอนด์ ( 4,355 ล้านบาท) ซึ่งเชื่อมโยงกับเครือข่ายของเฉิน รวมถึงคฤหาสน์มูลค่า 12 ล้านปอนด์ ( 523 ล้านบาท) ในลอนดอนตอนเหนือ มาตรการคว่ำบาตรยังพุ่งเป้าไปที่ ชิว เว่ย เหริน ผู้ร่วมงานของเฉิน ซึ่งเป็นชาวจีนที่มีสัญชาติกัมพูชา ไซปรัส และฮ่องกง

เฉินเคยดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต และฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีและประธานวุฒิสภา เขาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ “เนียะ ออกญา” เทียบเท่ากับขุนนางอังกฤษ

เจคอบ แดเนียล ซิมส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชญากรรมข้ามชาติ และนักวิจัยรับเชิญศูนย์เอเชีย มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด กล่าวว่า ปรินซ์ โฮลดิ้ง กรุ๊ป เป็นส่วนสำคัญของโครงสร้างที่ทำให้การหลอกลวงทางไซเบอร์ทั่วโลกเป็นไปได้ และเฉิน คือ “เสาหลัก” ของเศรษฐกิจอาชญากรรมที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลกัมพูชา แม้ว่าการยื่นฟ้องและมาตรการคว่ำบาตร ไม่ได้ทำลายเครือข่ายเหล่านี้ในทันที หรือช่วยยุติเศรษฐกิจฉ้อโกงในชั่วข้ามคืน แต่จะเปลี่ยนแปลงการคำนวณความเสี่ยงโดยพื้นฐาน กล่าวคือ จะทำให้ธนาคาร บริษัทอสังหาริมทรัพย์ และนักลงทุนระดับโลกทุกคน ต้องคิดให้รอบคอบก่อนจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเงินทุนของชนชั้นนำกัมพูชา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"กสม.เขมร" ออกแถลงการณ์อีก ยกความเห็น "เท้ง-กัณวีร์" ไม่เห็นด้วยวิธีเปิดเสียงหลอน
"ดี้ นิติพงษ์" ฉะนักสิทธิฯไม่รู้กินอาหารอะไร เอื้อเฟื้อคนเดือดร้อนทั่วโลก ยกเว้นประเทศตัวเอง ลั่นรู้จักมั๊ย "ปฏิบัติการจิตวิทยาการรบ"
ชาวกัมพูชารักวัฒนธรรม"เกาหลีใต้"สุดหัวใจ "ฮุน เซน" โผล่แชร์คลิปสาวเกาหลีเจ้าของคาเฟ่ในพนมเปญ อวยชีวิตสุขสบาย
ปทุมธานี-ผวจ.ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุเพลิงไหม้โกดังให้เช่า
กองทัพภาค 2 ยันเลื่อนประชุม RBC ไม่มีกำหนด หากเขมรไม่ทำตามเงื่อนไข
รมช.อุตสาหกรรมนำ DSI บุกยึดเครื่องใช้ไฟฟ้าไร้ มอก.กว่าแสนชิ้น

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​