1. ก่อสร้างและการขุดเจาะ การขนส่งวัสดุและเครื่องมือ เครื่องจักร มากระทบกับดินติ่งและรั้วกําแพงบ้านทําให้พื้นบ้านทรุด ดินใต้บ้านเกิดไหลออกด้านนอก
บ้านแตกร้าวทั่วบริเวณบ้าน ระบบประปาท่อประปาแตกหักเกิด ความเสียหายเกือบทั้งหมด รั้วกําแพงบ้านพัง ระเบียงหน้าบ้านทรุดพังถล่ม ส่งผลให้ทรัพย์สินดังกล่าวได้รับความเสีหาย
และยอมรับที่จะเข้ามาดําเนินการแก้ไขบ้านพักอาศัยให้อยู่ในสภาพปกติเช่นเดิม แต่ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบไม่ได้เข้ามาดําเนินดูแก้ไขใดๆ
เพียงแต่กลับปล่อยให้คนงานของบริษัทฯ ผู้รับจ้างมาดําเนินการแก้ไขเพียงลําพัง ไม่ได้มีการเข้ามากํากับดูแลการดําเนินการแก้ไขใดๆ จึงทําให้เกิดความเสียหายกับบ้านพักอาศัยเพิ่มมากยิ่งขึ้น
เนื่องจากคนงานก่อสร้างของบริษัทฯ ผู้รับจ้างที่เข้ามาดำเนินการแก้ไขไม่มีความรู้ความสามารถที่เพียงพอที่จะทําการแก้ไขซ่อมแซมบ้านพักอาศัยของ คุณสุภาพรฯ ให้กลับมาใช้การได้อย่างปกติเช่นเดิม
แต่กลับสร้างภาระ ความเสียหายและความเดือดร้อนให้กับนางสาวสุภาพรฯ เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ คุณสุภาพรฯ ได้พยายามติดต่อให้เจ้าหน้าที่สํานักการระบายนํ้าเข้ามาดูแลควบคุม
และร้องเรียนพฤติกรรมของคนงานที่เข้ามาทําการแก้ไขและสร้างความเดือดร้อนให้แก่คุณสุภาพรฯ แต่ก็ไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดเข้ามาดูแลรับผิดชอบ ทั้งๆที่เป็นอํานาจหน้าที่


ซึ่งจะต้องปฏิบัติและทําการแก้ไข และป้องกันมิให้เกิดความเสียหายเพิ่มขึ้น แต่เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบกลับนิ่งเฉยและไม่สนใจที่จะดําเนินการใดๆ เพื่อยุติความเสียหาย
ไม่ให้เกิดขึ้นกับบ้านพักอาศัย และทรัพย์สินของคุณสุภาพรฯ และคุณสุภาพรฯ ได้พยายามร้องขอและเร่งรัดให้ทําการช่วยเหลือมาโดยตลอดและบ่อยขึ้น
แต่ถูกเจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ ของสํานักการระบายนํ้า กลับมีหนังสือกล่าวหาว่าคุณสุภาพรฯ ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านไม่ยอมให้คนงานของบริษัทฯ ผู้รับจ้างเข้าพื้นที่
ทั้งๆ ที่ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ไม่มีเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบเข้ามาดูแลควบคุมป้องกันใดๆ ทั้งสิ้น
ต่อมาสํานักการระบายนํ้าได้แจ้งให้คุณสุภาพรฯ ทําการประเมินค่าใช้จ่ายความเสียหายในการซ่อมแซมบ้านพักอาศัยให้สามารถใช้งานได้ตามปกติดังเดิม
คุณสุภาพรฯ จึงได้ว่าจ้างวิศวกรมาทําการประเมินความเสียหายและค่าใช้จ่ายในการดําเนินการซ่อมแซมบ้านพักอาศัย ซึ่งจากการประเมินค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมบ้านให้อยู่ในสภาพปกติ
และได้ส่งหนังสือแจ้งค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมพร้อมเรียกค่าเสียหาย ต่อสํานักการระบายนํ้าในวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 และได้มีการนัดประชุมเพื่อตกลงค่าเสียหายในวันที่ 16พฤษภาคม 2568
แต่ปรากฎว่าในช่วงวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 นั้น ปรากฎว่าระเบียงหน้าบ้านได้มีการแตกร้าวทรุดตัวเสียหายเพิ่มขึ้น และฝ้าเพดานหน้าระเบียงบ้านได้มีการพังถล่มเสียหายเพิ่มขึ้น


