“พล.อ.รังษี” ลั่นเสียเปรียบเขมรเลย ถ้าแลกยอมเปิดด่าน กับปราบสแกรมเมอร์-เก็บกู้ทุ่นระเบิด ชี้ “กัมพูชา” ต้องจริงใจถอนทหาร พาชาวกัมพูชาออกจากเขตไทยทั้งหมดก่อน

“พล.อ.รังษี” ชี้ไทยเสียเปรียบเขมร ปมแลกข้อเสนอเปิดด่านกับการเก็บกู้ทุ่นระเบิด-ปราบสแกมเมอร์ เหตุข้อตกลงเลื่อนลอยไม่จริงใจ แนะยื่นคำขาด “ฮุนเซน” ถอนกำลังแนวหน้ากลับหน่วย-เอาประชาชนออกจากบ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้วก่อน เจรจา

“พล.อ.รังษี” ลั่นเสียเปรียบเขมรเลย ถ้าแลกยอมเปิดด่าน กับปราบสแกรมเมอร์-เก็บกู้ทุ่นระเบิด ชี้ “กัมพูชา” ต้องจริงใจถอนทหาร พาชาวกัมพูชาออกจากเขตไทยทั้งหมดก่อน – Top News รายงาน

 

เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2568 พลเอก รังษี กิติญาณทรัพย์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจ และอดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ททบ.5 และอดีตที่ปรึกษาแม่ทัพภาคที่ 1 ให้สัมภาษณ์ในรายการจับตาประเทศไทย ทางช่องท็อปนิวส์ ถึงกรณีการเปิดด่านว่า เราไม่ควรไปเจรจาเรื่องนี้กับกัมพูชา เพราะว่าการเปิดด่านเป็นเหมือนการฉีดวิตามินให้กับฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา  จริงๆ แล้วถ้าเราปิดไปอีกสักพัก รับรองว่าฮุนเซนซักแน่ เพราะเขามีปัญหาด้านการเงินการคลังของประเทศ และเดือนตุลาคมนี้เงินกองทุนสำรองของประเทศก็จะหมด ประชาชนที่ถูกเรียกตัวจากเมืองไทยให้กลับประเทศก็ไม่มีงานทำ อยากกลับมาทำงานที่เมืองไทย แสดงให้เห็นว่ากัมพูชาไม่มีการจ้างงาน และเศรษฐกิจกำลังตกแบบสุดๆ

 

พล.อ.รังษี

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนกรณีที่ ทางพลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม บอกว่ามีประเทศที่ 3 (ญี่ปุ่น) เข้ามาขอร้องให้เปิดด่าน พลเอกรังษี กล่าวว่า ตนไม่เข้าใจว่าที่ญี่ปุ่นมากดดันไทย กดดันในฐานะอะไร หากในฐานะที่ไทยกับกัมพูชาเป็นสมาชิกของยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก ถ้าเป็นแบบนี้ถือเป็นเรื่องอันตรายมาก  หากไทยหวังจะพึ่งพาญี่ปุ่นเรื่องเก็บกู้ทุ่นระเบิด ในฐานะที่กัมพูชาเป็นประธานออตตาวา ตนมองว่าจริงๆ แล้วญี่ปุ่นควรจะลงโทษกัมพูชาก่อน เพราะหลักฐานมันชัดเจนว่ากัมพูชามาวางทุ่นระเบิดในพื้นที่กองทัพภาค 2 และความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซน ที่ที่ประชุม GBC เมื่อวันที่ 10 กันยายน ที่ผ่านมา ที่กัมพูชายอมเก็บกู้ทุ่นระเบิดที่จันทบุรี-ตราด และปอยเปต จังหวัดสระแก้ว นั้น มันไม่มีทุ่นระเบิด

