ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินแอร์ ฟอร์ซ วัน ระหว่างเดินทางจากอังกฤษกลับสหรัฐฯว่า เขาอ่านเจอที่ไหนสักแห่งว่า สื่อทีวีต่อต้านเขาถึง 97% และย้ำอีกครั้งว่า 97% เสนอข่าวแง่ลบ แต่เขาก็ชนะมาได้อย่างง่ายดาย รวมทั้ง 7 รัฐสวิงสเตทในการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว หลายช่องนำเสนอแต่ข่าวเสีย ๆ ของเขา พวกเขาได้รับใบอนุญาต แต่คิดว่าควรเพิกถอนใบอนุญาตช่องทีวีเหล่านี้
ก่อนหน้านั้น ทรัมป์ โพสต์ว่า การยกเลิกรายการของจิมมี คิมเมล เป็นข่าวดีมากสำหรับสหรัฐอเมริกา และชื่นชม ABC ที่ในที่สุด ก็กล้าทำในสิ่งที่ต้องทำเสียที คิมเมลเป็นพิธีกรที่ไม่ได้เรื่องเลย และเรตติ้งก็ย่ำแย่
ความเห็นของทรัมป์ มีขึ้นหลังจากช่อง ABC ของดิสนีย์ ประกาศระงับออกอากาศรายการ Jimmy Kimmel Live! ของ จิมมี คิมเมล อย่างไม่มีกำหนด หลังจากที่เขาแสดงความเห็นคดีลอบสังหาร ชาร์ลี เคิร์ก อินฟลูเอนเซอร์ขวาจัด พันธมิตรของทรัมป์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และคณะกรรมการกิจการสื่อสารโทรคมนาคมรัฐบาลกลาง หรือ FCC ขู่ดำเนินการลงโทษ
คิมเมล พิธีกรแนวตลก วัย 57 ปี พูดเปิดรายการเมื่อวันจันทร์ว่า มาก้า แก๊ง ( Maga gang เรียกขบวนการ Make America Great Again ว่าเป็นแก๊ง) พยายามอย่างสิ้นหวังให้เด็กคนนี้ ที่ฆาตกรรม ชาร์ลี เคิร์ก ถูกมองว่าไม่ใช่พวกเดียวกัน และพยายามเก็บแต้มทางการเมืองจากเรื่องนี้ ทั้งยังเปรียบเทียบการไว้อาลัยพันธมิตรการเมืองวัย 31 ปีของทรัมป์ว่า เหมือนกับเด็ก 4 ขวบอาลัยปลาทอง
หลังเกิดเหตุฆาตกรรมช็อกชาวอเมริกัน จากน้ำมือ ไทเลอร์ โรบินสัน วัย 22 ปี / คิมเมล โพสต์อินสตาแกรม ประณามเหตุรุนแรงและแสดงความเสียใจแก่ครอบครัวของชาร์ลี เคิร์ก แต่การระบุว่า ไทเลอร์เป็นรีพับลิกันขวาจัด ไม่ตรงกับที่ผู้ว่าการรัฐยูทาห์แถลงว่า ไทเลอร์มีอุดมการณ์ซ้าย เบรนเดิน คารร์ ประธาน FCC กล่าวทางช่อง ฟ็อกส์ นิวส์ ว่า คิมเมลจะไม่ใช่คนสุดท้าย / FCC จะเดินหน้าเอาผิดสื่อกระจายเสียงที่ไม่รับผิดชอบกับผลประโยชน์สาธารณะ หากไม่พอใจวิธีแก้ปัญหาตรงไปตรงมาเช่นนี้ ก็สามารถคืนใบอนุญาตให้ FCC ได้
หลังชาร์ลี เคิร์ก ถูกลอบสังหาร มีหลายคนในหลายวงการถูกไล่ออกและตกงาน จากการแสดงความเห็น ที่ถูกฝ่ายสนับสนุนทรัมป์มองว่า เป็นความเห็นสร้างความเกลียดชังหรือ hate speech และเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ขู่ดำเนินคดีผู้ที่แสดงความเห็นไม่เหมาะสม / จิมมี คิมเมล กลายเป็นคนล่าสุด
นักเขียน นักแสดง และอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา พากันออกมาประณามการพักหน้าจอของจิมมี คิลเมล ว่า เป็นการยอมจำนนต่อแรงกดดันจากรัฐบาลที่ขัดกับรัฐธรรมนูญ / โอบามา กล่าวว่า หลังจากมีการร้องเรียนกันมาหลายปีเกี่ยวกับวัฒนธรรมการแบน (cancel culture) รัฐบาลปัจจุบันยกระดับครั้งใหม่มาอยู่ในจุดอันตราย ด้วยการขู่ใช้กฎระเบียบเล่นงานบริษัทสื่อหากไม่เงียบหรือไล่ออกนักข่าวและผู้แสดงความเห็นที่ไม่ชอบ
นักแสดงบางคนเห็นด้วยว่าไม่ถูกต้อง และมองว่าเป็นวัฒนธรรมการแบนที่น่าตกตะลึง สหภาพแรงงานในวงการฮอลลีวูดสองแห่ง ระบุว่า เป็นการละเมิดเสรีภาพการแสดงความเห็นตามรัฐธรรมนูญ แต่อีกส่วนโต้ว่า การพักหน้าจอคิมเมล เป็นเรื่องของการรับผิดชอบ ไม่ใช่วัฒนธรรมการแบน เกรก กัตเฟล์ด พิธีกรรายการภาคดึกของ ฟ็อกส์ กล่าวว่า คิมเมลเจตนาชี้นำผิด ๆ กล่าวโทษการสังหารเคิร์ค ว่าเป็นฝีมือของฝ่ายเดียวกับผู้ตาย เช่นเดียวกับ เพียร์ส มอร์แกน พิธีกรดังชาวอังกฤษ แสดงความเห็นว่า คิมเมลเล่าความเท็จว่ามือลอบสังหารชาร์ลี เคิร์ก เป็นพวกหนุนทรัมป์ และความเห็นเช่นนี้ก่อให้เกิดความโกรธแค้นอย่างเข้าใจได้ทั่วสหรัฐฯ
