AFP และ BBC รายงานว่านายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอลออกมาแถลงผ่านเทเลแกรมเมื่อคืนวันจันทร์ต่อเช้าวันอังคาร (30 กย.) หลังเสร็จสิ้นการพบหารือทรัมป์ที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ (จันทร์ที่ 29 กย.) ตามเวลาสหรัฐ โดยกล่าวว่าเขาไม่ได้ตกลงที่จะรับรองสถานะรัฐปาเลสไตน์ระหว่างการพูดคุยกับทรัมป์ พร้อมยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ได้มีการเขียนระบุไว้ในข้อตกลง 20 ข้อ เนทันยาฮูย้ำว่าเรื่องนี้อิสราเอลชัดเจนและคัดค้านมาโดยตลอด
เนทันยาฮูยังกล่าวด้วยว่าหลังจากช่วยตัวประกันออกจากกาซา ทหารอิสราเอลจะยังประจำการอยู่ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของฉนวนกาซา ซึ่งส่วนนี้สวนทางกับข้อเสนอในแผนสันติภาพของทรัมป์ที่ระบุว่าอิสราเอลจะถอนทหารออกมาอย่างเป็นขั้นเป็นตอนหลังช่วยตัวประกันและปลดอาวุธฮามาส
ขณะที่นานาชาติต่างออกมาขานรับและสนับสนุนแผนสงบศึก 20 ข้อของผู้นำสหรัฐ รวมทั้งกลุ่มประเทศมุสลิม, กลุ่มมหาอำนาจยุโรป, ตลอดจนจีนและรัสเซีย โดย 8 ชาติอาหรับและมุสลิม ซึ่งประกอบด้วยอิยิปต์, จอร์แดน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, ตุรกี, กาตาร์, อินโดนีเซียและปากีสถานได้ออกแถลงการณ์ร่วมขานรับบทบาทของทรัมป์ที่มีความพยายามอย่างจริงใจที่จะยุติสงครามกาซา พร้อมประกาศว่าทั้ง 8 ชาติมุสลิมพร้อมที่จะมีส่วนร่วมในการผลักดันแผนสันติภาพของทรัมป์และผู้เกี่ยวข้อง
ก่อนหน้านี้อินโดนีเซียเสนอที่จะส่งกองกำลังเข้าไปรักษาความปลอดภัยในกาซา ระหว่างการเปลี่ยนถ่ายอำนาจ ขณะที่ปากีสถานประกาศจะฟื้นฟูความสัมพันธ์กับสหรัฐ รัฐบาลปาเลสไตน์ของประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาสก็ออกมาสนับสนุนและชื่นชมทรัมป์
อย่างไรก็ตาม กลุ่มฮามาสยังคงรักษาท่าที บอกว่ายังไม่ได้รับแผนสันติภาพของทรัมป์ ขณะที่กลุ่มจีฮัด ซึ่งเป็นพันธมิตรฮามาสและกลุ่มติดอาวุธในกาซาออกมาเยาะเย้ยบอกว่าเป็นอีกความพยายามของอิสราเอลในการรุกรานชาวปาเลสไตน์
ขณะที่ประเทศสำคัญๆในยุโรปก็พร้อมใจกันขานรับแผนสันติภาพของทรัมป์ แม้ส่วนใหญ่จะสนับสนุนให้มีการรับรองสถานะรัฐปาเลสไตน์ โดยประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสโพสต์ผ่าน X เรียกร้องฮามาสให้ปล่อยตัวประกันทั้งหมดโดยทันที และปฏิบัติตามแผนยุติสงครามของทรัมป์ ขณะเดียวกันก็ย้ำให้อิสราเอล “ยึดมั่น” ในแผนสันติภาพเช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ ของอังกฤษ, นายอันโตนิโอ คอสต้า ประธานอียู, นายกรัฐมนตรีจอร์เจีย เมโลนีของอิตาลี, นายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชซ ของสเปน และรัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนีที่ออกมาสนับสนุน พร้อมเรียกร้องทุกฝ่ายใช้โอกาสนี้ในการยุติสงคราม และเร่งฟื้นฟูความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ช่าวปาเลสไตน์โดยด่วน