“ดร.สามารถ” เปิด 6 ประเด็น ชี้ไม่ใช่แค่เหตุถนนยุบ ทรุดตัว กระตุกแรงนี่คือ "ระบบใต้ดินล้มเหลว" ห่วงกระทบอาคาร แนะทางแก้หลุมยักษ์
ข่าวที่น่าสนใจ
25 กันยายน 2568 ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก “ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ – Dr.Samart Ratchapolsitte” ระบุว่า
ช็อกกลางกรุง! ถนนทรุด
“เสี่ยงถูกสูบทุกย่างก้าว”
เช้าวานนี้ (วันพุธที่ 24 กันยายน 2568) คนกรุงเทพฯ ตื่นมาเจอกับภาพที่ไม่มีใครอยากเห็น… ถนนหน้า รพ.วชิรพยาบาลยุบหายไปต่อหน้าต่อตา กลายเป็นหลุมขนาดมหึมา กลืนทั้งเสาไฟ สายไฟ และท่อสาธารณูปโภคไปในพริบตา
โชคดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ แต่คำถามใหญ่กลับดังขึ้นพร้อมกันทั้งเมือง… เกิดอะไรขึ้น? และจะเกิดซ้ำอีกหรือไม่?
1. ไม่ใช่แค่ถนนยุบ แต่คือ “ระบบใต้ดินล้มเหลว”
ข้อมูลจากหลายแหล่งยืนยันตรงกันว่า สาเหตุหลักมาจากดินไหลเข้าอุโมงค์ก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินบริเวณรอยต่อระหว่างอุโมงค์กับสถานี
เพดานอุโมงค์ซึ่งควรจะเป็นเกราะป้องกันกลับเกิดความเสียหาย ช่องว่างเล็กๆ กลายเป็นโพรงใหญ่ ดินชั้นบนจึงค่อยๆ ไหลลงไปเติมเต็มช่องว่างนั้น เมื่อโพรงใต้ดินขยายจนไม่เหลือแรงรองรับ ทำให้พื้นถนนด้านบนยุบตัวพังทลายลงอย่างรุนแรง
2. บทเรียนจากต่างประเทศ… สาเหตุเดียวกัน
เหตุการณ์เช่นนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เช่น ในปี 2559 เมืองฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ก็เคยเผชิญหลุมยักษ์กลางเมือง เนื่องจากน้ำและดินซึมเข้ารอยต่ออุโมงค์รถไฟฟ้าใต้ดิน ผลคือถนนกว้างกว่า 30 เมตรหายวับไปเช่นกัน
จุดร่วมที่น่ากลัวคือ “รอยต่ออุโมงค์-สถานี” มักเป็นจุดเสี่ยงที่สุด หาก Sealing ไม่สมบูรณ์ หรือเกิดรอยรั่วเพียงเล็กน้อย ก็เปิดทางให้ดินและน้ำไหลเข้า เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ (Chain Reaction) จนควบคุมไม่อยู่ กล่าวคือ เมื่อเกิดโพรงใต้ดิน แรงกดของผิวถนนด้านบนถ่ายน้ำหนักลง ทำให้การทรุดขยายวงกว้างและลึกขึ้นเรื่อยๆ
3. ความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่
กรณีถนนทรุดครั้งนี้ ไม่ใช่แค่ “หลุมใหญ่” ที่เรามองเห็น แต่คือสัญญาณเตือนว่า พื้นที่รอบๆ อาจมีอันตรายที่ยังไม่เผยตัว เช่น
(1) อาคารโดยรอบทั้งโรงพยาบาลและสถานีตำรวจสามเสนรวมทั้งอาคารอื่นๆ โดยเฉพาะอาคารที่รองรับโดยเสาเข็มที่สั้นกว่าความลึกของหลุมยักษ์เสี่ยงต่อแรงสั่นสะเทือนและการทรุดต่อเนื่อง
(2) ท่อประปา ไฟฟ้า โทรคมนาคม อาจหักพังส่งผลกระทบลูกโซ่
สิ่งที่น่าเป็นห่วงอีกประการหนึ่งคือ การจราจรบนถนนสามเสน… จะต้องปิดยาวนานเพียงใด ส่งผลต่อคนเมืองจำนวนมาก
4. สู้กับหลุมยักษ์ ต้องทำอย่างไร?
บทเรียนจากฟุกุโอกะบอกเราว่า การฟื้นฟูต้องทำ 3 ขั้นตอนหลัก
(1) หยุดความเสียหาย… อพยพพื้นที่เสี่ยง ตัดน้ำและไฟทันที
(2) ปิดโพรง… อัดซีเมนต์ (Grouting) อุดช่องว่างไม่ให้ขยาย
(3) เสริมโครงสร้าง… ตรวจสอบตลอดแนวอุโมงค์ เสริมค้ำยันและปรับปรุงรอยต่อใหม่
เหล่านี้คือวิธีที่จะหยุดหลุมไม่ให้ “สูบ” เมืองไปมากกว่านี้
5. คำถามที่ยังต้องการคำตอบ
(1) รอยต่ออุโมงค์เสียหายเพราะอะไร? การออกแบบผิดพลาด หรือการก่อสร้างบกพร่อง?
(2) ท่อน้ำแตกมีส่วน “เริ่มต้น” หรือเป็นเพียง “ผลลัพธ์” ของการทรุด?
(3) พื้นที่รอบๆ จะปลอดภัยจริงหรือไม่ หากยังไม่ตรวจละเอียด?
6. บทสรุป
สิ่งที่เกิดขึ้นกลางกรุงครั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของ “ถนนยุบ” แต่คือการเตือนให้เห็นความเปราะบางของระบบโครงสร้างใต้ดินที่อยู่ใต้เท้าเราทุกวัน… ทุกย่างก้าวที่เราเดิน และรถทุกคันที่วิ่งผ่านอาจอยู่เหนือโพรงที่ซ่อนอยู่ก็ได้
นี่คือสัญญาณเตือนว่า เมืองใหญ่ไม่ควรประมาทกับสิ่งที่มองไม่เห็น หากไม่เร่งป้องกัน ทุกย่างก้าวที่เราเดิน และทุกล้อรถที่วิ่งผ่านไซต์ก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินอาจเสี่ยงต่อการถูก “สูบ” โดยไม่รู้ตัว!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง