วันนี้ (12 ก.ย.) นายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการ ปปง. และโฆษกประจำสำนักงาน ปปง. แถลงผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 10/2568 ซึ่งมีนายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. เป็นกรรมการและเลขานุการ เมื่อวันที่ 11 ก.ย.68 โดยคณะกรรมการธุรกรรมมีมติให้ดำเนินการกับทรัพย์สินที่เกี่ยวกับยาเสพติด การฉ้อโกงประชาชน การฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ และการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์
1. ยึดและอายัดทรัพย์สิน 70 รายคดี ทรัพย์สิน 1,957 รายการ พร้อมดอกผล มูลค่าประมาณ 1,373 ล้านบาท โดยเป็นทรัพย์สินในคดีสำคัญเกี่ยวกับความผิดมูลฐานเกี่ยวกับยาเสพติด การฉ้อโกงประชาชนหรือการฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ และการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ดังนี้
1.1 ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด มีการยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้กว่า 41 รายการ มูลค่ากว่า 55 ล้านบาท อาทิ รายคดี นายจำรูญฯ กับพวก มีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สิน จำนวน 1 รายการ (เงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร) รวมมูลค่าประมาณ 18 ล้านบาท , รายคดี นายอังคารฯ กับพวก มีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สิน จำนวน 40 รายการ (เงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร) รวมมูลค่าประมาณ 37 ล้านบาท
1.2 ความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนและการฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ มีการยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้กว่า 367 รายการ มูลค่ากว่า 603 ล้านบาท อาทิ รายคดี น.ส.พิมภาดาฯ กับพวก กรณีความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
โดยสำนักงาน ปปง. ได้สืบสวนขยายผล และวิเคราะห์ธุรกรรมทางการเงินของบุคคลในคดีคอลเซ็นเตอร์ เครือข่ายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พบการทำธุรกรรมเชื่อมโยงไปยังนายพัด สุภาภา (หรือ MR. LY YONG PHAT) กับพวก ซึ่งกรณีดังกล่าวคณะกรรมการธุรกรรมมีมติให้อายัดทรัพย์สินไว้แล้วรวมมูลค่ากว่า 6 ล้านบาท ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 33 รายการ (เช่น ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร) รวมมูลค่าประมาณ 79 ล้านบาท
รายคดี น.ส.อภิญญาฯ กับพวก กรณีหลอกให้ลงทุนสินทรัพย์ดิจิตอล (Hybrid Scam) ซึ่งมีพฤติการณ์ความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน และการฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด (เพิ่มเติม) จำนวน 7 รายการ (เช่น เงินสด ยานพาหนะ และที่ดิน) รวมมูลค่าประมาณ 22ล้านบาท
รายคดี MR.ZHENG หรือนายจ้าวฯ กับพวก กรณีเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงประชาชนผ่านช่องทางออนไลน์ ปลอมเป็นหน่วยงานรัฐ อ้างตัวเป็นตำรวจในการหลอกลวงผู้เสียหายในการทำเรื่องให้ได้เงินที่ถูกหลอกกลับคืนมา ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 54 รายการ (เช่น ยานพาหนะและเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร) รวมมูลค่าประมาณ 38 ล้านบาท
รายคดี บริษัทเดอะ นิว คอนเซปท์ฯ กับพวก กรณีพฤติการณ์ชักชวนให้ประชาชนทั่วไปซื้อห้องชุดโครงการต่างๆ และไม่สามารถดำเนินการ ก่อสร้างโครงการตามที่ประกาศโฆษณา อันเป็นความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 9 รายการ (ที่ดิน และสิทธิเรียกร้องตามสัญญาเช่า) รวมมูลค่าประมาณ 213 ล้านบาท
รายคดี ห้างหุ้นส่วนจำกัด พี มายเนอร์ คริปโตเคอเรนซี่ฯ กับพวก กรณีหลอกลวงให้ประชาชนร่วมลงทุน อันเป็นพฤติการณ์ความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 264 รายการ (เช่น ยานพาหนะ ที่ดิน เงินในบัญชีเงินฝาก และสินทรัพย์ดิจิทัล) รวมมูลค่าประมาณ 251 ล้านบาท