นศ.แพทย์ปี 2วอนปวีณาช่วยแม่ดับปริศนาที่ญี่ปุ่นสภาพเปลือยคาเตียงนวดสงสัยถูกฆาตกรรม

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 8 ต.ค.68 น.ส.กัญญาวีร์ หรือ มิ้นท์ อายุ 20 ปี นักศึกษาแพทย์ปี 2 คณะสัตวแพทย์ มหาวิทยาลัยชื่อดัง เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ขอช่วยตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตของ น.ส.นงนภัทร์ หรือ ตูน อายุ 47 ปี ผู้เป็นแม่ หลังเดินทางไปทำงานนวดสปา ที่เมืองอิบารากิ จังหวัดยูกิ ประเทศญี่ปุ่น แล้วพบเป็นศพเสียชีวิตปริศนาในสภาพเปลือยกายอยู่บนที่นอนนวดภายในร้านนวดสปา เมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเชื่อว่าแม่เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำอาจจะถูกฆาตกรรมหรือไม่ และขอช่วยส่งศพแม่กลับมาไทย เนื่องจากครอบครัวยากจนไม่มีเงินค่าจัดการศพและค่าดำเนินการส่งศพกลับไทย


น.ส.กัญญาวีร์ กล่าวว่า พ่อกับแม่หนูแยกทางกันตั้งแต่หนูเกิด ก่อนหน้านี้แม่เปิดร้านชานมไข่มุกแต่ช่วงหลังเศรษฐกิจไม่ดีจึงต้องปิดตัวลง และแม่ได้ไปเรียนนวดแผนไทย นวดสปา จากนั้นก็ได้รับการชักชวนให้ไปทำงานร้านนวดของคนไทยที่ประเทศญี่ปุ่น แม่ตัดสินใจเดินทางไปเพราะต้องการหาเงินส่งให้หนูเรียนแพทย์ให้จบ แม่ไปทำงานที่ญี่ปุ่นได้ประมาณ 6 เดือนแล้ว แม่เป็นเสาหลักของครอบครัว หนูอยู่กับยายอายุ 73 ปีที่ไทย ทุกวันแม่จะวิดีโอคอลคุยกับหนู และโอนเงินมาให้หนูไปเรียนวันละ 300 บาท ล่าสุดหนูคุยกับแม่ช่วง 23.00 น. ของวันที่ 4 ต.ค.

ซึ่งแม่ก็เล่าให้ฟังว่า วันก่อนมีลูกค้าเป็นชายชาวญี่ปุ่นคล้ายคนสติไม่ดีเกิดคลุ้มคลั่งบีบคอแม่ แม่พยายามดิ้นรนขัดขืนและบอกว่าจะแจ้งตำรวจเขาจึงปล่อยคอแม่ หลังจากวางสายไปคืนนั้นหนูติดต่อแม่ไม่ได้อีกเลย ส่งข้อความหรือแชตไปแม่ก็ไม่ได้อ่าน ส่วนเพื่อนของแม่ที่อยู่ต่างประเทศก็บอกว่าติดต่อแม่ได้แค่ช่วงเที่ยงของวันที่ 5 ต.ค. แล้วก็ติดต่อไม่ได้อีกเหมือนกัน หนูจึงติดต่อไปยังเพื่อนของแม่ และเพื่อนแม่ติดต่อไปทางร้าน เจ้าของร้านโกหกว่าแม่ออกไปกับผู้ชาย ทั้งๆ ที่ตอนนั้นเจ้าของร้านรู้อยู่แล้วว่าแม่หนูเสียชีวิตแล้ว หนูจึงตัดสินใจโพสต์ตามหาแม่ก่อนจะมีเพื่อนของแม่เข้ามาให้ข้อมูลว่า แม่เสียชีวิตตั้งแต่ช่วง 14.00-15.00 น.วันที่ 5 ต.ค. บนที่นอนนวดภายในร้านนวดในลักษณะเปลือยกาย แต่ทางเจ้าของร้านปิดบังและลบรูปแม่ออกจากเพจร้านแล้ว ซึ่งหนูก็ไม่ทราบว่าทำไมเจ้าของร้านถึงต้องปิดบังการเสียชีวิตของแม่ด้วย และหลังจากที่หนูโพสต์ตามหาแม่ออกไป ทางเจ้าของร้านได้โทรมาหาหนูและบอกว่าให้หนูลบโพสต์เพราะทำให้เขาและเพื่อนเสียหาย ซึ่งหนูก็ไม่เข้าใจว่าหนูทำผิดอะไร

