ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้โทษจำคุก “แฟรงค์ วีโว่” กับพวก ลดเหลือ 4 ปี ทำลายรถคุมขังชิงตัว “เพนกวิน-ไมค์ ภาณุพงศ์”

ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้โทษ สั่งคุกแฟรงก์ กับพวก ลดเหลือ 2 ปี ปรับ 2 หมื่น รอลงอาญา 2 ปี ยกฟ้องข้อหามั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป จากกรณีบุกชิงตัวเพนกวิน กับ ไมค์ ระยอง หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ

ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้โทษจำคุก “แฟรงค์ วีโว่” กับพวก ลดเหลือ 4 ปี ทำลายรถคุมขังชิงตัว “เพนกวิน-ไมค์ ภาณุพงศ์” – Top News รายงาน

 

ศาลอุทธรณ์

 

เมื่อวันที่ 15 กันยายน ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีดำ อ 420/2564 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ฟ้อง นายณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร หรือ แฟรงค์ นักเคลื่อนไหวกลุ่มวีโว่, นายธวัช สุขประเสริฐ, นายศักดิ์ชัย ตั้งจิตสดุดี, นายสมคิด โตสอย และ นายฉลวย เอกศักดิ์ ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-5 ตามลำดับในความผิดฐาน ร่วมกันมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่พยายามช่วยเหลือผู้ถูกคุมขังให้พ้นจากการควบคุม

กรณีเมื่อคืนวันที่ 30 ต.ค.2563 พวกจำเลย กับพวกที่ยังหลบหนีได้ร่วมกันขัดขวางเจ้าหน้าที่ แล้วเรียกร้องให้ปล่อยตัว นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ แกนนำกลุ่มผู้ประท้วงกับพวก ที่อยู่ในรถผู้ต้องขังระหว่างถูกนำตัวไป สน.ประชาชื่น หลังถูกอายัดตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ จำเลยทั้ง 5 ร่วมกันนำไม้มากั้นปิดขวางทางออกบริเวณหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ซึ่งไม่ใช่การชุมนุมโดยสงบและรบกวนการครอบครองการใช้การผ่านเข้าออกเรือนจำพิเศษกรุงเทพและเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ต่อมาผู้เสียหายทั้ง 4 ได้ควบคุมตัว นายพริษฐ์ และ นายภานุพงศ์ ขึ้นรถควบคุมผู้ต้องขังพื่อนำไปส่งที่สถานีตำรวจนครบาลประชาชื่น

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ซึ่งเป็นการปฏิบัติการตามหน้าที่เพื่อรอให้สถานีตำรวจที่อายัดตัวมารับไปดำเนินคดีต่อไป เมื่อรถควบคุมผู้ต้องขังขับบนถนนงามวงศ์วานมาถึงบริเวณด้านหน้าตลาดพงษ์เพชรและได้จอดติดสัญญาณไฟจราจรสีแดงอยู่ ต่อมาจำเลยทั้ง 5 ได้ขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายโดยร่วมกันนำรถจักรยานยนต์หลายคันไปล้อมการเดินทางของรถควบคุมผู้ต้องขัง ทำให้รถเคลื่อนไปต่อไม่ได้ และใช้หมวดกนิรภัยและวัสดุแข็งเป็นอาวุธ ทุบรถควบคุมผู้ต้องขัง, ได้ใช้เท้าเตะรถควบคุมผู้ต้องขังและ ได้ใช้ของแข็งตีที่กระจกหน้าต่างห้องควบคุมผู้ต้องหาด้านซ้ายและด้านหลังจนแตก พร้อมกับตะโกนว่า “ปล่อยเพื่อนกู” การกระทำของจำเลยทั้งห้ากับพวกดังกล่าวทำให้เกิดการชุลมุนวุ่นวายบนถนนงามวงศ์วานและสี่แยกพงษ์เพชร ไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินผู้เสียหายทั้งสี่ ประชาชนที่สัญจรไปมาบริเวณดังกล่าว เป็นการกระทำโดยเจตนาด้วยประการใดให้นายพริษฐ์ และนายภาณุพงศ์ หลุดพ้นจากการคุมขังโดยใช้กำลังประทุษร้าย ทั้งนี้ โดยจำเลยทั้งห้ากับพวกได้ลงมือกระทำความผิดไปโดยตลอดแล้วแต่การกระทำนั้นไม่บรรลุผล เนื่องจากผู้เสียหายทั้ง 4 ไม่ยอมปล่อยนายพริษฐ์และนายภานุพงศ์ จำเลยทั้งห้ากับพวกไม่สามารถเปิดประตูรถได้จึงทำให้นายพริษฐ์และนายภานุพงศ์ไม่หลุดจากการคุมขัง

ต่อมาจำเลยทั้ง 5 ใช้ก้อนหินขนาดใหญ่ทุ่มใส่รถควบคุมผู้ต้องขังหลายครั้งจนกระจกด้านซ้ายแตก ทำให้หนึ่งในผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บที่ด้านหลังมือขวา และขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายตั้งแต่สามคนขึ้นไป โดยมีหรือใช้อาวุธโดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่สามคนขึ้นไป ซึ่งเป็นการทำร้ายเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ รายละเอียดปรากฎตามรายงานการชันสูตรผู้ป่วยคดี เพื่อขัดขวางไม่ให้ผู้เสียหายทั้ง 4 พาตัวนายพริษฐ์และนายภานุพงศ์ไปยังสถานีตำรวจนครบาลประชาชื่นได้สำเร็จ

