เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 68 ที่หอประชุมสำนักงานเทศบาลเมืองชะอำ จ.เพชรบุรี สถานีข่าวท็อปนิวส์ จัดเวทีเสวนา ภายใต้หัวข้อ การจัดการแก้ปัญหาสัตว์น้ำต่างถิ่น กรณีปลาหมอคางดำแพร่ระบาด ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ข้อเท็จจริงระหว่างผู้เกี่ยวข้อง และผู้ได้รับผลกระทบ รวมไปถึงผู้ที่ใช้ประโยชน์ปลาหมอคางดำในพื้นที่ จ.เพชรบุรี โดยมีนายนุกูล พรสมบูรณ์ศิริ นายกเทศมนตรีเมืองชะอำ, นายประจวบ เจี้ยงยี่ ประมงจังหวัดเพชรบุรี, นายณรงค์ฤทธิ์ นาคลอย รองประธานกลุ่มเรือประมงพื้นบ้านชุมชนบางไทรย้อย ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี, นายปัญญา พุ่มเจริญ ประธานกลุ่มประมงพื้นบ้านชุมชนคลองเทียน ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และนายอดิเรก แก้วเจริญ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปสัตว์น้ำ ต.โพพระ อ.เมือง จ.เพชรบุรี เข้าร่วมเวทีเสวนา และมีนายอุดร แสงอรุณ บรรณาธิการบริหาร สถานีข่าวท็อปนิวส์ เป็นผู้ดำเนินรายการเสวนาในครั้งนี้ ท่ามกลางชาวบ้านและชาวประมงที่สนใจเข้าร่วมการเสวนาในครั้งนี้
นายนุกูล พรสมบูรณ์ศิริ นายกเทศมนตรีเมืองชะอำ กล่าวถึงการระบาดของปลาหมอคางดำที่เป็นตัวทำลายรายได้ของชาวชุมชน และทำลายระบบนิเวศเสียหาย ชาวประมงออกทะเลมีค่าใช้จ่ายและความเสี่ยงหลายๆอย่าง มองว่าหน่วยงานรัฐเดินมาผิดทางในเรื่องของการกำจัดปลาหมอคางดำ ถามหาความจริงใจในการแก้ปัญหาให้กับชาวประมง รัฐควรลงมาแก้ปัญหา กำจัดไปแล้วมันก็เกิดใหม่อยู่ต่อเนื่อง ดังนั้นขอให้การแก้ปัญหานำไปสู่ความอย่างยั่งยืน โดยนำเงินงบประมาณในการจับแต่ละครั้ง มาศึกษาและหาวิธีร่วมกัน ในการแปรรูปอาหารหรือทำอาหารสัตว์ ส่งเสริม SME สามารถให้มีการซื้อขายในพื้นที่ในราคาที่ยุติธรรม ทำให้คนที่ไม่มีอาชีพสามารถเกิดอาชีพใหม่ขึ้นมาได้ เป็นการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส
นายนุกูล ยังบอกด้วยว่าการแก้ปัญหาในเรื่องของการจำหน่าย ก็เป็นของเรื่องของการตลาด เรามีคนจำนวนมากมาดูงานที่เทศบาลในแต่ละวัน สามารถนำมาจำหน่ายหรือขายในราคาส่งได้ ตนก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุนและส่งเสริม ส่วนเรื่องของการจับปลาหมอคางดำ มีเพียง 2 เจ้าเท่านั้น เพราะการกำจัดมันเป็นไปด้วยความยากลำบาก เราพบว่าตรงบริเวณบ่อบำบัดน้ำเสียมีการระบาดของปลาหมอคางดำ แต่รอบๆขอบปูนเป็นพื้นที่จำกัด ส่วนคลองเคียนมันจับยาก เราต้องยอมรับความจริงว่าการกำจัดปลาหมอคางดำเราไม่สามารถทำหมดไปได้ แต่เราต้องอยู่ร่วมกับมันให้ได้ สุดท้ายมันก็จะเบาบางลงไปเอง และควรสนับสนุนงบประมาณทำเป็นอาหารสัตว์ โดยกรมปศุสัตว์ และกรมประมงมาทำงานร่วมกัน เพื่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกันอย่างสูงสุด
ส่วนตัวตนได้เสนอให้ส่วนหนึ่งของการกำจัดปลาหมอคางดำ ได้มาทำเป็นอาหารสัตว์ เพราะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถือเป็นกระทรวงหลักที่สำคัญ หากเรานำประมงเข้ามาร่วมจับและทำอาหารสัตว์ ในส่วนของพื้นที่ อ.ชะอำ เป็นความโชคดีที่พี่น้องประมงให้ความสนใจและให้ความสำคัญ และสามารถร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐได้ตลอด