เขื่อนเจ้าพระยาคงตรึงการระบาย2,200 ลบ.ม.ต่อเนื่องยังไม่มีการปรับเพิ่มการระบายในระยะนี้

 

วันนี้ 18 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยายังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ก่อนหน้านี้ทางกรมชลประทานได้มีการแจ้งปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเพิ่มขึ้นหลังจากมวลน้ำทางด้านตอนบนไหลลงมาสมทบยังเขื่อนเจ้าพระยา ซึ่งทางกรมชลประทานแจ้งต้องขอยกเลิกการปรับเพิ่มการระบายน้ำ และคงอัตราการระบายอยู่ที่ 2,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ไปก่อนในระยะนี้ ขณะที่พื้นที่ทางด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา เร่งกรอกกระสอบทรายวางแนวป้องกันจุดเสี่ยงน้ำท่วมชุมชน

ข่าวที่น่าสนใจ

สำหรับปัจจุบัน ที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 2,215 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ที่สถานี C.13 เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีปริมาณน้ำทางด้านเหนือเขื่อนอยู่ที่ 16.94 เมตร/รทก. มีปริมาณน้ำทางด้านท้ายเขื่อนอยู่ที่ 15.23 เมตร/รทก. ซึ่งระดับน้ำห่างจากตลิ่งอยู่ที่ 1.11 เมตร และเขื่อนเจ้าพระยามีอัตราการระบายน้ำผ่านเขื่อนอยู่ที่ 2,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งส่งผลทำให้ที่สถานี C.3 บ้านบางพุทรา อ.เมือง จ.สิงห์บุรี มีปริมาณน้ำไหลผ่านจุดวัดอยู่ที่ 2,230 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที


ซึ่งก่อนหน้านี้ทางกรมชลประทาน ได้มีการขอแจ้งปรับเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ซึ่งจะทยอยจากอัตรา 2,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็นอัตรา 2,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่อง เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำฝน-น้ำท่า ซึ่งขณะนี้ การขอแจ้งการปรับเพิ่มการระบายน้ำเป็นอัตรา 2,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ต้องยกเลิกการปรับเพิ่มไปก่อน เนื่องจากจะมีการพิจารณาทบทวนการบริหารจัดการน้ำอีกครั้ง ซึ่งก็จะทำให้เขื่อนเจ้าพระยานั้นยังคงอัตราการระบายน้ำอยู่ที่ 2,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่องไปก่อนในระยะนี้


ขณะที่ทางด้านเทศบาลตำบลหาดอาษาได้ร่วมกับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา เร่งกรอกกระสอบทรายเพื่อสร้างเป็นคันป้องกันน้ำ หลังจากที่ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาใกล้จะล้นข้ามถนน


โดยทางนายอิทธิรัชต์ อาสาสรรพกิจ กำนันตำบลหาดอาษา เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในพื้นที่ที่เวลานี้ยังถือว่ายังปลอดภัย แต่มีบางจุดที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำอาจจะเสี่ยงที่น้ำนั้นจะเอ่อล้นได้ทางเทศบาลตำบลหาดอาษา รวมไปผู้นำชุมชนและชาวบ้านในพื้นที่ก็ได้ช่วยกันกรอกกระสอบทรายเพื่อเสริมป้องกันน้ำ ซึ่งหากทางเขื่อนเจ้าพระยามีการเพิ่มการระบายน้ำจากเดิม 2,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ก็จะมีจุดเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ยังรู้สึกเป็นกังวลใจในเรื่องของสถานการณ์น้ำ ซึ่งหากมีปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้นสิ่งที่ต้องการเลยก็คือกำลังเจ้าหน้าที่ที่จะเข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน โดยเบื้องต้น ได้ประสานไปยัง นายอำเภอสรรพยา เพื่อขอกำลังพลเจ้าหน้าที่ทหาร จากกองบิน 4 และ เจ้าหน้าที่ทหาร จากศูนย์ซ่อมบำรุงเครื่องบินทหารบก จ.ลพบุรี และคาดว่าสถานการณ์น้ำในปีนี้คงไม่เกิดวิกฤติมากนักในพื้นที่ แต่ก็ยังกังวลใจในเรื่องของพายุที่อาจจะเข้ามาทางด้านตอนบน

วรชล ฟักขาว  ผู้สื่อข่าว topnewsทั่วไทย  จ.ชัยนาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ร่วมขับเคลื่อน “120 วัน วาระพืชกระท่อม” สู่พื้นที่ปลอดสิ่งเสพติด
"บช.ภ.2 " ระดมกำลัง ตร.ควบคุมฝูงชนรับมือ "ม็อบเขมร" หลังพบความเคลื่อนไหวทยอยรวมตัวเตรียมป่วนอีกรอบ
“บิ๊กเล็ก” ซัด “ฮุน มาเนต” ปมเขมรบุกรื้อลวดหนาม แต่ยื่นประท้วงไทย ย้อนกลับวางทุ่นระเบิดแรงกว่า ลั่นจากนี้ใครรุกล้ำ ดำเนินการตามกม.
ศักดินัย สส.ตราด อภิปรายจี้รัฐบาล เร่งแก้ปัญหาเขมรรุกล้ำ 17 จุด
อบจ.สงขลา จัดทำแผนกองทุนฟื้นฟูฯ ปี 69 ตอบโจทย์พื้นที่
โคราชปิ๊งไอเดียสุขภาพตาเด็ก ป.1–6 กว่า 5 พันคนเข้าคัดกรอง เจอผิดปกติ 500 คน ได้แว่นใหม่เสริมการเรียน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​