กระแสทองคำขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้คนเลือกที่จะไปขายหรือจำนำมากกว่าซื้อ ด้านเจ้าของร้านทองเผย คู่หนุ่มสาวที่มาหาซื้อทองเป็นสินสอดเงียบมานานหลายเดือนแล้ว ขณะที่คนที่เข้ามาซื้อทอง ก็จะมองหาแหวนแค่ครึ่งสลึง ผิดกับเมื่อก่อนที่คนจะเข้ามาหาซื้ออย่างน้อยสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาท แต่ก็ยังมีคนมาซื้อทองแท่ง เอาไว้เก็งกำไร ที่คาดว่าทองน่าจะขึ้นสูงถึงบาทละ 60,000
หลังจากสมาคมค้าทองคำรายงานราคาทองปิดตลาดเมื่อวานนี้ (23 ก.ย. 68) ปรับราคา 10 ครั้ง พุ่งขึ้น 1,050 บาท แตะขึ้นมาสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง โดยทองคำแทง 96.5% รับซื้อบาทละ 56,900 บาทขายออกบาทละ 57,000 บาท ขณะที่ทองรูปพรรณ 96.5% รับซื้อบาทละ 55,758 บาทขายออกบาทละ 57,800 บาท
ข่าวที่น่าสนใจ
เปิดเผยว่า ตนเองขายทองคำมาประมาณ 25 ปี ช่วง2-3 ปีหลังนี้ถือว่าทองคำมีการปรับราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยิ่งเมื่อวานนี้มีการปรับวันเดียว สูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ส่วนร้านของตนช่วงนี้ค่อนข้างเงียบมาก ปกติแล้วบริเวณตลาดแห่งนี้จะมีโรงงานต่างๆ มาตั้งหลายสิบโรงงาน มีหนุ่มสาวโรงงานเข้ามาซื้อทอง เปลี่ยนลายทอง ไม่ขาดสาย แต่เนื่องด้วยราคาทองที่สูงขึ้น ทำให้ลูดค้าที่เข้ามาซื้อทองลดน้อยลงไปมาก หรือเข้ามาซื้อ พฤติกรรมการซื้อก็เปลี่ยนไป
จากเมื่อก่อนจะเข้ามาถามหาสร้อยคอทองคำ อย่างน้อยน้ำหนัก 1 บาท แต่ปัจจุบันจะเข้ามาขอเลือกดู สร้อยข้อมือ 1-2 สลึงหรือไม่ก็เป็นแหวน ครึ่งสลึงแทน ตอนนี้ร้านอยู่ได้เพราะกำไรจากการดอกเบี้ย ที่ลูกค้ามาจำนำทองไว้ ส่วนคู่หนุ่มสาวที่นิยมมาเลือกซื้อทองคำ หรือทองรูปพรรณ นำไปเป็นสินสอดทองหมั้นนั้น ต้องบอกเลยว่า เงียบหายไปนานหลายเดือนแล้ว บางคู่ได้ปรับเปลี่ยนเป็นการเช่าสินสอดแทนการซื้อทองคำจากร้านขายทอง ส่วนลูกค้าที่เข้ามาซื้อทองแทงนั้น ยังพอมีอยู่บ้าง ส่วนใหญ่ลูกค้าที่เข้ามาซื้อทองแท่งนั้น จะเป็นกลุ่มลูกค้าที่ซื้อนำไปเก็งกำไร ที่มองว่าราคาทองคำจะพุ่งสูงขึ้นไปอีก ตนเองขายทองมานานกว่า 25 ปี ตอนแรกก็ไม่คิดไม่คิดว่าราคาทองคำจะสูงถึงบาทละ 5 หมื่น แต่ตอนนี้มองว่าอนาคตอันใกล้นี้ เราจะได้เห็นราคาทองคำ แตะบาทละ 6 หมื่นในอีกไม่ช้า
ภาพ/ข่าว ก้องเกียรติ พุทธิรังสิมาภรณ์ ผู้สื่อข่าว TOPNEWS ทั่วไทย จ.ฉะเชิงเทรา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
