กรณีเฟซบุ๊ก เกรียงไกร ไทยอ่อน โพสต์ข้อความว่า เปิดคลิปวงจรปิด ของ สภ.คอหงส์ เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2564 สามวันก่อนเกษียณอายุราชการ ของ ผกก.ขณะนั้น ได้นำรถจักรยานยนต์ ของกลาง ซึ่งบางคัน ยังไม่สิ้นสุดคดีความ นำออกไปจากโรงพักโดยพ่อค้ารถมือสองเบื้องต้นตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ
ล่าสุดวันนี้ทางผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สภ.คอหงส์มาตรวจสอบข้อเท็จจริงหลังจาก เฟซบุ๊ก เกรียงไกร ไทยอ่อน โพสต์ข้อความว่า เปิดคลิปวงจรปิด ของ สภ.คอหงส์ เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2564
3วัน ก่อนเกษียณอายุราชการ ของ ผกก.ขณะนั้น ได้นำรถจักรยานยนต์ ของกลาง
ซึ่งบางคัน ยังไม่สิ้นสุดคดีความ นำออกไปจากโรงพักโดยพ่อค้ารถมือสองซึ่งไม่มีหนังสือสั่งการใดๆทิ้งสิ้น ที่น่าสังเกตคือไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจแม้แต่คนเดียว ในการเลือกรถ ขนย้ายรถ ในครั้งนี้”คันไหนสวยกูเอาคันนั้น”หลังจากคลิปนี้เผยแพร่ทางยูทูปเมื่อคืนนี้
แหล่งข่าวแจ้งมาว่าน่าจะมีการนำรถมาคืนแต่คงจะไม่ได้ทั้งหมดน่าจะเป็นบางส่วนซึ่งน่าจะอยู่ระหว่าง 40 ถึง 50 คันมีบางส่วนที่หลุดไปแล้ว ไม่สามารถตามกับคืนมาได้สรุปว่ารถที่หายไปไม่รู้ว่าถูกนำไปขายและอยู่จุดไหนบ้าง และผู้สื่อข่าวได้ถ่ายภาพบรรยากาศที่โรงพักและเข้าเดินไปตรวสอบรถของกลางก็ยังมีอยู่แต่ไม่รู้ว่าครบจำนวนไหมและได้ โทรสอบถามทาง พ.ต.อ. พิเชฐ สมรรคจันทร์ รักษาราชการแทนผกก.คอหงส์ เปิดเผยว่าตอนนี้กำลัง ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบอยู่เนื่องจากพึ่งมาดูแลโรงพักคอหงส์ได้ไม่นานและทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลาได้สั่งตามเรื่องนี้อยู่
และผู้สื่อข่าวได้โทรสอบถาม พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ มีแสง อดีต ผกก.สภ.คอหงส์ ที่พึ่งเกษียณราชการไปนั่น กล่าวว่าเป็นการย้ายรถของกลางเนื่องจากที่เก็บดังกล่าวเป็นการเก็บรวมรถ หลายคดีรวมกันมีทั้งรถของกลางจราจรและรถของกลางคดีอาญา และคดีอื่นๆอีกจึงได้จัดระเบียบให้ดีขึ้นและตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งคณะกรรมการตรวจหาข้อเท็จจริงอยู่