จังหวัดสุรินทร์ ประกอบพิธีแซนโฎนตาบูชาบรรพบุรุษ ทำบุญให้ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว

จังหวัดสุรินทร์ ประกอบพิธีแซนโฎนตาบูชาบรรพบุรุษ ทำบุญให้ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว

วันที่ 19 กันยายน 2568 เวลา 16:30 น ที่บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุเรนทรภักดีศรีณรงค์จางวาง  (ปุ่ม-เจ้าเมืองสุรินทร์คนแรก)  นายชำนาญ  ชื่นตา  ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ และพี่น้องประชาชนชาวสุรินทร์เป็นจำนวนมาก  ร่วมพิธีแซนโฎนตาบูชาบรรพบุรุษของชาวสุรินทร์  หรือพิธีเซ่นไหว้บรรพบุรุษของชาวสุรินทร์แต่โบราณ  ที่พูดภาษาเขมรเป็นภาษาพื้นเมือง

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ประเพณีแซนโฎนตา เป็นประเพณีดั้งเดิมของจังหวัดสุรินทร์ ที่ประชาชนชาวสุรินทร์ได้ถือปฏิบัติสืบทอดกันมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน เป็นการทำบุญให้แก่บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว ให้ได้รับกุศลผลบุญ ที่ลูกหลานได้อุทิศให้ซึ่งตรงกับวันแรม 14 ค่ำ เดือน 10 ของทุกปี ชาวสุรินทร์จะพร้อมใจกัน หยุดภารกิจหน้าที่การงานทั้งหมด และนัดหมายไปรวมกัน ณ บ้านที่เป็นศูนย์กลางของครอบครัวส่วนใหญ่จะเป็นบ้านของผู้ที่อาวุโสที่สุดของครอบครัว พร้อมกับเตรียมเครื่องไหว้มาทำพิธีเซ่นหรือแซน เช่นหัวหมู ไก่ เนื้อ ปลา ข้าวสาร ข้าวสวย ผลไม้ ขนมหวาน ขนมกระยาสารท ข้าวต้ม หมูและข้าวต้มหางยาว เพื่อไหว้บรรพบุรุษของตนเองที่ล่วงลับไปแล้ว ประเพณีแซนโฎนตา นอกจากเป็นการอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว ยังเป็นกุศโลบายของบรรพบุรุษ ที่มีจุดหมายให้ลูกหลาน ได้แสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีต่อบรรพบุรุษผู้มีพระคุณ และมีโอกาสได้พบปะเครือญาติ เพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ได้พึ่งพาอาศัยช่วยเหลือซึ่งกันและกันทั้งยังมีความเชื่อว่า วันแซนโฏนตานี้ ถ้าลูกหลานคนใดไม่ได้ไม่ไปร่วมแซนโฎนตา โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วอาจไม่พอใจ ส่งผลให้การทำมาหากินประกอบอาชีพไม่ราบรื่น ไม่ก้าวหน้า จิตใจเป็นกังวลไม่เป็นสุข ความเชื่อนี้ ชาวจังหวัดสุรินทร์ส่วนใหญ่ จึงไปร่วมพิธีแซนโฏนตาที่บ้านบรรพบุรุษ หรือไม่ก็จัดพิธีแซนโฎนตาที่บ้านของตนทุกปี จากความสำคัญของวัฒนธรรมประเพณีที่ถือปฏิบัติมาอย่างยาวนานของชาวสุรินทร์

 

 

 

 

 

โดยไงแซนโฎนตา (วันสารทใหญ่) คือ แรม 14 ค่ำ เดือนสิบ(10) ปี 2568 ตรงกับ วันอาทิตย์ ที่ 21 พ.ศ.2568 นี้ และเป็นวันที่ญาติพี่น้อง ภายในครอบครัว จะต้องไปร่วมกันทำบุญ โดยเชื่อว่ายมบาลจะปล่อยวิญญาณออกมาในวันเวลาแตกต่างกันตามแต่ผลบุญที่ทำไว้ ใครถูกปล่อยออกมาก่อนก็จะได้รับอานิสงส์มากกว่าวิญญาณที่ถูกปล่อยทีหลัง ดั้งนั้นในวันแรม 14 ค่ำ จึงเป็นการอ้อนวอนให้ยมบาลปล่อยวิญญาณออกมาให้หมดเพื่อให้มารับอานิสงส์ผลบุญด้วยตนเอง ที่ครอบครัวญาติพี่น้องได้ทำบุญและประกอบพิธีเซ่นไหว้ให้วิญญาณ จะได้ทุกข์ทรมานน้อยลง และเช้าวันถัดมาคือวันแรม 15 ค่ำ จะนำของไปทำบุญที่วัด ยังเชื่ออีกว่าหากไม่มีญาติพี่น้องทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ วิญญาณเหล่านั้นจะอดอยากทุกข์ทรมาน และอาจโกรธแค้นสาปแช่งผู้คนต่างๆ นานา การเซ่นไหว้ จึงเป็นการขอความคุ้มครองและอ้อนวอนให้บรรพบุรุษปกปักรักษาตนเองและครอบครัวให้อยู่เย็นเป็นสุขด้วย  ตามความเชื่อของคนไทยพูดภาษาเขมรสุรินทร์.

 

 

 

 

 

 

ภาพ-ข่าว กฤษดากร กีรติธำรงค์เจริญ ผู้สื่อข่าวTOPNEWSทั่วไทย จ.สุรินทร์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ซีพี" พลิกโฉมสู่อนาคต เปิดศูนย์วิจัยและนวัตกรรม CoE ขนทัพเครื่องมือปฏิบัติการระดับโลก ยกระดับไทยสู่ศูนย์กลางเทคโนโลยีเอเชีย
จับ 3 แรงงานกัมพูชา ในไร่อ้อย เผยชีวิต ไร้วุฒิ-ไร้เส้นสาย หางานในประเทศไม่ได้ ต้องเสี่ยงเข้าไทย
ทหารตรวจยึดล็อตใหญ่ซุกซ่อนในไร่อ้อยชายแดนสระแก้ว
กองทัพภาคที่ 3 รับมอบ "ลวดหนามหีบเพลง" สนับสนุนภารกิจชายแดน
"อยุธยา" อ่วมหนัก น้ำทะลักท่วม 7 อำเภอ ปชช.เดือดร้อนแล้ว 28,518 ครัวเรือน จนท.เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย
คณะสงฆ์อำเภอศรีราชา มอบสิ่งของและปัจจัยช่วยเหลือผู้ประสบเหตุไฟไหม้บ้าน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​