เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 17 ก.ย. 68 ภายใต้การอำนวยการ และสั่งการของ พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.เชียงราย, พ.ต.อ.อนุพันธ์ กันถารัตน์ ผกก.สภ.เชียงแสน, พ.ต.ท.กิตติภูมิ กันจินะ รอง ผกก.สส.สภ.เชียงแสน ได้สั่งการให้ชุดจับกุม นำโดย ร.ต.อ.สุภโชค บัวสังข์ รอง สว.สส.สภ.เชียงแสน, ด.ต.ณัฏฐชัย คำเงิน ผบ.หมู่(สส.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจแม่มะ สภ.เชียงแสน นำโดย ร.ต.อ.วิศิษฏ์ หินทอง รอง สวป.สภ.เชียงแสน ได้ร่วมกันตั้งจุดตรวจจุดสกัด เพื่อป้องกันการลักลอบลำเลียงยาเสพติด, การลักลอบนำพาแรงงานต่างด้าวและการกระผิดกฎหมายอื่นๆ ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา
ต่อมาเวลา 13.50 น. มีรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า สีขาว ทะเบียน จฉ 4089 เชียงใหม่ ขับขี่มาจากทาง อ.เชียงแสน มุ่งหน้าไปทาง อ.แม่สาย เมื่อขับขี่มายังบริเวณจุดตรวจ เจ้าหน้าที่จึงให้สัญญาณหยุดและได้แสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่เพื่อขอตรวจสอบ ทราบชื่อ คือ นายไตรรัตน์ แซ่ตั้ง อายุ 32 ชาว อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง (ผู้ขับขี่) และนายฐิติกร แซ่ลี้ อายุ 32 ปี ชาว อ.แม่สรวย จ.เชียงราย (ผู้โดยสาร)
ขณะเจ้าหน้าที่กำลังสอบถามผู้ขับขี่อยู่นั้น สังเกตุเห็นอาการมีพิรุธของทั้งสองคน จึงได้เชิญตัวลงมาจากรถและขอทำการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด ผลการตรวจสอบเบื้องต้นพบสารเสพติดประเภทเมทแอมเฟตามีนในปัสสาวะทั้งสองคน เจ้าหน้าที่จึงได้ขอค้นรถยนต์คันดังกล่าวเพื่อหาสิ่งของผิดกฎหมาย ผลการตรวจค้นพบ สมุดบัญชีเงินฝากของธนาคารจำนวนหลายรายการ สอบถามทั้งคนให้การปฏิเสธว่า ไม่ทราบถึงที่มาหรือสมุดบัญชีเงินฝากดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้ขอทำการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือพบว่ามีการสนทนาในกลุ่มถึงเรื่องการฟอกเงิน ฟากเงิน ถอนเงิน จากผู้ใช้บัญชีหลายราย และมีการสั่งการให้ถอนเงิน
จากการสอบ นายไตรรัตน์ ให้การรับว่า นายฐิติกร ได้ขอให้ตนเปิดบัญชีธนาคารให้ เพื่อนำไปใช้ให้คนโอนเงินเข้ามา จากนั้นตนจะได้รับเงินค่าตอบแทนเป็นเงิน 15 เปอร์เซ็นต์ของเงินที่โอนเข้ามา ต่อมาได้มีนางสมพร เข็มนาค โอนเงินเข้ามาบัญชีธนาคารกรุงเทพ หมายเลขบัญชี 6150297072 ชื่อบัญชี นายไตรรัตน์ แซ่ตั้ง จำนวน 149,501 บาท เมื่อโอนเงินสำเร็จ จึงได้พากันไปกดเงินจากตู้ ATM ใน ต.เวียง อ.เชียงแสน อยู่หลายครั้งรวมเป็นเงิน 136,000 บาท
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้สอบถามถึงเงินจำนวนดังกล่าว เนื่องด้วยตรวจค้นรถยนต์คันดังกล่าวแล้วไม่พบ และนายไตรรัตน์ได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าได้ถอนเงินสดไว้และนำไปฝากกับแฟนของนายฐิติกรที่พักรออยู่ที่ร้านกาแฟใน ต.เวียง อ.เชียงแสน เพื่อรอที่จะโอนคืนต่อผู้สั่งการต่อไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวนายไตรรัตน์และนายฐิติกรมายังร้านกาแฟใน ต.เวียง อ.เชียงแสน เพื่อขยายผลและตรวจยึดเงินสดจำนวนดังกล่าว
เมื่อไปถึงยังร้านกาแฟดังกล่าว พบกลุ่มคนกำลังนั่งอยู่ภายในร้าน จำนวน 3 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบถามถึงจำนวนเงินสดที่นายไตรรัตน์ และนายฐิติกร ได้นำฝากไว้นั้นมี น.ส.ธัญญาเรศ ปานสุวรรณ์ อายุ 30 ปี ชาว อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา แสดงตัวและนำเงินสดจำนวน 136,000 บาท ให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจยึดและเชิญตัวมายัง สภ.เชียงแสน เพื่อตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดอีกครั้ง ผลการตรวจพบสารเสพติดในปัสาวะจริง และส่งปัสสาวะไปตรวจเพื่อยืนยันผลที่ รพ.เชียงแสน ผลการตรวจยืนยันพบสารเสพติดประเภทเมทแอมเฟตามีนในปัสสาวะ
เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า 1.ยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีของตน โดยไม่มีเจตนาใช้เพื่อกิจการของตน โดยประการที่รู้หรือหรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตามพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 2.เป็นผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีนโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย