“แม่ทัพภาคที่ 2” เยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลบาดเจ็บ จากการปฏิบัติหน้าที่ราชการสนามในพื้นที่ชายแดนไทย–เขมร

"แม่ทัพภาคที่ 2" เยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลบาดเจ็บ จากการปฏิบัติหน้าที่ราชการสนามในพื้นที่ชายแดนไทย–เขมร

ถือว่าเป็นประเด็นใหญ่ที่หลายคนให้ความสนใจอย่างมาก หลังกองทัพภาคที่ 1 เปิดเผยว่า กองกำลังบูรพา ยังคงตรึงแนวชายแดนเข้ม สกัดแรงงานผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง โดยพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ในห้วงที่ผ่านมา ยังคงมีแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ เพื่อเดินทางเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ โดยเฉพาะช่วงฤดูเก็บเกี่ยวและก่อสร้างที่แรงงานมีความต้องการสูง กองกำลังบูรพาจึงได้เพิ่มความเข้มในการลาดตระเวน และสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในทุกพื้นที่รับผิดชอบ

หน่วยเฉพาะกิจคลองหาด โดย ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 13 จึงได้จัดกำลังร่วมกับหมวดเคลื่อนที่เร็วหน่วยเฉพาะกิจคลองหาด, หน่วยเฝ้าตรวจชายแดนที่ 11, และ ชุดปฏิบัติงานข่าวที่ 11 กองกำลังบูรพา ลาดตระเวนด้วยเท้าในพื้นที่รับผิดชอบ บริเวณริมถนนศรีเพ็ญ – จุดตรวจ ค.03 ม.8 ตำบลคลองหาด อำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว

ซึ่งขณะลาดตระเวน ได้ตรวจพบ แรงงานชาวกัมพูชา 6 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 3 คน ไม่มีเอกสารแสดงตน และรับสารภาพว่าเดินทางเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ เพื่อรอรถมารับไปทำงานก่อสร้างในกรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินการควบคุมตัวทั้งหมดส่งต่อ สภ.คลองหาด เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

การปฏิบัติในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของกองกำลังบูรพาในการป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนคุ้มครองความมั่นคงและความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่

ต่อมา เจ้าหน้าที่ทหารสังกัดกองกำลังบูรพา เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน ฉก.ตชด.12 และทหารชุดเฉพาะกิจ ฉก.11 พร้อมด้วยฝ่ายปกครองอำเภอตาพระยา ทำการลาดตระเวนตรวจพื้นที่ในเขตรับผิดชอบ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เพื่อป้องกันปราบปรามการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองและการกระทำผิดกฎหมายต่างๆ

เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึง บริเวณถนนเลียบคลองส่งน้ำบ้านร่มไทร-คลองแผง ต.ทัพเสด็จ ตรวจพบกลุ่มแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา จำนวน 27 คน เป็นชาย 15 คน,หญิง 9 คน, ผู้ติดตาม 3 คน จึงเข้าตรวจสอบ

 

 

 

จากการสอบถาม และขอตรวจสอบหนังสือเดินทางหรือเอกสารประจำตัว ทั้งหมดไม่สามารถแสดงเอกสารประจำตัวให้แก่เจ้าหน้าที่ได้ ให้การยอมรับว่าได้เดินทางเข้ามาภายในราชอาณาจักรไทย โดยใช้การเดินเท้าผ่านช่องทางธรรมชาติ มีชาวกัมพูชา ไม่ทราบชื่อนามสกุล เป็นผู้นำทางเข้ามา โดยจะไปรับจ้างทำงานก่อสร้างและรับจ้างทั่วไปในพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร ปทุมธานี ชลบุรี และอุดรธานี โดยเสียค่าใช้จ่ายจำนวน 6,500-7,500 บาท

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านทัพไทย เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

มูลนิธิเทพกวนอู แถลงซื้อที่ดินใหม่ รับบริจาคกว่า 2.1 ล้าน
ตร.-ปกครอง สนธิกำลัง จับกุมผู้ต้องหาพร้อมยาเสพติด 10,000 เม็ด
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) หางโจวเปิดสถานี 'แท็กซี่บินได้'พาชมวิวและบินรับ-ส่ง
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ชาวอันฮุยเชิด 'มังกรฟาง' ฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) จีนจัดระเบียบพาฝูงชนนับล้านคนออกจากงานแสดงพลุวันชาติ
"สุรศักดิ์" ประกาศนโยบาย Quick Win ช่วยคนตกงาน-เกษตรกรทั่วประเทศ เปิดตัวโครงการ "โดรนคนละครึ่ง" อว.ร่วมจ่าย

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​