กรณีโลกออนไลน์แชร์คลิปหวาดเสียวของช่างทาสี หนุ่ม 2 คน ที่ลอยตัวบนหน้าต่างอาคารสูง ร่างห้อยคาอยู่ชั้น 26 ของอาคารคอนโดแห่งหนึ่ง (ลุมพินี) บริเวณห้าแยกปากเกร็ด จ.นนทบุรี ความสูง 32 ชั้น และพยายามส่งสัญญาณบอกเจ้าของห้องขอหนีตายเข้าไปหลบ หลังพบว่าเชือกที่ใช้ไต่ลงมาทาสีถูกมือดีตัดขาด จึงเปิดหน้าต่างพูดคุยอยู่สักพักก่อนจะให้ช่างทั้งสองหนีกลับเข้ามาพักที่ระเบียงห้องก่อนลงไปชั้นล่างอย่างปลอดภัย โดยหลังคลิปแชร์ไปในโลกออนไลน์ ทำให้มีคนที่เห็นคลิปดังกล่าว เข้ามาคอมเมนต์ต่างๆ นานา ทั้งต่างพากันตื่นตกใจ และชมเชยเจ้าของห้องที่มีน้ำใจช่วยเหลืออย่างปลอดภัย
ล่าสุด (16 ต.ค.) ที่ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ฝ่ายนิติบุคคลประจำคอนโดดังกล่าว นำช่างประจำอาคารเข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน นานกว่า 3 ชั่วโมง โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนร่วมสังเกตการณ์แต่อย่างใด ระหว่างรอ ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์สอบถาม ช่างสอง ช่างทาสีที่ประสบเหตุเบื้องต้นทราบว่าวันเกิดเหตุโรยตัวจากชั้น 32 เพื่อทาสีอาคาร ซึ่งทาไปได้ประมาณ 1 ชั่วโมง กระทั่งโรยตัวลงมาถึงชั้นที่ 26 ก็รู้สึกผิดปกติเชือกสั่นแปลกๆ จึงก้มลงไปดูบริเวณระเบียงชั้น 21 พบหญิงสาวคนหนึ่งกำลังตัดเชือกโรยตัวของตนอยู่ จึงขอความช่วยเหลือจากเจ้าของห้องชั้น 26 ขอผ่านเข้าห้องตรวจสอบเชือก และแจ้งฝ่ายอาคารทราบเรื่อง กระทั่งมีคลิปเผยออกไป
ต่อมา ช่วงบ่ายวันเดียวกัน (16 ต.ค.) พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.พงศ์จักร ปรีชาการุณพงศ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด และชุดสืบสวน ร่วมประชุมคดีพร้อมรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐาน ก่อน พ.ต.อ.พงศ์จักร ออกมาเปิดเผยว่า จากการสืบสวนสอบสวน ขณะนี้พอจะรู้ตัวบุคคลผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าจะเป็นคนตัดเชือกโรยตัวของช่างทาสีแล้ว คาดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นผู้ลงมือก่อเหตุดังกล่าวจริง เนื่องจากพยานหลักฐาน เป็นพยานแวดล้อมทั้งพยานบุคคลและภาพจากกล้องวงจรปิดบางส่วน
อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องสงสัยรายนี้ยังไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงเร่งประสานเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ ทำการตรวจดีเอ็นเอ และรอยตัดเชือก ซึ่งขณะนี้ได้ส่งไปยังกองพิสูจน์หลักฐานสํานักงานตํารวจแห่งชาติตรวจสอบแล้ว และวันนี้ (16 ต.ค.) ได้เรียกนิติบุคคลของคอนโดดังกล่าวมาสอบปากคำในประเด็นลูกบ้านโดยเฉพาะชั้น 21 มีกี่ห้อง แต่ละห้องมีผู้พักอาศัยกี่คน วันเวลาเกิดเหตุแต่ละห้องมีคนอยู่กี่คนและผู้ต้องสงสัย ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญอยู่ที่ห้องหรือไม่ หากผลการสืบสวน และผลนิติวิทยาศาสตร์ออกมาตรงตามที่ตั้งข้อสงสัยไว้ ตำรวจพร้อมแจ้งข้อหา ทำให้เสียทรัพย์ และพยายามฆ่า ได้ทันที
สำหรับผู้ต้องสงสัยเป็นหญิงอายุ 34 ปี อาศัยอยู่ที่คอนโดชั้น 21 เจ้าหน้าที่ทราบชื่อนามสกุลแล้ว (ขอสงวนนาม) เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ประสานผู้จัดการนิติบุคคลคอนโดกลางดึกที่ผ่านมา เพื่อเข้าตรวจสอบบริเวณห้องพักผู้ต้องสงสัย แต่ผู้ต้องสงสัยได้หยิบโทรศัพท์มือถือเข้ามาถ่ายภาพเจ้าหน้าที่สืบสวนทุกนายไว้ พร้อมขู่ว่าจะฟ้องร้องตำรวจต่อพฤติกรรมดังกล่าว
เบื้องต้นผู้ต้องสงสัยให้การปฏิเสธอ้างว่าไม่รู้ไม่เห็นเรื่องดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวมาให้ปากคำแต่ผู้ต้องสงสัยไม่ยิมยอม และจากการตรวจสอบพบว่า ที่ผ่านมามีพฤติกรรมชอบโวยวายโทรศัพท์ร้องเรียนที่ สภ.ปากเกร็ด เดือนละหลายครั้ง แต่พอเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบก็ไม่พบเรื่องที่ร้องเรียน จนเจ้าหน้าที่จำเสียงและเบอร์โทรศัพท์ได้ว่าเป็นหญิงสาวคนเดียวกัน เบื้องต้น พล.ต.ต.ไพศาล สั่งการให้เร่งรวมรวมหลักฐานออกหมายเรียกผู้ต้องสงสัยรายดังกล่าวมาสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
