เปิดเหตุผลอัยการ ภาค 3 ตีกลับคำร้อง รฟท. ปมที่ดินเขากระโดง ชี้คำร้องพยานหลักฐานไม่ครบถ้วน

เปิดเหตุผลอัยการ ภาค 3 ตีกลับคำร้อง รฟท. ปมที่ดินเขากระโดง ชี้คำร้องพยานหลักฐานไม่ครบถ้วน

วันนี้ (7 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ทำการตรวจสอบเรื่องนี้ พบว่า เมื่อวันที่ 21 เม.ย. 2568 ที่ผ่านมา นายวิรัตน์ วจนกิจไพบูลย์ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีแรงงานภาค 3 ในขณะนั้น ได้มีคำสั่งให้ส่งคำร้องที่รฟท.ได้มีการร้องขอให้พนักงานอัยการดำเนินคดี กลับไปยังผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยระบุว่า ตามที่ รฟท.ได้มีหนังสือมายังสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อความอนุเคราะห์ให้รับดำเนินคดีแทน โดยขอให้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนเอกสารสิทธิในที่ดินที่ออกทับซ้อนที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย ขับไล่และเรียกค่าเสียหาย จากผู้ถือเอกสารสิทธิและผู้ยึดถือครอบครองที่ดินมีโฉนดที่ดินและหนังสือรับรอง จำนวน 995 ฉบับ โดยไม่ได้จัดส่งรายละเอียดเกี่ยวกับชื่อผู้ถือเอกสารสิทธิ ลักษณะการใช้ประโยชน์ของที่ดินเเต่ละแปลง รายละเอียดการออกเอกสารสิทธิ และที่ตั้งของที่ดินแต่ละแปลง

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

สำนักงานคดีแรงงานภาค 3 ได้พิจารณาแล้วขอเรียนให้ทราบว่า ตามที่อ้างว่า รฟท.เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินตั้งแต่ส่วนแยกจากบุรีรัมย์ไปจนถึงเขากระโดง เนื้อที่ประมาณ 5,083 ไร่ ซึ่งเป็นที่ดินของรัฐเพื่อกิจการของการรถไฟแห่งประเทศไทย

แต่กรมที่ดินได้ออกเอกสารสิทธิ ตามกฎหมายทับซ้อนกับที่ดินของ รฟท. โดยมีที่ดินที่ออกเอกสารสิทธิทั้งโฉนดที่ดิน หนังสือรับรองการทำประโยชน์ 995 ฉบับ และการรถไฟแห่งประเทศไทยขอให้พนักงานอัยการยื่นฟ้องคดีต่อศาลเพื่อให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนเอกสารสิทธิในที่ดินที่ทับซ้อนที่ดินของการรถไฟ ขับไล่ เรียกค่าเสียหายจาก ผู้ถือเอกสารสิทธิและผู้ครอบครองที่ดิน โดยไม่ปรากฏรายละเอียดว่า ท่านมีความประสงค์จะให้ดำเนินคดีกับผู้ใด ผู้มีชื่อในเอกสารสิทธิทั้งโฉนดที่ดิน และหนังสือรับรองการทำประโยชน์มี ทั้งหมดกี่ราย และที่ดินพิพาทดังกล่าวทุกแปลงอยู่บริเวณส่วนใดของที่ดินของการถไฟแห่งประเทศไทย รวมทั้งการบุกรุก ยึดถือครอบครองทำประโยชน์และออกเอกสารสิทธิทับซ้อนในที่ดินของการรถไฟของแต่ละรายนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อใด

 

 

ทั้งนี้ รฟท.ส่งเอกสารมาประกอบการดำเนินคดีเพียงเอกสารตามบัญชี เอกสารแนบท้าย ซึ่งเป็นเอกสารเกี่ยวกับกฎหมายของ รฟท. คำสั่งแต่งตั้งผู้มีอำนาจ สำเนา พิพากษาศาลฎีกา ศาลอุทธรณ์ภาค 3 และศาลปกครองกลาง และเอกสารเกี่ยวกับคำสั่งของอธิบดีกรมที่ดิน
ในการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามประมวลกฎหมายที่ดิน และคำสั่งยุติเรื่องการเพิกถอนเอกสารสิทธิในที่ดิน รวมทั้งหนังสือแจ้งผลการพิจารณาอุทธรณ์คำสั่งทางปกครองของกรมที่ดิน โดยไม่มีข้อเท็จจริงและเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวกับบุคคลที่ประสงค์จะให้ฟ้อง และการกระทำของบุคคลดังกล่าวที่เป็นการโต้เเย้งสิทธิของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นรายละเอียดข้อเท็จจริง และเอกสารหลักฐานที่จำเป็นต่อดำเนินคดีจึงเป็นการส่งเรื่องให้สำนักงานอัยการสูงสุดหรือพนักงานอัยการดำเนินคดี โดยไม่มีการรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วน ไม่คำนึงถึงหลักเกณฑ์ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 เม.ย.2561 และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพิจารณาชี้ขาดการยุติข้อพิพาทระหว่างหน่วยงานของรัฐและการดำเนินคดี พ.ศ.2561 ข้อ 21 ที่กำหนดให้ หน่วยงานของรัฐที่มีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิเเละหน้าที่เกี่ยวกับเอกชนในทางแพ่งให้ส่งเรื่องให้กับสำนักงานอัยการสูงสุด หรือพนักงานอัยการที่มีหน้าที่และอำนาจดำเนินคดีเรื่องนั้นโดยหน่วยงานของรัฐจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เมืองปากน้ำโพ จัดงานฉลองเปิดตัวองค์สมมติเจ้าแม่กวนอิม-พิธีไหว้พระจันทร์
ชมความตระการตา! "ม่านน้ำแห่งพระบารมี" ที่ชุมพร 12-14 ต.ค. นี้
เครือซีพี ต่อยอด "แม่แจ่มโมเดลพลัส" จ.เชียงใหม่ ขับเคลื่อนโครงการ "ซีพีความดี ป่าต้นน้ำยั่งยืน ปิง วัง ยม น่าน" ฟื้นฟูป่า สร้างรายได้ชุมชนยั่งยืน มุ่งสู่ CSV
อำเภอแม่สะเรียง เสวนา “ย้อนรอยอดีตแม่สะเรียง” เมืองแห่งสังคมพหุวัฒนธรรม
สองหญิงเสี่ยงปีนข้ามกำแพงลักลอบเข้าไทย บริเวณตลาดโรงเกลือ จ.สระแก้ว
รองประธานสภา อบจ.สงขลา นำทีมเข้าพบผู้ว่าฯ

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​