 

 

ต่อมาจำเลยทั้งห้ากับพวกที่หลบหนียังไม่ได้ตัวมาดำเนินคดีซึ่งมีจำนวนตั้งแต่สิบคนขึ้นไปได้บังอาจร่วมกันมั่วสุมโดยชุมนุมสาธารณะบริเวณสถานีตำรวจนครบาลประชาชื่นอันเป็นที่สาธารณะโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวนายพริษฐ์และนายภานุพงศ์ โดยได้แสดงออกต่อประชาชนทั่วไปและบุคคลอื่นสามารถร่วมชุมนุมนั้นได้ ในการชุมนุมดังกล่าวจำเลยทั้งห้ากับพวกต้องดำเนินการชุมนุมสาธารณะให้เป็นไปตามตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2548 มาตรา 6, 10 คือ การชุมนุมสาธารณะต้องเป็นไปโดยสงบและปราศจากอาวุธ และจะต้องมีการแจ้งการชุมนุมสาธารณะ อีกทั้งตามมาตรา ๑๖ ผู้ชุมนุมมีหน้าที่ต้องไม่บุกรุก และสร้างความเสียหาย โดยการชุมนุมดังกล่าวจำเลยทั้ง 5 ได้ใช้กำลังประทุษร้าย ชกต่อยร่างกาย ผู้เสียหายทั้ง 4 จนได้รับบาดเจ็บ

การกระทำของจำเลยทั้ง 5 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ฐานมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง จำคุกคนละ 6 เดือน ปรับคนละ 10,000 บาท ฐานร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่ กับฐานร่วมกันพยายามให้ผู้ถูกคุมขังตามอำนาจของพนักงานสอบสวนหลุดพ้นจากการคุมขังไป เป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่ จำคุกคนละ 2 ปีปรับคนละ 20,000 บาท ฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติการตามหน้าที่จำคุกคนละ 2 ปีปรับคนละ 20,000 บาท รวมจำคุกจำเลยทั้งห้าคนละ 4 ปี 6 เดือนปรับคนละ 50,000 บาท

 

 

 

จำเลยทั้ง 5 ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยทั้งห้าคนละ 2 ปี 3 เดือนปรับคนละ25,000 บาท

พิเคราะห์รายงานการสืบเสาะและพินิจจำเลยทั้ง 5 แล้วไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้ง 5 เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อนโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ให้จำเลยทั้ง 5 ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 3 ครั้งภายใน 1 ปีให้กระทำกิจกรรมบริการสังคมตามที่พนักงานคุมประพฤติและจำเลยทั้งห้าเห็นสมควรเป็นเวลา 24 ชั่วโมง

อัยการโจทก์ยื่นอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้ว ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น เห็นควรปรับบทลงโทษเสียใหม่ให้ถูกต้อง เป็นว่า การกระทำของจำเลยทั้งห้าเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบบท ให้ลงโทษบทหนักสุด ข้อหาร่วมกันทำร้ายเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่ โดยประทุษร้าย และข้อหาร่วมกันขัดขวางเจ้าพนักงานที่กระทำการตามหน้าที่โดยใช้กำลังประเทศร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 191 วรรคแรก,วรรค 3 ประกอบมาตรา 80,83 และมาตรา 358 ประกอบมาตรา 83

พิพากษาแก้ ลงโทษจำคุกจำเลยทั้งห้า ฐานร่วมกันทำร้ายเจ้าพนักงานฯ คนละ 2 ปี ปรับคนละ 20,000 บาท และฐานร่วมกันขัดขวางเจ้าพนักงานที่กระทำการตามหน้าที่ โดยประทุษร้าย ลงโทษจำคุก คนละ 2 ปี ปรับคนละ 20,000 บาท รวมโทษจำคุก คนละ 4 ปี ปรับ 40,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลย คนละ 2 ปี ปรับคนละ 20,000 บาท โทษจำคุกรอลงอาญาไว้ 2 ปี และยกฟ้องข้อหามั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป เพื่อก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง

ต่อมาภายหลังฟังคำพิพากษาเสร็จ จำเลยทั้ง 5 คน ได้ชำระค่าปรับ จำนวนคนละ 20,000 บาท จากนั้นจึงพากันเดินทางกลับทันที

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

อบจ.เมืองคอน ยกคณะเยี่ยมชมงาน “บุญสารทเดือนสิบ ย้อนยุค” คึกคัก
"วุฒิสภา" เห็นชอบเสียงเอกฉันท์ ผ่านร่างกม.คุ้มครองแรงงาน เพิ่มวันลาคลอด 120 วัน ลาต่อ 15 วัน
"นฤมล" นำเปิดสัมมนา "พ.ร.บ.การศึกษาไทยฯ" เน้นย้ำปรับแก้ให้เหมาะสม ลดอุปสรรคการพัฒนา-ความเหลื่อมล้ำการศึกษา
นักท่องเที่ยว แห่ชมตะเกียงโบราณอายุกว่าพันปี 
"อี้ แทนคุณ-ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง" พา "ผู้เสียหาย" โดนอายัดบัญชี ร้อง "ผบ.ตร." ทบทวนมาตรอายัดบัญชีม้ากระทบผู้บริสุทธิ์
ปกครองจังหวัดเลย สร้างศักยภาพและสุขภาพผู้นำชุมชนด้วยการแข่งขันกีฬาเชื่อมความสัมพันธ์

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​