เวลา 08.30 น.วันที่ 2 ตุลาคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ บริเวณหมู่ที่ 1 บ้านท่ารากหวาย ตำบลเกาะเทโพ อำเภอเมือง และหมู่ที่ 6 บ้านวัดราษศรัทธาธรรม ตำบลท่าซุง อ.อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกันและอยู่ติดกับริมแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นพื้นที่ต่ำ จากการสอบถามชาวบ้านหลังจึงทราบว่าหลังจากที่ทางภาคเหนือมีน้ำระบายผ่านมายังจังหวัดนครสวรรค์และมายังแม่น้ำเจ้าพระยา น้ำก็เข้าท่วมบ้านเรือนกว่า 60 หลังคาเรือน
ข่าวที่น่าสนใจ
โดยก่อนหน้านี้น้ำก็ท่วมมาแล้วเมื่อช่วงต้นเดือนกันยายน นายสำราญ แก้วซุง อายุ 70 ปี และภรรยา บ้านเลขที่ 110 บ้านวัดราษศรัทธาธรรม ตำบลท่าซุง อ.อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี ได้เล่าให้ฟังว่าน้ำนั้นขึ้นมาเรื่อยๆตั้งแต่เวลา 22.30 น.เมื่อคืนวานและมีทีท่าว่าระดับน้ำนั้นจะสูงกว่าเมื่อครั้งที่แล้วเพราะภายในคืนเดียวเท่านั้นขึ้นมาท่วมถึงถนนหน้าแม่น้ำเจ้าพระยาแล้วซึ่งเป็นถนนสายสำคัญและต้องออกไปซื้อของที่ในตัวอำเภอเมืองและไปรับส่งหลานที่เรียนอีกด้วย หากระดับน้ำเพิ่มขึ้นอีกจะถูกตัดขาดทางรถทันทีและต้องหันมาใช้เรือกันอย่างแน่นอน นายสำราญ ยังเล่าว่าเพิ่งจะขัดคราบตะไคร่น้ำจากคราวที่แล้วออกกว่าจะหมดรวมถึงทำความสะอาดชั้นล่างจนต้องขึ้นไปอยู่ชั้นสองของบ้านน้ำมาท่วมใหม่อีกแล้วซึ่งตั้งตัวไม่ทันกันเลย
ไม่เพียงแต่บ้านเรือนจะถูกน้ำท่วมเสียหายสวนกล้วยหอมและไร่ตากว่ากว่า 2,000 ไร่ เสียหายเพราะถูกน้ำท่วม รวมไปถึงเครื่องมือการเกษตรอย่างรถดีแต๋นหรือรถไถนาก็จอดอยู่ในน้ำเสียหายอย่างแน่นอนเพราะน้ำขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัวกันเลย ทั้งนี้ทาง อบต.เกาะเทโพ จะเร่งสำรวจความเสียหายของบ้านเรือนประชาชนและไร่นาเพื่อช่วยเหลือกันต่อไปและยังคงต้องเฝ้าดูสถานการณ์ว่าน้ำจะขึ้นอีกหรือไม่กันซึ่งกลางคืนนั้นแทบจะไม้ได้นอนกันเลยเพราะต้องมาดูเพราะหวั่นว่าระดับน้ำจะสูงขึ้นอีกเพื่อจะได้ขนของขึ้นที่สูงป้องกันการเสียหายนั่นเอง
นันทศักดิ์ วัฒนพานิช ผู้สื่อข่าวTOPNEWSทั่วไทย จ.อุทัยธานี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
