วันที่ (12 กันยายน 2568) เวลา 14.00 น.
นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร พร้อมด้วย
นางกิจจาลักษณ์ ศรีนุชศาสตร์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบสิทธิประโยชน์ทางศุลกากร นายยุทธนา พูลพิพัฒน์ รองอธิบดีกรมศุลกากร นายดิเรก คชารักษ์ รองอธิบดีกรมศุลกากร นายคณิต มีปิด รองอธิบดีกรมศุลกากร และคณะผู้บริหาร
กรมศุลกากร ร่วมแถลงผลการจับกุมการกระทำความผิดในการลักลอบนำเข้าและส่งออกสินค้า ตามนโยบายรัฐบาล ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 อาทิ ยาเสพติด บุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า อุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า สินค้าที่ไม่มีใบอนุญาต สินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา โดยมีมูลค่า 2,709.76 ล้านบาท ณ ห้องโถง อาคาร 1 ชั้น 1 กรมศุลกากร (คลองเตย)
นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า ตามที่รัฐบาล ให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สินค้าผิดกฎหมาย สินค้าที่เป็นอันตรายต่อสังคม โดยกรมศุลกากรได้ขานรับนโยบาย และเพิ่มความเข้มงวดในการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ศุลกากรในทุกช่องทางการขนส่ง เพื่อป้องกันและสกัดกั้นการกระทำความผิด โดยเฉพาะการลักลอบลำเลียงยาเสพติด สินค้าผิดกฎหมายทุกชนิด นอกจากนั้นยังได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประสานข้อมูลด้านการข่าวและลงพื้นที่ปราบปรามผู้กระทำผิด ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 (1 ตุลาคม 2567 – 31 สิงหาคม 2568) กรมศุลกากรตรวจยึดสิ่งผิดกฎหมายจำนวนรวมทั้งสิ้น 44,659 คดี มูลค่า 2,709.76 ล้านบาท (จับกุมเพิ่มขึ้น 5,377 คดี หรือ 13.69% และมูลค่าเพิ่มขึ้น 102.40 ล้านบาท หรือ 3.93% เมื่อเทียบกับปีงบประมาณ พ.ศ. 2567) โดยสถิติผลการจับกุมสินค้าผิดกฎหมายตามมูลค่าสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่
1. บุหรี่ จับกุมได้ 2,151 คดี ปริมาณ 60.71 ล้านมวน มูลค่า 309.85 ล้านบาท
2. กัญชา จับกุมได้ 2,109 คดี ปริมาณ 20,481 กิโลกรัม มูลค่า 255.24 ล้านบาท
3. เมทแอมเฟตามีน จับกุมได้ 49 คดี ปริมาณ 319 กิโลกรัม มูลค่า 178.34 ล้านบาท
4. บุหรี่ไฟฟ้า อุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า/บารากู่ บารากู่ไฟฟ้า จับกุมได้ 646 คดี จำนวน1,502,504 ชิ้น มูลค่า 151.80 ล้านบาท
5. ยาอี (ECSTASY) จับกุมได้ 49 คดี จำนวน 69 กิโลกรัม มูลค่า 124.86 ล้านบาท
ทั้งนี้ กรมศุลกากรมีการจับกุมยาเสพติดที่มีการลักลอบนำเข้าและส่งออก ประเภทอื่น ๆ อาทิ ไอซ์เฮโรอีน ยาบ้า Cocaine KETAMINE ทั้งหมด 217 คดี มูลค่า 1,357.29 ล้านบาท นอกจากนี้ สามารถจับกุม สินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า จับกุมได้ 361 คดี จำนวน 424,594 ชิ้น มูลค่า 31.44 ล้านบาท สินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) จับกุมได้ 111 คดี ปริมาณ 157,945 ชิ้น มูลค่า 11.96 ล้านบาท สินค้าไม่มีใบอนุญาต
จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จับกุมได้ 1,455 คดี ปริมาณ 7.48 ล้านชิ้น มูลค่า 43.02 ล้านบาท และสินค้าเกษตร ได้แก่ ผลิตภัณฑ์กาแฟ ปาล์มน้ำมันและน้ำมันเนื้อในเมล็ดปาล์ม ชา ข้าวเปลือกข้าวสาร หอมหัวใหญ่ กระเทียม และอื่น ๆ โดยจับกุมได้ 341 คดี ปริมาณ 709,783 กิโลกรัม มูลค่า 22.12 ล้านบาท
อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวต่ออีกว่า ผลการจับกุมในช่วงที่ผ่านมา มีคดีที่น่าสนใจ อาทิ การจับกุมการลักลอบนำเข้าและส่งออกยาเสพติด เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2568 กรมศุลกากร โดยสำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ ร่วมกับกองสืบสวนและปราบปราม กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บก.ปส.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม
ยาเสพติด (ปปส.) และศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย (ศรภ.) ได้ทำการตรวจสอบใบขนสินค้าขาออกปลายทาง TAIWAN สำแดงเป็นเม็ดพลาสติก ภายในปรากฏก้อนสีขาวปะปนมากับเม็ดพลาสติกจำนวนมาก เมื่อตรวจด้วยเครื่อง HANDHELD RAMAN SPECTROMETER และน้ำยา MARQUIS REAGENT ให้ผลที่เชื่อได้ว่าเป็นเฮโรอีน น้ำหนัก 101.85 กิโลกรัม มูลค่าปลายทางกว่า 600 ล้านบาท และเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2568 กรมศุลกากร โดยกองสืบสวนและปราบปราม ร่วมกับหน่วยปฏิบัติ การ AITF ตรวจสอบกล่องพัสดุไปรษณีย์ภัณฑ์ลงทะเบียนระหว่างประเทศ ปลายทางประเทศออสเตรเลีย สำแดงชนิดสินค้าหน้ากล่องเป็น “1 Book, Shorts, long T-shirt, 2 Tshirt” ผลการตรวจสอบ พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไอซ์ (Methamphetamine) อาบซึมอยู่ในเสื้อ จำนวน 2 ตัว และกางเกง จำนวน 2 ตัว น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ
2,400 กรัม มูลค่าประมาณ 720,000 บาท
สำหรับการจับกุมบุหรี่ไฟฟ้า เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 กรมศุลกากร โดยสำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ ตรวจสอบสินค้าขาเข้าจากจีนสำแดงเป็นสินค้าเบ็ดเตล็ด พบเป็น บุหรี่ไฟฟ้า 15 กล่อง รวม 1,650 ชิ้น มูลค่าประมาณ 500,000 บาท ต่อมาเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2568 กรมศุลกากร โดยกองสืบสวนและปราบปราม ตรวจสอบสินค้าต้องสงสัย
ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พบไส้บุหรี่ไฟฟ้า ยี่ห้อ TEREA คละกลิ่น รวม 600,000 มวน มูลค่าประมาณ 3 ล้านบาท และเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 ตรวจสอบสินค้าตามใบขนถ่ายลำจากจีนไปออสเตรีย พบบุหรี่ไฟฟ้า ยี่ห้อ OXVA รุ่น XLIM GO Pod Kit จำนวน 6,200 เครื่อง มูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท นอกจากนี้ในห้วง วันที่ 16 – 31 สิงหาคม 2568 กรมศุลกากร โดยสำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 ได้ออกปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามการลักลอบหนีศุลกากร โดยเข้าตรวจค้นพัสดุในบริษัทขนส่งเอกชนในพื้นที่จังหวัดสงขลา พบบุหรี่ต่างประเทศ จำนวน 520,000 มวน มูลค่า 2,600,000 บาท และบุหรี่ไฟฟ้าพร้อมอุปกรณ์ จำนวน 6,241 ชิ้น มูลค่า 1,485,100 บาท รวมมูลค่าทั้งหมด 4,085,100 บาท