สธ. ส่งทีมเยียวยาจิตใจชาวบ้าน อ.น้ำยืน หลังสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังตึงเครียด

สธ. ส่งทีมเยียวยาจิตใจชาวบ้าน อ.น้ำยืน หลังสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังตึงเครียด

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 1 ต.ค.68 ที่สาธารณสุข อำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี นายสากล สีทากุล สาธารณสุขอำเภอน้ำยืน เปิดเผยว่า ในพื้นที่อำเภอน้ำยืน ครั้งนี้ถือเป็นการอพยพครั้งที่ 3 คือในวันที่ 27 กันยายน ที่ผ่านมา ที่มีเสียงปืนเล็กดังขึ้นในพื้นที่ช่องอานม้า ซึ่งทางสาธารณสุขอำเภอน้ำยืน ได้มีการจัดระบบในการดูแลผู้ป่วยกลุ่มเปราะบาง โดยเปิด 2 ศูนย์ดูแล คือ วัดเมืองเดช ซึ่งศูนย์ดังกล่าวได้จัดเตรียมยา เวชภัณฑ์ต่างๆ แพมเพิส ทีมแพทย์ พยาบาล และสหวิชาชีพเข้าดูแล และ ศูนย์ที่ 2 คือ ศูนย์ดูแลผู้ป่วยกลุ่มติดเตียง โดยใช้หอประชุมที่ว่าการอำเภอเดชอุดม รองรับ ซึ่งก็มีการจัดเตรียมทีมแพทย์พยาบาลดูแลอย่างใกล้ชิดเช่นเดียวกัน

 

ข่าวที่น่าสนใจ

สำหรับเหตุการณ์ในวันที่ 27 กันยายน ที่ผ่านมามานั้น ตำบลที่อยู่แนวชายแดน คือ ต.โดมประดิษฐ์ ต.สีวิเชียร และ ต.โซง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้ ชาวบ้านได้ยินเสียงปืน และเกิดความตกใจ จึงมีการเคลื่อนย้ายกลุ่มผู้ป่วยติดเตียงออกนอกพื้นที่ ทางสาธารณสุขมีรถคอยอำนวยความสะดวกตามแผนอพยพ ซึ่งไม่ได้มีการอพยพไปทั้งหมด แต่เป็นแค่การอพยพบางส่วนเฉพาะพื้นที่ตำบลที่ติดชายแดน ปัจจุบันเหตุการณ์เริ่มคลี่คลายลง ชาวบ้านบางส่วนทยอยกลับบ้านบ้างแล้ว เหลือเพียงบางส่วนที่ยังคงอยู่ในศูนย์อพยพ ซึ่งก็ยังคงมีทีมแพทย์พยาบาล และสหวิชาชีพคอยดูแล ทั้งการจัดระบบเรื่องอาหารการกิน รวมถึงการดูแลเรื่องสุขภาพอนามัยด้วย

 

ส่วนเรื่องสภาพจิตใจของชาวบ้านในพื้นที่อำเภอน้ำยืนนั้น ทางสาธารณสุข มีทีมเยียวยาสภาพจิตใจ ที่เรียกว่า “MCATT” และบุคลากรของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) เข้าเยี่ยมชาวบ้าน ซึ่งไม่ได้ดูแลเฉพาะสภาพจิตใจ แต่ยังได้นำถุงยังชีพมอบให้แก่ผู้ป่วยกลุ่มเปราะบางด้วย มีการพูดคุยกับทั้งผู้ป่วยเอง รวมถึงผู้ดูแลผู้ป่วย ในกรณีหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินก็ให้เฝ้าระวัง และรับฟังรายงานจากหน่วยงานราชการก่อนการอพยพ หรือเคลื่อนย้าย ให้มีการเตรียมแผนการอพยพอย่างใกล้ชิด ทั้งด้านสุขภาพอนามัย และสุขภาพจิตใจ ทีมแพทย์ และระบบบริการสาธารณสุข ทั้ง 14 แห่ง ในพื้นที่ อ.น้ำยืน ยังคงเปิดตามปกติ

 

 

สำหรับการอพยพที่เกิดขึ้นมาแล้ว 3 ครั้งในพื้นที่ อ.น้ำยืน นั้น ยอมรับว่าชาวบ้านในพื้นที่มีความเครียดเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากได้รับผลกระทบหลายอย่าง ทั้งการไม่ได้ประกอบอาชีพ ทำให้รายได้ลดลง การต้องเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด / ความเครียดที่เกิดขึ้นจากการเดินทาง ความพร้อมในส่วนต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นความเครียดสะสม ในส่วนของสาธารณสุข ก็ยังคงดูแลเรื่องการไม่ให้ผู้ป่วยขาดยา เข้าพูดคุย และหาแนวทางการแก้ปัญหา พร้อมให้คำแนะนำด้านสุขภาพต่อเนื่อง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เกษตรแปดริ้ว จัดกิจกรรมถ่ายทอดความรู้การพัฒนาการผลิตมะพร้าวน้ำหอมที่มีคุณภาพตามระบบมาตรฐาน GAP
ตำรวจบุกคอนโดพัทยา รวบแก๊งอินเดียปักหลักเป็นแอดมินเว็บพนันออนไลน์ ยึดของกลางอื้อ เงินหมุนเวียนกว่า 2 ล้านบาท
ระทึก !! เรือขนส่งสินค้าพุ่งชนบ้านริมน้ำเจ้าพระยาพัง 3 หลัง
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์จีน โชว์สเต็ปแดนซ์ที่ Web Summit
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ทางม้าเหล็กเร็วสูง 'ซีอัน-เหยียนอัน' เริ่มทดลองเดินรถ
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) จีนค้นพบ 'แหล่งแร่ทองคำ' ขนาดใหญ่แห่งแรกที่เหลียวหนิง

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​