ส่วนเรื่องปราบสแกมเมอร์ตนไม่เชื่อ  ถ้ากัมพูชามีความจริงใจกับไทยจริง ควรจะเอาคนที่อยู่ในบ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้วออกไปทั้งหมด และต้องถอนกำลังที่เพิ่มกำลังมาตลอดกลับหน่วยไป ไม่ใช่พูดแค่ว่าถอนอาวุธหนัก ซึ่งเรื่องนั้นเป็นการเจรจาที่ทำให้เราเสียเปรียบ สร้างภาระให้กับฝ่ายความมั่นคง ทั้งกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่ 1  ตนเชื่อว่าญี่ปุ่นเองก็ไม่สามารถสั่งกัมพูชาเรื่องเก็บกู้ทุ่นระเบิดได้  มองว่าสิ่งที่กัมพูชาทำข้อตกลงกับเรามันเลื่อนลอย แต่สิ่งที่เรารับปากกัมพูชาเรื่องเปิดด่านมันทำให้เขาฟื้นตัวได้เลย เราเสียเปรียบมาก  เมื่อกัมพูชาฟื้นตัวได้ก็จะกลับมาทำร้ายเราอีก

ดังนั้นการเจรจาเราต้องรู้เท่าทัน ต้องมีข้อมูล ต้องชั่งน้ำหนักเปรียบเทียบ ว่าเราได้ประโยชน์อะไรจริงๆ บ้าง เราจะเปิดด่านได้ก็ต่อเมื่อเรายื่นเงื่อนไขไปแล้วกัมพูชาทำให้เราเห็น ทั้งเรื่องถอนกำลัง และเอาคนออกจากพื้นที่บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว

นอกจากนี้ ตนยังอยากให้ยกเลิก MOU43, MOU44 และข้อตกลง GBC 13 ข้อ แล้วใช้ทวิภาคีคือให้ฮุนเซน มาคุยกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โดยตรง เพราะว่าการเจรจาต่างๆ ที่ผ่านมา คนเจรจาตัดสินใจไม่ได้

ส่วนกรณีที่ทางสภาอุตสาหกรรมออกมาประเมินความเสียหาย หลังการปิดด่านว่าในแต่ละวันเกิดความเสียหายไม่ต่ำกว่าร้อยล้านบาท พลเอกรังสี มองว่า มันได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง ต้องชั่งน้ำหนักว่าถ้าเกิดว่ายังค้าขายอยู่ แล้วกัมพูชายังทำกับเราแบบนี้ ความเสียหายในอนาคตถ้าเกิดสงครามใหญ่จะค้าขายไม่ได้เลย แต่ว่าทั้งหมดรัฐบาลต้องรีบจัดการ โดยเฉพาะนายกฯ อนุทิน อย่าลอยตัว ต้องลงมาเจรจากับฮุนเซน ถ้าคุยไม่รู้เรื่องปะทะก็ต้องปะทะ ถ้าเรายังยืดเยื้ออยู่แบบนี้ก็จะแย่กันทั้ง 2 ประเทศ

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

วัฒนแพทย์ภูเก็ตจับมือมูลนิธิกุศลธรรม เสริมระบบช่วยชีวิตประชาชน
ตำรวจระนองเดินหน้าสร้างภาพลักษณ์เชิงบวก มอบนโยบายทีมโฆษกทุกสถานี
ตามล่าคนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงิน 7-11
หัวหินเชิญชวนร้านค้าเข้าร่วม “คนละครึ่งพลัส” วันสุดท้าย
"คีรี" รับเสียดายโอกาสประเทศ ยันเดินหน้า พัฒนาสนามบินอู่ตะเภา แม้ล่าช้ากว่า 5 ปี หวัง ธ.ค. EEC มีข้อสรุปสิทธิประโยชน์ รัฐบาลเดินหน้าผลักดันโครงการให้เกิดรูปธรรม
"คีรี กาญจนพาสน์" เปิดใจต่อสู้กว่า 4 ปีจนสำเร็จ กทม.ยอมจ่ายหนี้กว่า 3.6 หมื่นล้าน ค่าจ้างเดินรถไฟฟ้า BTS ตามคำพิพากษาศาลปกครอง

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​