ข่าวที่น่าสนใจ

“หนูมีแค่แม่คนเดียวในชีวิต แม่คือคนที่รักและเลี้ยงดูคอยซัพพอร์ตหนูมาตลอด ไม่มีแม่แล้วหนูก็ไม่รู้จะใช้ชีวิตยังไงต่อไป รู้อยากรู้สาเหตุการเสียชีวิตของแม่ที่แท้จริง เพราะแม่เสียชีวิตในสภาพเปลือยกายอยู่บนที่นอนนวดในร้านซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดปกติ ทั้งที่ก่อนหน้านี้แม่ก็ไม่ได้ป่วยเป็นอะไร ตอนนี้หนูไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร มีแต่มูลนิธิปวีณาฯ ที่เป็นที่พึ่งและให้การช่วยเหลือ และหนูขอความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญร่วมบริจาคเพื่อนำร่างของคุณแม่กลับมาประเทศไทยเพื่อทำพิธีฌาปนกิจด้วย โดยถ้าได้ยอดเงินครบตามจำนวนแล้ว หนูจะปิดรับบริจาคทันที ท่ายสามารถบริจาคช่วยเหลือได้ที่บัญชีของหนูโดยตรง ชื่อบัญชี นางสาวกัญญาวีร์ นาหนองตูม ธนาคารกรุงไทย สาขาเตาปูน เลขที่บัญชี 020-0-38501-1 จะเป็นพระคุณยิ่งค่ะ”


หลังรับเรื่อง นางปวีณา ได้ประสาน พล.ต.ต.สุระพันธุ์ ไทยประเสริฐ ผบก.กองการต่างประเทศ ตำรวจสากลไทย และกระทรวงการต่างประเทศทันที เพื่อประสานตำรวจสากลญี่ปุ่น และสถานทูตไทยในญี่ปุ่น เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตของน.ส.นงนภัทร์ หรือ ตูน อายุ 47 ปี พร้อมกับประสานขั้นตอนในการส่งศพกลับไทย

นางปวีณา กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจกับน้องมิ้นที่ต้องสูญเสียคุณแม่ น้องมีคุณแม่คนเดียวที่คอยส่งเสียเล่าเรียนเลี้ยงดู ความรักของแม่ที่มีต่อลูกเสียยอมสละไปทำงานต่างแดนเพื่อหาเงินให้ลูกได้เรียนหนังสือ เพราะฐานะยากจน และส่งเงินมาให้ลูกไปเรียนทุกวัน วันละ 300 บาท ซึ่งน้องก็ต้องกู้ กยศ. เพื่อเป็นค่าเทอม โดยหวังจะเรียนให้จบเพื่อเป็นสัตว์แพทย์ เลี้ยงดูแม่และยายในอนาคตแต่มาเกิดเรื่องเศร้าสลดเช่นนี้ ตอนนี้ได้ประสาน พล.ต.ต.สุระพันธุ์ ไทยประเสริฐ ผบก.กองการต่างประเทศ ตำรวจสากลไทย และกระทรวงการต่างประเทศ ทั้งหมดแล้ว ซึ่งระหว่างนี้ยังต้องรอผลชันสูตรศพผู้เสียชีวิตว่าเกิดจากสาเหตุใด โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะให้ความเป็นธรรมและติดตามการช่วยเหลือน้องตอนนี้ใน 3 ส่วน


