"สันติสุข" ชี้เหตุจำเป็น อสส. ควรอุทธรณ์ คดี "ทักษิณ" ผิด ม.112 ให้สิ้นกระแสความ
ข่าวที่น่าสนใจ
22 กันยายน 2568 นายสันติสุข มะโรงศรี พิธีกรข่าวท็อปนิวส์ ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า อัยการสูงสุด ต้องอุทธรณ์คดี 112 ของทักษิณ ให้สิ้นกระแสความ
คดีหมายเลขดํา อ.1860/2567 ศาลชั้นต้นยกฟ้อง เพราะยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย
แต่หลักฐานเท่าที่มีในชั้นศาลอาญา ศาลก็ระบุไว้ชัดเจนว่า คลิปสัมภาษณ์นายทักษิณไม่ได้มีการตัดต่อ เสริมแต่งหรือบิดเบือน
เพียงแต่การตีความ การรับฟังพยานหลักฐาน ทำให้นายทักษิณรอด
ฉะนั้น ตามหลักฐานเท่าที่มีอยู่เดิม การตีความก็อาจเปลี่ยนไปได้ ขึ้นกับดุลยพินิจของผู้พิพากษา
“พยานหลักฐานโจทก์จึงมีน้ำหนักรับฟังได้ว่า จําเลยให้สัมภาษณ์นักข่าวที่สาธารณรัฐเกาหลี ตามคลิปวิดีโอหมาย วจ.1 และ วจ.2 โดยมีเนื้อหาของข้อความตามคําฟ้อง ไม่ได้เป็นการตัดต่อหรือเสริมแต่งเพื่อใส่ความให้ร้ายจําเลย”
หากอัยการสูงสุดอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ย่อมจะสามารถใช้ดุลนิพิจ ดุลยธรรม พิเคราะห์อย่างเที่ยงตรง ว่าจำเลย คือ นายทักษิณ พูดหมายความถึงใคร? เข้าข่ายความผิดหรือไม่?
ศาลสูงจะเห็นพ้องกับศาลชั้นต้น หรือเห็นต่างไป อย่างไร?
คดีนี้ สมควรที่อัยการสูงสุดจะต้องอุทธรณ์ เพื่อให้สิ้นกระแสความ เพื่อปกป้องพระเกียรติของสถาบันพระมหากษัตริย์
มิฉะนั้น องค์กรอัยการอาจต้องมัวหมอง เพราะถูกครหาว่าช่วยเหลือจำเลยคดี 112 เสียเอง หรือไม่?
เพราะในคำพิพากษาศาลชั้นต้น ก็เสมือนประจานการทำหน้าที่อัยการในคดีดังกล่าวไว้แล้วบางส่วนหรือไม่ ดังที่ศาลชั้นต้นว่า “ในขณะที่การสืบพยานหลักฐานของโจทก์ไม่สมกับภาระการพิสูจน์ในคดีอาญาว่าจําเลยกระทําความผิดตามฟ้อง พยานหลักฐานโจทก์ที่นําสืบมา”
ถ้าอัยการสุงสุดไม่อุทธรณ์ โดยไม่มีเหตุผลเพียงพอ เชื่อว่า จะเป็นตราบาป ประทับติดตัวไปตลอดครับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง