จันทบุรี ชาวกัมพูชาทะลักเข้าชายแดนต่อเนื่อง

ทหารพรานนาวิกโยธินจันทบุรีโดยฐานปฏิบัติการ 05 คลองตาดำ วางกำลังลาดตระเวนจับกุมชาวกัมพูชาพยายามลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมายได้จำนวนมาก

เมื่อเวลา 00:20น. ที่ผ่านมา (13 กันยายน 2568) กองทัพเรือ กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่2
หมวดทหารพรานนาวิกโยธิน คลองตาดำ (ฐานปฏิบัติการ05) ได้ทำการลาดตระเวนเฝ้าระวังบริเวณแนวชายแดน ช่วงบริเวณถนนลูกรัง ทางเข้าสวนลำไย หมู่ 8 ตำบลเทพนิมิต อำเภอโป่งน้ำร้อน พบชาวกัมพูชาจำนวนมาก กำลังเดินเท้าลักลอบเข้ามายังประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย จึงแสดงตัวเพื่อเข้าจับกลุ่มตรวจค้น ทำให้กลุ่มของชาวกัมพูชา พร้อมผู้นำนำพา แตกกระเจิงวิ่งหลบหนีไปได้หลาย 10 คน ทำให้สามารถควบคุมตัวได้เพียง 34 ราย

แยกเป็นชาวกัมพูชาเพศชายจำนวน 21 ราย ชาวกัมพูชาเพศหญิงจำนวน 13 ราย รวมแล้วทั้งหมดที่สามารถควบคุมตัวได้เตรียมส่งดำเนินคดีจำนวน 34 ราย ชุดปฏิบัติการพิเศษของชุดควบคุมฐานพลนาวิกโยธินที่2 ร่วมกับการข่าวกรองทหาร สืบทราบได้ว่าจะมีการนำพาแรงงานชาวกัมพูชาเพื่อลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมายเป็นจำนวนมากคาดว่าไม่ต่ำกว่า 50 คน

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยจะลักลอบนำพาข้ามแดน โดยวิธีการเดินข้ามคลอง ซึ่งเป็นลำคลองแบ่งแนวเขตแดนระหว่างกัมพูชา และพื้นที่ตำบลเทพนิมิต อำเภอโป่งน้ำร้อน หลังจากทราบข่าวที่แน่ชัดจึงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพราน ซุ่มเฝ้าเฝ้าระวัง และบางส่วนให้ลาดตระเวนตลอดแนว ที่คาดว่ากลุ่มของชาวกัมพูชาจะใช้เป็นช่องทางในการเดินข้ามผ่านแดน ปรากฏว่าเมื่อเวลาประมาณ 00:20น. เจ้าหน้าที่ทหารจึงพบกลุ่มคนจำนวนมากทยอยเดินอยู่บริเวณถนนดินลูกรัง ทางเข้าสวนลำไยของชาวบ้าน และยังเชื่อมต่อกับลำคลองส่งน้ำ จึงแสดงตัวเข้าทำการตรวจค้น แต่ขณะเจ้าหน้าที่เข้าแสดงตัวทำให้กลุ่มของชาวกัมพูชาเกิดความตกใจ วิ่งหลบหนีไปคนละทิศทาง ในจำนวนที่หลบหนีได้มีผู้นำพาอยู่ด้วย ทำให้สามารถควบคุมได้เพียงบางส่วน รวมจำนวนทั้งหมด 34 คน

 

เจ้าหน้าที่ทหารได้ทำการสอบสวนผู้ที่พูดไทยได้ ทราบว่าทั้งหมดที่เดินทางมา จะเสียค่าเดินทาง จากกัมพูชาเพื่อข้ามแดนคนละ 3,000 บาท และต้องจ่ายให้กับผู้นำพาที่จะพาเดินทางจากชายแดนเข้าไปส่งยังสถานที่ทำงาน อีกคนละ 3,000 บาท
รวมแล้วต้องจ่ายค่าเดินทางข้ามแดนทั้งหมดเพื่อกลับเข้ามามายังประเทศไทย คนละ 6,000 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติมยังทราบว่ากลุ่มของชาวกัมพูชาเหล่านี้เพิ่งเดินทางกลับข้ามไปได้ไม่นาน แต่ไม่มีงานทำทำให้ไม่มีเงินเลี้ยงครอบครัว
ส่วนกรณีที่ทางรัฐบาลกัมพูชาประกาศว่าจะมีงานให้ทำนั้น ได้มีการโทรไปสอบถาม แต่บริษัทที่จะรับเข้าทำงานไม่รับโทรศัพท์ แต่เมื่อมีคนติดต่อได้ก็จะแจ้งกลับมาว่า พนักงานเต็มแล้ว โดยจะเป็นแบบนี้ทั้งหมด จึงเป็นเหตุให้ชาวกัมพูชาที่เดินทางกลับประเทศนั้นต้องกู้หนี้ยืมสิน เพื่อหาเงินมาจ่ายค่าเดินทางลักลอบเข้าประเทศไทยเพื่อหาเงินเลี้ยงชีพต่อไปจนเป็นเหตุให้ถูกจับกลุ่มดังกล่าว
ทางเจ้าหน้าที่ทหารยังให้ความรู้กับชาวกัมพูชาเหล่านี้เพิ่มเติมด้วยว่า อย่าทำแบบนี้อีก หากจะเข้ามาก็ขอให้เข้ามาโดยถูกต้องจะได้ไม่ต้องถูกจับดำเนินคดีและผลักดันกลับอีกต่อไป หลังจากนี้จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรบ้านแปลง ให้เข้ามาทำการตรวจสอบลงบันทึกจับกุมเพื่อส่งดำเนินคดี หลังจากนั้นจะทำการผลักดันกลับประเทศกัมพูชาต่อไป


ภาพ/ข่าว สมเศียร โชติสนิท ผู้สื่อข่าว TOPNEWS ทั่วไทย จ.จันทบุรี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

หัวหินเชิญชวนร้านค้าเข้าร่วม “คนละครึ่งพลัส” วันสุดท้าย
"คีรี" รับเสียดายโอกาสประเทศ ยันเดินหน้า พัฒนาสนามบินอู่ตะเภา แม้ล่าช้ากว่า 5 ปี หวัง ธ.ค. EEC มีข้อสรุปสิทธิประโยชน์ รัฐบาลเดินหน้าผลักดันโครงการให้เกิดรูปธรรม
"คีรี กาญจนพาสน์" เปิดใจต่อสู้กว่า 4 ปีจนสำเร็จ กทม.ยอมจ่ายหนี้กว่า 3.6 หมื่นล้าน ค่าจ้างเดินรถไฟฟ้า BTS ตามคำพิพากษาศาลปกครอง
ตร.เมืองคอนลุยปราบ “รถซิ่งท่อดัง” จับเยาวชน-ผู้ปกครองโดนคดี
มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขยายโอกาส สร้างอาชีพ สร้างชีวิตอย่างเท่าเทียมแก่ชาวสงขลา
อธิบดีกรมอุทยานฯ เปิดประชุมจัดทำงบประมาณฯ พ.ศ.2570 ขับเคลื่อนนโยบาย รมว.ทส. "คุ้มครอง ฟื้นฟู ป่าอนุรักษ์ สู่ความยั่งยืน"

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​