1.ติดตามเรื่องการเสียชีวิตของแม่น้องมิ้นกับตำรวจสากลไทย คาดว่าภายใน 1-2 วันนี้จะมีความคืบหน้า
2.ติดตามเรื่องส่งศพผู้เสียชีวิตกลับมาไทย ซึ่งคาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 2 แสนบาท นางปวีณา ได้ประสานกระทรวงการต่างประเทศไปแล้ว กรณีที่ญาติไม่มีเงินค่าดำเนินการส่งศพกลับไทย ทางกระทรวงต่างประเทศยินดีที่จะให้การช่วยเหลือในการกู้ยืมเงินก่อน ซึ่งน้องมิ้นต้องเซ็นรับสภาพหนี้ ทั้งนี้จึงขอน้ำใจคนไทยช่วยบริจาคช่วยเหลือน้องมิ้น และนางปวีณา จะประสาน นายมังกร ประทุมแก้ว อธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อให้ได้นำศพกลับไทยโดยเร็ว
3.ในส่วนเรื่องการศึกษาของน้อง ช่วงนี้มูลนิธิปวีณาฯ จะให้การช่วยเหลือไปก่อน และจะประสานในการช่วยเหลือน้องให้ได้เรียนจนจบต่อไป ซึ่งหากมีผู้ใจบุญท่านใดต้องการช่วยเหลือด้านการศึกษาของน้องมิ้น สามารถติดต่อมาได้ที่มูลนิธิปวีณาฯ


นางปวีณา กล่าวอีกว่า ปัญหาเหล่านี้สาเหตุเกิดจากความยากจน เนื่องจากช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี ผู้หญิงไทยจึงคิดไปทำงานต่างประเทศกันจำนวนมาก ล่าสุดมูลนิธิปวีณาฯ ได้รับเรื่องจากพ่อและญาติของหญิงสาวอายุ 25 ปี รายหนึ่ง ซึ่งจะเดินทางมาในวันนี้ ร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือลูกสาวไปทำงานเอนเตอร์เทนลูกค้าในสถานบริการที่ประเทศไต้หวัน ให้ได้กลับบ้าน ซึ่งหญิงสาวได้รับการชักชวนอ้างว่าจะมีรายได้ดี หลังจากเดินทางไปได้เพียงไม่กี่วันก็ทนสภาพไม่ไหว เพราะต้องรับลูกค้าและต้องดื่มเหล้าอย่างหนักเพื่อทำค่าดื่มให้ได้ตามยอดทุกวัน ซึ่งมูลนิธิปวีณาฯ จะให้การช่วยเหลือต่อไป

อนันต์  วิจิตรประชา  ผู้สื่อข่าว จ.ปทุมธานี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“นายกฯอนุทิน” ทราบข่าว “หนุ่มไทย” เสียชีวิตที่กัมพูชา ย้ำเร่งเยียวยาเต็มที่ ตามขั้นตอนกม.
สระแก้ว พี่สาวรับร่าง เชฟหนุ่มไทย นอนสิ้นใจอย่างอนาถาริมถนนข้างตึกในปอยเปต หลัง รพ.ฝั่งเขมรไม่รับรักษาเพราะป่วยหนัก เพราะไม่มีเอกสารและเงิน
ชาวแพร่ ร่วมสืบสานประเพณีทำบุญตักบาตรเทโว แน่นวัดพระธาตุช่อแฮ
นาหละร่วมใจ กำจัดภัยขยะ เนื่องในวันลดภัยพิบัติโลก
สยบลือ "เกรียง กัลป์ตินัน์" ยันปักหลักเพื่อไทย คุย "เนวิน" ในรร.พูลแมน ไม่เกี่ยวเลือกตั้ง
รายการ ณ ครับ ชวนแฟนรายการม่วนซื่นม่วนแซ่บ ร่วมทริปสุด exclusive สองเมืองสองฝั่งโขง ไทย-ลาว 3 วัน 2 คืน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​