2. เมื่อถึงวันประชุมในวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 เพื่อเจรจาค่าเสียหายทางแก้ไขเยียวยาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น ปรากฎว่าได้มีบริษัทฯ ผู้รับจ้างเข้ามาร่วมประชุมด้วยในวันดังกล่าว แต่ไม่สามารถหาข้อสรุปได้
เพราะเจ้าหน้าที่ของ สํานักการระบายนํ้าต้องการให้บริษัทฯ ผู้รับจ้างเป็นผู้รับผิดชอบแต่ถูกบริษัทฯ ผู้รับจ้างปฏิเสธ และทางเจ้าหน้าที่สํานักระบายนํ้าก็ได้ปฏิเสธความรับผิดชอบในความเสียหายเช่นเดียวกัน
ซึ่งในปัจจุบันหากจะต้องทําการซ่อมบ้านพักอาศัยของข้าฯ ให้กลับมาอยู่ในสภาพที่สามารถใช้เงินได้ตามปกติดังเดิม และความเสียหายอื่นๆที่เกิดขึ้นรวมแล้วความเสียหายต่างๆทั้งหมดไม่ตํ่ากว่า 5,500,000 บาท (ห้าล้านห้าแสนบาท)
ซึ่งสํานักการระบายนํ้าจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในความเสียหายทั้งหมดให้แก่คุณสุภาพรฯ ไม่ใช่ให้คุณสุภาพรฯ ต้องทําการพูดคุยเรียกร้องความเสียหายกับบริษัทฯ ผู้รับจ้าง เพราะความเสียหายดังกล่าวเกิดขึ้นจากการก่อสร้างโครงการของสํานักการระบายนํ้าฯ
ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่รับผิดชอบหากมีความเสียหายเกิดขึ้นในโครงการก่อสร้างตามอํานาจหน้าที่ของตนเอง ทางคุณสุภาพรฯ ได้ร้องเรียนความเดือดร้อนไปยังผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คนปัจจุบัน
แต่เรื่องก็เงียบหายไป ไม่ได้ความช่วยเหลือใดๆ จึงได้มาร้องเรียนต่อสํานักข่าวท็อปนิว เพื่อให้ความช่วยเหลือในการเรียกร้องขอความเป็นธรรม
ไม่เพียงเท่านั้น นางสุภาพร ได้นำเอกสารบันทึกข้อความความเสียหาย และข้อตกลงเขตก่อสร้าง โดยมีเนื้อหาระบุว่า


19 มีนาคม 2563 ผู้รับเหมาจะเข้าดำเนินการภายในวันที่ 20 เมษายน 2563 และแล้วเสร็จทั้งหมด ภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2562 ปัจจุบันโซน ABC ได้ดำเนินการไปแล้ว เหลืองานดังต่อไปนี้
1. งานถมทรายโซน A และ C พร้อมใช้เครื่องบดอัด
2. งานวางหินทางเดินเดิม พร้อมยาแนวร่องขัดหินประดับ
3. งานทาสีรั้ว และผนังเดิม โซน A,B,C
4. โซน B เหลืองานยาแนวร่องกระเบื้องผนัง
5. โซน D อยู่ระหว่างสรุปวิธีการซ่อมแซม (โรงจอดรถ)
6.โซน E ทำบังเชิงปิดแนวรอยต่อ ระหว่างระเบียงกับตัวบ้านที่ชำรุด
ซึ่งผู้รับเหมายืนยันจะดำเนินการโซน A,B,C ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2562 และเจ้าของบ้านต้องอนุญาตให้ผู้รับเหมา ดำเนินการให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2562
ทั้งนี้ เอกสารดังกล่าว มีการลงนามโดย นายธีรศักดิ์ รัตนสุรางค์ วิศวกรโยธาปฎิบัติการ กลุ่มงานวิศวกรรมระบบระบายน้ำ 2
ขณะที่ นายนพศร ทรัพย์สิน วิศวรกร ผู้ดูแลบ้านผู้เสียหาย ได้บอกถึงสาเหตุหลักที่ทำให้บ้านหลังดังกล่าวได้รับความเสีย เนื่องมาจากการก่อสร้างของกรุงเทพมหานคร โดยสำนักระบายน้ำ ซึ่งมีการว่าจ้างผู้รับเหมามาดำเนินงาน
แต่จากการดำเนินการของผู้รับเหมา มีระบบการปกป้องที่ไม่ดี ทำให้ดินใต้อาคารบ้านสไลด์ลงสู่คลองด้านหลังของตัวบ้าน เหตุผลที่ทำให้บ้านหลังนี้ได้รับผลกระทบมากกว่าบ้านหลังอื่นๆ
เนื่องจากทางผู้รับเหมาใช้เป็นที่พักเครื่องจักร ที่ใช้สำหรับการก่อสร้าง โดยมีระยะเวลาการก่อสร้างเกือบ 3 ปีกว่า และตลอดระยะเวลาของการก่อสร้าง พบว่าไม่มีการป้องกันผนังกั้นดิน
ทำให้ดินภายใต้อาคารและบริเวณบ้าน ไหลลงสู่คลองด้านหลังบ้าน อย่างต่อเนื่อง จนทำให้บ้านได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ทีมข่าวท็อปนิวส์ พยายามติดต่อไปยัง ผู้อำนวยการสำนักระบายน้ำ กทม. และ กทม. ซึ่งยังไม่สามารถติดต่อได้ หากมีความคืบหน้าอย่างไร ทีมข่าวจะนำข้อมูลมาเสนอในทันที



