ปฏิบัติตามข้อริเริ่มธรรมาภิบาลโลก ร่วมสร้างบ้านที่สงบสุขและสวยงาม

(บทความของท่านจาง เจี้ยนเว่ย เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย) ต้นเดือนกันยายน ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้เสนอข้อริเริ่มธรรมาภิบาลโลก (Global Governance Initiative) ในที่ประชุมองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO) ซึ่งนับเป็นผลิตผลสาธารณะที่สำคัญอีกประการหนึ่งที่จีนมอบให้แก่ประชาคมระหว่างประเทศ ต่อเนื่องจาก “ข้อริเริ่มการพัฒนาระดับโลก (Global Development Initiative)” “ข้อริเริ่มความมั่นคงระดับโลก (Global Security Initiative) ” และ “ข้อริเริ่มอารยธรรมระดับโลก” (Global Civilization Initiative) ที่เคยเสนอไว้แล้ว ข้อริเริ่มนี้ได้ชี้ชัดถึงทิศทางและแนวทางการปฏิบัติที่ถูกต้อง

สำหรับการปฏิรูปและสร้างสรรค์ระบบธรรมาภิบาลโลก และเพิ่มพูนแรงขับเคลื่อนสำคัญสำหรับธรรมาภิบาลโลกที่เป็นธรรมและสมเหตุสมผล ตลอดจนการจับมือก้าวสู่ประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมนุษยชาติ
การเสนอข้อริเริ่มธรรมาภิบาลโลกถือว่าเหมาะสมกับสถานการณ์โลก เนื่องจากปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงในรอบศตวรรษกำลังเร่งตัว ความปั่นป่วนในภูมิภาคเกิดขึ้นบ่อยครั้ง การพัฒนาทางเศรษฐกิจถูกขัดขวาง กระแสต่อต้านโลกาภิวัตน์ทวีความรุนแรงมากขึ้น และช่องว่างของธรรมาภิบาลกำลังขยายตัว ประการแรกคือความน่าเชื่อถือถูกบ่อนเซาะ — วัตถุประสงค์และหลักการแห่งกฎบัตรสหประชาชาติไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างจริงจัง กลไกการระงับข้อพิพาทขององค์การการค้าโลกหยุดชะงัก ประการที่สองคือต้องยกระดับประสิทธิภาพอย่างเร่งด่วน — ประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ความสามารถในการตอบสนองเหตุฉุกเฉิน และความโปร่งใสของสหประชาชาติยังรอมิได้ถูกยกระดับขึ้น บางประเทศไม่ปฏิบัติตามภาระหน้าที่ตามที่รับผิดชอบ ประการที่สามคือการสูญเสียความเป็นตัวแทนอย่างร้ายแรง — บางประเทศขัดขวางการปฏิรูปกลไกพหุภาคีมายาวนานเพื่อรักษาอำนาจและผลประโยชน์ของตนเอง ทำให้ประเทศกำลังพัฒนาไม่สามารถออกเสียงและรักษาประโยชน์ของตนเองได้อย่างแท้จริง
ประวัติศาสตร์พิสูจน์แล้วว่า ยิ่งยากลำบาก ยิ่งต้องยึดมั่นในเจตนารมณ์แห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และยึดมั่นในความร่วมมือเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน การที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเสนอข้อริเริ่มนี้ จึงสอดคล้องกับความปรารถนาของประชาชนทั่วโลกและตอบสนองความต้องการเร่งด่วนของยุคสมัย ข้อริเริ่มนี้ประกอบด้วย 5 แนวคิดหลัก ได้แก่
1.ยึดมั่นในความเสมอภาคด้านอธิปไตย นี่คือเงื่อนไขเบื้องต้นของธรรมาภิบาลโลก — ทุกประเทศไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ แข็งแกร่งหรืออ่อนแอ มั่งคั่งหรือยากจน ต่างมีสิทธิเลือกเส้นทางการพัฒนาและระบบทางสังคมของตนเอง และมีสิทธิร่วมตัดสินใจในกิจการระหว่างประเทศอย่างเท่าเทียมกัน การส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตยในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ต้องสะท้อนผลประโยชน์และข้อเรียกร้องของประเทศส่วนใหญ่ สามารถยกระดับความมีสิทธิเป็นตัวแทนและสิทธิการส่งเสียงของประเทศกำลังพัฒนา
2.ปฏิบัติตามหลักนิติธรรมระหว่างประเทศ นี่คือหลักประกันขั้นพื้นฐานของธรรมาภิบาลโลก — ความเท่าเทียมและความยุติธรรมคือความปรารถนาร่วมของทุกประเทศ เราต้องเคารพบรรทัดฐานพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างครบถ้วน เต็มที่ และโดยสมบูรณ์ เช่นกฎบัตรสหประชาชาติ เพื่อให้แน่ใจว่าจะมีการบังคับใช้กฎหมายและระเบียบระหว่างประเทศอย่างเท่าเทียมและเป็นมาตรฐานเดียวกัน ต้องรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของหลักนิติธรรมระหว่างประเทศ ส่งเสริมความเท่าเทียมในสิทธิ โอกาส และกฎระเบียบ ผลักดันความทันสมัยของสังคมมนุษย์อย่างไม่หยุดยั้ง
3.ยึดมั่นในพหุภาคีนิยม นี่คือเส้นทางพื้นฐานของธรรมาภิบาลโลก — การจะยึดมั่นในระบบพหุภาคีนิยมที่แท้จริง ต้องรักษาระบบระหว่างประเทศที่มีสหประชาชาติเป็นแกนหลักอย่างมั่นคง รักษาระเบียบระหว่างประเทศที่มีกฎหมายระหว่างประเทศเป็นพื้นฐาน รักษาหลักการพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่มีวัตถุประสงค์และหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติเป็นพื้นฐาน ยึดมั่นในหลักการหารือร่วมกัน สร้างสรรค์ร่วมกัน และแบ่งปันร่วมกัน ไม่ดำเนินนโยบายเอกภาคีและอำนาจนิยม
4.ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง นี่คือค่านิยมของธรรมาภิบาลโลก — ต้องทำให้ประชาชนในทุกประเทศมีส่วนร่วมและได้รับประโยชน์ร่วมกัน ยกระดับความรู้สึกได้ประโยชน์จากการร่วมสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน และความเชื่อมั่นต่อความร่วมมือกันเพื่อเผชิญความท้าทาย และการรวมพลังแห่งความสามัคคีเพื่อพัฒนาไปด้วยกัน
5.ยึดหลักการปฏิบัติจริง นี่คือหลักการสำคัญของธรรมาภิบาลโลก — พลังชีวิตของธรรมาภิบาลโลกอยู่ที่การปฏิบัติ หัวใจสำคัญอยู่ที่การลงมือทำ และสิ่งพื้นฐานอยู่ที่ผลสำเร็จ ต้องมองทั้งปัจจุบันและอนาคต ต้องแก้ปัญหาที่แท้จริงของประเทศต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้องใส่ใจต่อปัญหาของประเทศกำลังพัฒนาทั้งหลาย ประเทศพัฒนาแล้วก็ต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างจริงจัง จัดหาแหล่งทรัพยากรและผลิตภัณฑ์สาธารณะเพิ่มมากขึ้น ประเทศกำลังพัฒนาต้องสามัคคีกัน และสร้างคุณูปการอย่างเต็มความสามารถ
สาระสำคัญของข้อริเริ่มนี้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์และหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติ มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนบทบาทนำของสหประชาชาติในกิจการระหว่างประเทศ และผลักดันให้ประเทศต่าง ๆ มีส่วนร่วมในการปฏิรูปและสร้างระบบธรรมาภิบาลโลกผ่านกลไกพหุภาคี จีนพัฒนาเติบโตขึ้นมาภายใต้ระเบียบระหว่างประเทศในปัจจุบัน ไม่ว่าสถานการณ์โลกจะเปลี่ยนแปลงเช่นไร จีนจะยังคงยึดมั่นในหลักการหารือร่วมกัน สร้างสรรค์ร่วมกัน และแบ่งปันร่วมกัน ทำให้การพัฒนาของจีนกลายเป็นโอกาสใหม่ ๆ ของทั่วโลก เพิ่มพูนความแน่นอนแก่การพัฒนาโลกอย่างสันติ และแสดงถึงบทบาทที่รับผิดชอบในการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมนุษยชาติ
ปีนี้เป็นปีครบรอบ 50 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีน–ไทย ตลอดครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา ในฐานะหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน จีนและไทยได้ร่วมกันผลักดันการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนมากยิ่งขึ้น จีนและไทยต่างเป็นผู้ได้รับประโยชน์ ผู้พิทักษ์ และผู้สร้างสรรค์ระเบียบโลกหลังสงครามโลกครั้งที่สอง มีความมุ่งหวังร่วมกันในเรื่องสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรือง อีกทั้งมีผลประโยชน์ร่วมและจุดยืนใกล้เคียงกันในกิจการระหว่างประเทศและภูมิภาค จีนและไทยยังเป็นประเทศโลกใต้เหมือนกัน เป็นพลังสำคัญในการปฏิรูปและปรับปรุงธรรมาภิบาลโลก จีนยินดีร่วมมือกับไทยในการยืนอยู่ข้างความถูกต้องของประวัติศาสตร์ ความก้าวหน้าของมนุษยชาติ สนับสนุนลัทธิพหุภาคีนิยม และจะจับมือกันสร้างแบบอย่างในการปฏิบัติตามข้อริเริ่มธรรมาภิบาลโลก และร่วมสร้างบ้านที่สงบสุขและสวยงาม

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ปฏิบัติตามข้อริเริ่มธรรมาภิบาลโลก ร่วมสร้างบ้านที่สงบสุขและสวยงาม
รวมพลังรณรงค์ต้านซื้อเสียง ก่อนเลือกตั้งนายก อบต.นาโพธิ์
อบรมอาสาฯ ดูแลนักท่องเที่ยว สร้างเครือข่ายความปลอดภัยในพื้นที่
หญิงวัย 35 รมควันคิดสั้นในรถ ตำรวจชุมพรทุบกระจกช่วยรอดชีวิตหวุดหวิด
อบจ.พิษณุโลก ร่วมโครงการขับเคลื่อนการจัดตั้งมินิธัญญารักษ์นอกโรงพยาบาล
ตระเวนขโมยผ้าไหม ผกก.สภ.บัวเชด จัดทีมตามจับหัวขโมยได้ภายใน 1 ชั่วโมงหลังรับแจ้งเหตุ

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​