No data was found

ตำรวจรวบแล้ว “สาวหล่อ” หลอก ม. 6 โอนเงินลงทุน สูญเงินไป 4 หมื่น

กดติดตาม TOP NEWS

ผบช.ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สั่งเอง ล่าตัวได้แล้วคนหลอกนักเรียน ม.6 ชาว อ.หนองหงส์ บุรีรัมย์ ให้ร่วมลงทุนสูญเงินไป 40,000 บาท ได้ตัวที่ จ.ชลบุรี เป็นสาวหล่ออายุ 37 ปี ชาวเชียงใหม่ เจ้าตัวปฏิเสธไม่รู้เรื่อง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.หนองหงส์ ตั้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน

วันที่ 16 ต.ค. 2564 จากกรณีนางเอ (นามสมมุติ)อายุ 51 ปี พา น.ส.บี(นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ชาว อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดบุรีรัมย์ เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.อรรถชัย ศรีจันทร์สารวัตร(สอบสวน) สภ.หนองหงส์ อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ เพื่อเอาผิดเจ้าของบริษัทฯเอกชนแห่งหนึ่ง  ตามหลักฐานที่พบในข้อมูลสนทนา ระบุอยู่ที่  กรุงเทฯ (ตรวจสอบพบว่าบริษัทนี้มีอยู่จริง) หลังถูกหลอกให้ไปลงทุนตามคำชักชวนในแอป สูญเงินไปกว่า 40,000 บาท

 

ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า หลังจากตกเป็นข่าวไปแล้วนั้น ต่อมาได้รับรายงานจาก สภ.หนองหงส์ ว่า พล.ต.ท กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(บช.สอท.) ได้สั่งการให้ พ.ต.ท ภัทรเดช ภัทรบุตรเพชร รองผกก.กก1 บก.สอท.3 ร่วมกับพ.ต.อ สง่า ทรงธรรม ผกก.สภ.หนองหงส์ อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ พร้อมชุดสืบสวน เข้าจับกุม น.ส.วาสนา แก้วประจักษ์ อายุ 37 ปี ชาว อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ บริเวณ อพาร์เม้นต์  ชั้นที่ 5 ไม่มีชื่อ  ย่าน ถนนเฉลิมพระเกียรติ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ขณะกำลังพักผ่อนอยู่กับแฟนสาว โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ,สมุดบัญชีธนาคารจำนวน 1 เล่ม สมุดมีรอยเจาะรูเหมือนยกเลิกการใช้บัญชี หลังจากนั้นได้ควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.หนองหงส์ อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์

 

จาการสอบสวน น.ส.วาสนา ให้การปฏิเสธอ้างว่าไม่ใช้เจ้าของบัญชี และไม่ใช่แอดมินแอปฯ ที่หลอกให้น.ส.บี นักเรียนชั้น ม.6 โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารจำนวนกว่า 40,000 บาท เพื่อร่วมลงทุน โดย น.ส.วาสนา อ้างว่าบัญชีธนาคาร ดังกล่าวได้ยกเลิกไปแล้ว

 

ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบไปยังบัญชีดังกล่าว พบว่ายังไม่ได้ยกเลิก แต่มีการตั้งใจเจาะรูสมุดบัญชีเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ตำรวจสามารถดำเนินคดีได้เพียงคนเดียวก่อน เนื่องจากศาลไม่ออกหมายจับแฟนสาวอีกคนที่ จนท.ไปพบอยู่ด้วยกัน และคาดว่าน่าจะมีผู้ก่อเหตุมากกว่านี้

เบื้องต้นแจ้งข้อหาความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน.

 

ภาพ/ข่าว เรืองรุจ วังแจ่ม ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.บุรีรัมย์

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ก.พลังงาน" เตรียมขึ้นราคาดีเซลแบบขั้นบันได หลังสิ้นสุดลดภาษีสรรสามิต
เกษตรกรเลี้ยงหมู ย้ำอากาศแปรปรวน ร้อนจัด-พายุฤดูร้อนกระหน่ำ กระทบหมูเสียหายพุ่ง
"กรมทางหลวง" พร้อมเปิดให้วิ่งฟรีชั่วคราว มอเตอร์เวย์หมายเลข 81 "สายบางใหญ่-กาญจนบุรี"
"อนุทิน" จัดระเบียบ กปน. ยึดผลประโยชน์ปชช. พร้อมดื่มน้ำประปาโชว์ ย้ำสะอาด ทานได้
นายอำเภอบางละมุง ยืนยันอีกครั้ง ไม่มีสารแอมโมเนียรั่วไหลออกมาจากโรงงานน้ำแข็ง ระบุค่าสารแอมโมเนียนอกโรงงาน เป็น 0 ขอประชาชนอย่าตระหนก
"สมาคมชาวปักษ์ใต้" ออกแถลงการณ์ หลัง "บิ๊กโจ๊ก" นายกฯสมาคม ถูกให้ออกราชการ
“สุทิน” ถกสภากลาโหม กำชับกองทัพใช้งบฯ 67 โปร่งใส สั่งติดตามสถานการณ์อิหร่าน-อิสราเอล
อิหร่าน ลั่นยังไม่มีแผนตอบโต้อิสราเอลตอนนี้
"ซึมเศร้าหลังวันหยุดยาว" เช็ค 7 อาการ ต้องพบจิตแพทย์หรือไม่
แล้งหนัก สำนักสงค์ เดือดร้อน ไม่มีน้ำ พระวอนช่วยเหลือ ขาดแคลนน้ำ อุปโภคบริโภค

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น