วีระ สมความคิด ลงพื้นที่ชายแดนตราด จี้รัฐบาลใช้ไม้แข็ง ทุบกาสิโนรุกล้ำ-ยกเลิก MOU 44

วีระ สมความคิด ลงพื้นที่ชายแดนตราด จี้รัฐบาลใช้ไม้แข็ง ทุบกาสิโนรุกล้ำ-ยกเลิก MOU 44 ที่ไทยเสียเปรียบหวั่นผลประโยชน์ทางทะเลตกเป็นของกัมพูชา

ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด/ เวลา 10.30 น.วันที่ 23 กันยายน 2568 ระหว่างที่ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก ต.หาดเล็ก อ.คลอลใหญ่ จ.ตราด อยู่นั้น นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) ได้เดินลงจากรถยนต์ส่วนตัว โดยสวมหมวกทหาร และเดินเข้ามาที่หน้าประตูด่านถาวรบ้านหาดเล็ก ซึ่งระหว่างนั้นมีทหารนาวิกโยธินที่ 182 ดูแลอยู่ 3-4 นาย พร้อมแจ้งให้ทหารนาวิกโยธินที่ 182 ทราบว่า จะขอเดินทางลงไปสำรวจพื้นที่บริเวณหลักเขตที่ 73 และสำรวจสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดตราดที่กำลังเป็นข่าวครึกโครมอยู่ในขณะนี้ และมีหลายจุด ที่ไทยเสียเปรียบอยู่ โดยเฉพาะบริเวณหลักเขตแดนที่ 73
ที่เป็นหลักเขตทางบกหลักสุดท้ายเส้นแบ่งเขตระหว่างไทยกัมพูชา อย่างไรก็ตาม ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินที่ 182 ไม่อนุญาติโดยให้เหตุผลว่า หากจะเดินทางเข้าไป ต้องต้องแจ้งให้ฝ่ายกัมพูชาทราบด้วย รวมทั้งอาจจะละเมิดข้อตกลงระหว่างกัน แม้จะมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่โทรมาขออำนวยความสะดวกให้ก็ตาม

ทำให้นายวีระ สมความคิด ตัดสินใจไม่เดินทางออกไปแล้วได้ดูผ่านประตูและถ่ายภาพบันทึกไว้ พร้อมบันทึกคลิปเสียงอธิบายถึงความสำคัญของหลักเขตที่ 73

นายวีระ กล่าวภายหลังการลงพื้นที่ว่า การมาดูด้วยตาตนเองทำให้เห็นสภาพปัญหาที่แท้จริง โดยเฉพาะบริเวณหลักเขตที่ 73 ซึ่งฝ่ายไทยไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้นับตั้งแต่เกิดเหตุปะทะเมื่อวันที่ 24-28 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยมีเงื่อนไขว่าต้องขออนุญาตจากฝ่ายกัมพูชาก่อน ทั้งที่เป็นแผ่นดินไทย ถือเป็นเรื่องน่าอัปยศที่ผู้นำไทยในอดีตยอมรับเงื่อนไขเช่นนี้ ถ้าปล่อยให้สถานการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไป เราจะยิ่งเสียเปรียบในด้านพื้นที่ เพราะกัมพูชารุกล้ำเข้ามาตลอดเวลา และมักจะได้เปรียบในการเจรจาเสมอ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมทางการไทยถึงยอมรับเงื่อนไขที่เสียเปรียบ ทั้งที่เราไม่ได้ด้อยกว่าทั้งในด้านเศรษฐกิจหรือกำลังรบ

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายวีระยังกล่าวถึงกรณีกาสิโนบ้านท่าเส้น ก็เดินทางไปมาแล้วและในมุมมองของตนเองจะต้องทุบทำลายสถานเดียวเท่านั้น ซึ่งปัญหาการก่อสร้างกาสิโนและอาคารต่างๆ บริเวณบ้านท่าเส้นที่ล้ำเข้ามาในเขตไทย ทหารไทยก็รับรู้แต่ทำได้แค่การประท้วงเป็นหนังสือผ่านไปยังฝ่ายรัฐบาล แต่กลับไม่สามารถดำเนินการใดๆได้ ทางออกมีเพียงทางเดียวคือการ “ทุบทำลายทิ้ง” เท่านั้น ไม่สามารถใช้วิธีเจรจาเพื่อใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ เพราะจะเข้าทางกัมพูชาในการอ้างสิทธิ์ครอบครองทั้งหมดในอนาคต

“สิ่งปลูกสร้างที่ล้ำเข้ามานั้นผิดกฎหมายไทยชัดเจน เพราะไม่ได้ขออนุญาตก่อสร้างจาก อบต. หรือเทศบาลของไทย จะไปใช้ประโยชน์ร่วมกันได้อย่างไร ต้องทุบทิ้งอย่างเดียว” นายวีระกล่าว พร้อมทั้งวิจารณ์การใช้งบประมาณ 51 ล้านบาทสร้างถนนในบริเวณดังกล่าวว่า เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับกาสิโนของกัมพูชามากกว่าประโยชน์ของประชาชนคนไทยในพื้นที่ซึ่งมีบ้านเรือนอยู่ไม่กี่หลังคาเรือน

นายวีระยังได้เรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิก MOU ปี 2543 และ 2544 ว่าด้วยพื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อนทางทะเล โดยชี้ว่านับตั้งแต่มี MOU ดังกล่าว ประเทศไทยมีแต่เสียดินแดนและเสียเปรียบมาโดยตลอด เพราะฝ่ายกัมพูชาไม่เคยปฏิบัติตามข้อตกลงและยังคงรุกล้ำอธิปไตยของไทยอย่างต่อเนื่อง

“พวกที่บอกว่าต้องรักษา MOU ไว้เพื่อเป็นกรอบการเจรจา ผมถามว่าเราได้เปรียบตรงไหน นับตั้งแต่มี MOU เรามีแต่เสียแผ่นดิน กัมพูชาละเมิดข้อ 5 ของ MOU ตลอดเวลา เมื่อเราประท้วง เขาก็ไม่เคยหยุดสร้าง มันมีประโยชน์กับกัมพูชาฝ่ายเดียว”

นอกจากนี้ นายวีระยังแสดงความกังวลต่อท่าทีของรัฐบาลที่มอบอำนาจการตัดสินใจปัญหาชายแดนให้แก่ฝ่ายทหารทั้งหมด โดยชี้ว่ารัฐบาลพลเรือนต้องมีความรับผิดชอบร่วมกัน และการผลักภาระให้ทหารเพียงฝ่ายเดียวอาจเป็นความเสี่ยงในอนาคต พร้อมมองว่าชนวนความขัดแย้งในปัจจุบัน เกิดจากฝ่ายผู้นำกัมพูชาที่ต้องการสร้างกระแสชาตินิยมเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองภายในประเทศ

ภาพ/ข่าว จักรกฤชณ์ แววคล้ายหงษ์  ผู้สื่อข่าว TOPNEWS ทั่วไทย จ.ตราด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ผู้ว่าฯชลบุรี ประชุมท้องถิ่นขับเคลื่อนและติดตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล กระทรวงมหาดไทยและกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
“ฮุนเซน” ลั่นไม่คิดลดตัวขอร้องไทยเปิดด่าน ฟุ้งไม่กระทบศก.ประเทศ โวปิดพรมแดนอีก 100 ปี "เขมร" ไม่ล่มสลาย
โคราช ลงนาม MOU โครงการขับเคลื่อนความร่วมมือการจัดการอาชีวศึกษา ระหว่าง “ว.เทคนิคนครโคราช” กับสถานประกอบการเอกชนกว่า 20 แห่ง
รองนายกฯ เปิดนิคมอุตสาหกรรมมการผลิตอัจฉริยะ HHA บ้านบึง รองรับแรงงาน1200 ตำแหน่ง
ธ.ก.ส. และผู้แทน JFC ศึกษาดูงานการเงิน การเกษตรและชนบท ณ สวนมะพร้าวน้ำหอม NC COCONUT จ.ราชบุรี
เริ่มแล้ว งาน “สราญรมย์ ชมสายน้ำ” ผลักดันการท่องเที่ยวหลายมิติ กระตุ้นเศรษฐกิจภายในจังหวัดกาญจนบุรี ในวันที่ 22-24 ก.ย.68

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​