“ชาวเชียงใหม่” ตื่นตัว ปภ.เตือนแม่น้ำปิงล้นตลิ่ง ปริมาณน้ำเหนือมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง

"ชาวเชียงใหม่" ตื่นตัว ปภ.เตือนแม่น้ำปิงล้นตลิ่ง ปริมาณน้ำเหนือมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง

ตั้งแต่เช้าวันนี้ (26 กันยายน 2568) สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ส่งแจ้งเตือนทาง Cell Broadcast ผ่านโทรศัพท์มือถือของประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ สืบเนื่องจากการติดตามสถานการณ์แม่น้ำปิง พบว่าระดับน้ำที่สถานี P.67 บ้านแม่แต อ.สันทราย มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ใกล้ล้นตลิ่ง จะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ริมแม่น้ำปิงและพื้นที่ลุ่มต่ำ ในพื้นที่ อ.สันทราย และพื้นที่ใกล้เคียง โดยขอให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง ยกของขึ้นที่สูง ดูแลกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ฯลฯ

ขณะที่สื่อออนไลน์ในพื้นที่กระจายข่าวการเพิ่มขึ้นของประมาณแม่น้ำปิงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนพื้นที่เขตเศรษฐกิจของเมืองเชียงใหม่เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ เนื่องจากปีที่แล้วในช่วงเดียวกันเพิ่งเกิดน้ำเข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจ สร้างความเสียหายเป็นจำนวนมาก โดยตลอดทั้งวันมีประชาชนไปติดตามดูสถานการณ์ระดับน้ำปิงที่จุด P.1 สะพานนวรัฐ ภายในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งขณะนี้ได้ขึ้นธงสีเหลือง แจ้งเตือนเฝ้าระวังระดับน้ำ

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยในช่วงเช้า นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามระดับน้ำปิงที่จุด P.1 สะพานนวรัฐ ภายในตัวเมืองเชียงใหม่ พร้อม ยืนยันว่า วันนี้น้ำจะยังไม่ท่วมตัวเมือง คาดว่าระดับสูงสุดจะอยู่ที่ประมาณ 3.70 เมตร จากที่คาดการณ์ไว้เมื่อวานนี้ 3.50 เมตร (ระดับวิกฤตน้ำล้นตลิ่งเดิม 4.20 เมตร) เนื่องจากมีฝนตกลงมาเล็กน้อย พร้อมสั่งด่วนทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งเก็บสิ่งกีดขวางทางน้ำให้น้ำระบายได้สะดวกขึ้น

 

 

 

ทั้งนี้ปริมาณน้ำจากต้นน้ำ อำเภอเชียงดาว อำเภอแม่แตง ที่ไหลมาถึงบริเวณบ้านแม่แต อำเภอสันทราย ขึ้นไปสูงในเวลา 4:00 น เช้าวันนี้ และค่อยๆ ลดลงตามลำดับ แต่ในพื้นที่มีฝนตกหนักเป็นระยะเมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้มวลน้ำเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งโครงการชลประทานเชียงใหม่ก็คาดการณ์ว่า ตัวเลขสูงสุดในวันนี้ มวลน้ำก้อนใหญ่จะไหลผ่านจุด P.1 สะพานนวรัฐไปในช่วงก่อนเที่ยง ระดับประมาณ 3.70 เมตร

ขณะที่ระดับตลิ่งบริเวณแม่น้ำปิงเดิมอยู่ที่ 4.20 เมตร และหลังจากมีการขุดลอกลำน้ำปิงให้ลึกลงไป 2 เมตร และขยายกว้างขึ้นอีก 40 เมตร ทำให้ระบายน้ำได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ระดับตลิ่งเพิ่มขึ้นเป็น 4.85 เมตร และจากเดิมรองรับมวลน้ำได้ปริมาณ 490 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มเป็น 577 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ช่วยลดความเสี่ยงน้ำล้นตลิ่งได้มากกว่าเดิม

แต่สิ่งที่ยังน่าห่วงคือเศษกิ่งไม้และขยะที่สะสมติดอยู่บริเวณคอสะพาน ซึ่งอาจขวางการไหลของน้ำ ซึ่งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เทศบาลเร่งเก็บออก รวมทั้งเฝ้าระวังแนวตลิ่งบางจุดที่ยังไม่มีคันกั้นถาวร โดยจะใช้กองดินและทรายเสริมแนวชั่วคราว พร้อมจัดกำลังตรวจสอบตลอด 24 ชั่วโมง

ทั้งนี้ จากข้อมูลเรดาร์กลุ่มฝนพบว่า วันนี้ยังไม่มีกลุ่มฝนก่อตัวมากนัก ทำให้คาดว่าสถานการณ์ระดับน้ำปิงจะค่อยๆ คลี่คลาย และผ่านพ้นวิกฤตไปได้ด้วยดี

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เปิดตัว “แผนปฏิบัติการพัฒนาความปลอดภัยด้านอัคคีภัย” ปี 2566–2570 เดินหน้าสร้างมาตรฐานป้องกันเพลิงไหม้ทั้งจังหวัดอย่างเป็นระบบ
ระทม!! ชาวบางเคียน อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ ขนของหนีน้ำเป็นรอบที่ 3 ในรอบ 1 เดือน
"ธรรมนัส" วางแผนรุกท่องเที่ยวไทย ดึงทัวร์จีน 2 ล้านภายใน 4 เดือน ผนึกตร.เพิ่มมาตรการปลอดภัย
ฟิลิปปินส์อพยพประชาชนกว่า 4 แสนหนีพายุบัวลอย
แฉพฤติกรรมชาวเน็ตเขมรโพสต์สะใจหลุมยุบหน้ารพ.วชิระ
เพลิงไหม้เสาไฟฟ้ากลางเมืองสิงห์บุรี สาเหตุจากนกบินช็อตสายไฟ

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​