วัน 22 กันยายน 2568 มีรายงานความคืบหน้า การนำผลประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย-กัมพูชา หรือ GBC เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2568 ไปสู่การปฏิบัติ โดยที่ประชุมกำหนดให้มีการถอนอาวุธหนัก และยุทโธปกรณ์ทำลายล้างสูงออกจากพื้นที่ชายแดน กลับสู่ที่ตั้งปกติ โดยฝ่ายเลขานุการGBC และคณะกรรมชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา หรือ RBC จะหารือกันภายใน 3 สัปดาห์ เพื่อจัดทำแผนดำเนินการ และเริ่มเคลื่อนย้ายกำลังตามกรอบเวลาที่กำหนด โดยให้คณะผู้สังเกตการณ์ หรือ IOT มาร่วมสังเกตการณ์
ข่าวที่น่าสนใจ
ล่าสุด พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยความคืบหน้าการนัดประชุม RBC เพื่อจัดทำแผนดำเนินการถอนอาวุธหนัก และยุทโธปกรณ์ทำลายล้างสูงออกจากพื้นที่ชายแดนว่า ฝ่ายกัมพูชายังไม่มีท่าทีที่จะดำเนินการ มีแต่จะเพิ่มกำลังในพื้นที่ ซึ่งยังไม่ชัดว่าจะสามารถนำไปสู่การปฏิบัติได้หรือไม่ และยังไม่ได้มีการกำหนดการประชุมRBC คาดว่าจะเป็นต้นเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งการทำแผนถอนอาวุธ ก็คงดำเนินการไปอย่างนั้นตามทฤษฎี และเชื่อว่ากัมพูชาก็คงไม่นำไปสู่การปฏิบัติ ต่อไปนี้หากกัมพูชามีพฤติกรรมยั่วยุ เราจะไม่คุยต่อไปแล้ว ปัจจุบันพบว่ากัมพูชายังใช้โดรนบินเข้าพื้นที่อธิปไตยของไทยทุกวัน และยังพบว่ามีการฝังทุ่นระเบิดสังหารบุคคลอยู่เรื่อยๆ
เมื่อถามถึงกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรี ประกาศให้อำนาจกองทัพตัดสิน เปิด-ปิดด่านและสร้างรั้วชายแดนเต็มที่ พลโทบุญสิน กล่าวว่า ต้องขอบคุณนายกฯ ที่ให้ความเชื่อมั่นและไฟเขียวกองทัพในการแก้ไขปัญหาชายแดน
ขณะที่กองทัพภาคที่1 พลโทอมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 เตรียมประชุม RBC วาระพิเศษ ระหว่างกองทัพภาคที่ 1 และภูมิภาคทหารที่ 5 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 24- 26 กันยายน 2568 ที่ปอยเปต กัมพูชา ณ ห้องประชุม กองทัพภาคที่ 1 โดยนำแผนการเก็บกู้ทุ่นระเบิดไปเสนอ รวมถึงการจัดระเบียบพื้นที่ชายแดนจังหวัดเสระแก้ว
ส่วนกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด หรือ กปช.จต. ได้เลื่อนการประชุม RBC ออกไปก่อน เนื่องจากมีกรณีการผ่อนปรนด่านจันทบุรี-ตราด เข้ามาในช่วงนั้น และในวันที่ 30 กันยายน 2568 ทางศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก.ได้ให้แต่ละพื้นที่สำรวจ เพื่อทำแผนไว้ภายใน 1 เดือน แต่ยังไม่เกิดขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
