จากแถลงการณ์ที่เผยแพร่โดยกระทรวงต่างประเทศของไทย นายสีหศักดิ์กล่าวว่าแต่เดิมตั้งใจจะกล่าวในสิ่งที่แตกต่างและเป็นข้อความเชิงบวก เพื่อสะท้อนถึงความหวังในอนาคต แต่ “ผมตัดสินใจเขียนสุนทรพจน์ใหม่เพราะคำพูดที่น่าเสียใจของรัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา” นายสีหศักดิ์กล่าวว่าเขารู้สึกผิดหวังที่กัมพูชายังคงแสดงตนเป็นเหยื่อ ครั้งแล้วครั้งเล่าที่กัมพูชาได้นำเสนอข้อมูลในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งล้วนเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ ด้วยเหตุผลเพื่อการบิดเบือนความเป็นจริง
นายสีหศักดิ์กล่าวว่าผู้ที่ตกเป็นเหยื่อที่แท้จริงคือทหารไทยที่สูญเสียขาจากทุ่นระเบิด เด็กนักเรียนไทยที่โรงเรียนถูกยิงถล่ม และพลเรือนผู้บริสุทธิ์ที่ถูกโจมตีจากจรวดของกัมพูชาขณะซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ นายสีหศักดิ์กล่าวว่าเมื่อวานนี้ (ศุกร์ที่ 26 กย.) ว่าเขาได้พบกับรัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาระหว่างการหารืออย่างไม่เป็นทางการ 4 ฝ่าย ซึ่งจัดขึ้นโดยสหรัฐ ซึ่งเรื่องนี้นายสีหศักดิ์ได้ขอบคุณประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในความพยายามผลักดันสันติภาพ อย่างไรก็ตามน่าเสียดายว่าสิ่งที่กัมพูชาพูดในวันนี้กลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับสิ่งที่พูดในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเผยให้เห็นเจตนาที่แท้จริงของกัมพูชา
นายสีหศักดิ์กล่าวว่ากัมพูชาเป็นผู้เริ่มความขัดแย้งครั้งนี้โดยมีเจตนาที่จะยกระดับข้อพิพาทเรื่องพรมแดนให้กลายเป็นความขัดแย้งระดับชาติ และยกระดับไปสู่เวทีโลกอย่างที่ทำในเช้าวันนี้ พร้อมประกาศว่าหมู่บ้านที่รัฐมนตรีกัมพูชาอ้างถึงอยู่ในดินแดนของไทย หมู่บ้านที่ว่านี้เกิดขึ้นได้เพราะไทยเปิดพรมแดนในช่วงราวปี 2513 ด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรมเพื่อให้ชาวกัมพูชาหลายแสนคนที่หลบหนีสงครามกลางเมืองเข้ามาหลบภัยในประเทศไทย ซึ่งตัวเขาเองก็อยู่ในเหตุการณ์ครั้งนั้นในขณะที่ยังเป็นนักการทูตหน้าใหม่
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสงครามกลางเมืองจะสิ้นสุดลงและศูนย์พักพิงถูกปิดลงแล้ว แต่หมู่บ้านชาวกัมพูชากลับขยายตัวออกไปในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา และแม้จะมีการประท้วงจากประเทศไทยซ้ำแล้วซ้ำเล่า กัมพูชาก็เพิกเฉยต่อคำขอที่เรียกร้องให้แก้ไขปัญหาการบุกรุกเหล่านี้ และเมื่อสันติภาพกลับคืนสู่กัมพูชาหลังจากข้อตกลงสันติภาพปารีสในปี 2534 ไทยยังคงช่วยฟื้นฟูสันติภาพในกัมพูชา ทั้งช่วยสร้างบ้าน ถนน และโรงพยาบาล เพราะมองว่าสันติภาพในกัมพูชาเป็นสิ่งจำเป็นต่อสันติภาพของประเทศไทย และนี่คือสิ่งที่เพื่อนบ้านควรทำเพื่อกันและกัน
นายสีหศักดิ์กล่าวว่าข้อตกลงสันติภาพไทย-กัมพุชาเป็นสิ่งเปราะบาง และจำเป็นที่สองประเทศจะต้องร่วมมือกันแก้ไขด้วยความจริงใจ แต่น่าเสียดายที่กัมพูชายังยั่วยุอย่างต่อเนื่อง มีการระดมทหารและพลเรือนเข้าสู่ดินแดนไทย นอกจากนี้เหตุการณ์ที่กัมพูชายิงปืนเข้าใส่ฝ่ายไทยเมื่อเร็วๆ นี้ ล้วนบั่นทอนสันติภาพและเสถียรภาพตามแนวชายแดน และครั้งล่าสุดเพิ่งเกิดขึ้นในวันนี้เอง ทั้งนี้กองทัพไทยยังคงตรวจจับโดรนสอดแนมของกัมพูชาที่บุกรุกเข้ามาในดินแดนไทยเป็นประจำทุกวัน การกระทำเหล่านี้ถือเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย รวมทั้งข้อตกลงหยุดยิงที่บรรลุในการประชุมสมัยพิเศษที่มาเลเซีย และในที่การประชุมคณะกรรมการชายแดนทวิภาคี
ทั้งนี้ นายสีหศักดิ์ขอให้สมาชิกสมัชชาใหญ่ยูเอ็นเชื่อมั่นว่าประเทศไทยได้ยืนหยัดเพื่อสันติภาพมาโดยตลอดและจะดำเนินต่อไป และจะทำทุกวิถีทางเพื่อหาทางออกอย่างสันติสำหรับปัญหาพิพาทกับกัมพูชา แต่ขณะเดียวกัน ไทยก็ยืนยันที่จะปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของตน พร้อมเรียกร้องกัมพูชาให้ร่วมมือกับไทยในการแก้ปัญหาพิพาทผ่านการเจรจาและกลไกที่มีอยู่