AFP รายงานว่าทหารเนปาลได้เข้ายึดพื้นที่ในกรุงกาฐมาณฑุ ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา (พุธที่ 10 กย.) โดยส่งรถถังออกวิ่งไปตามท้องถนน พร้อมประกาศผ่านลำโพงเตือนกลุ่มผู้ประท้วงให้ยุติการก่อเหตุจลาจลเผาบ้านปล้นเมือง ไม่เช่นนั้นจะถือว่ากระทำความผิดในคดีอาญา ขณะที่ผู้บัญชาการกองทัพเนปาลได้ออกแถลงการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมาเรียกร้องกลุ่มผู้ประท้วงและผู้เกี่ยวข้องหันมาใช้วิธีเจรจาและแก้ปัญหาด้วยวิธีการที่สันติ
การชุมนุมประท้วงเริ่มขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยกลุ่มหนุ่มสาวเจน z ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกคำสั่งแบนโซเชียลมีเดีย และจัดการกับปัญหาคอร์รัปชันที่ฝังรากลึกในระบบการเมืองเนปาล หลังจากรัฐบาลสั่งตัดการเข้าถึงแพลตฟอร์มโซเชียลรายใหญ่ถึง 26 แพลตฟอร์ม อย่างไรก็ดี แม้รัฐบาลจะยอมยกเลิกคำสั่งแบนโซเชียลมีเดียในเช้าวันอังคาร แต่กลับไม่สามารถหยุดยั้งกระแสความไม่พอใจของประชาชนได้ กลุ่มผู้ประท้วงที่ส่วนใหญ่อายุระหว่าง 20-30 ปี ยังคงออกมารวมตัวทั่วกรุงกาฐมาณฑุก่อความวุ่นวายจนลุกลามเป็นเหตุจลาจลรุนแรง
โดยผู้ประท้วงจุดไฟเผาอาคารรัฐสภา บ้านพักของนายกรัฐมนตรีเคพี ชาร์มา โอลี และรัฐมนตรีอีกหลายคน รวมทั้งบุกเข้าไปทำร้ายรัฐมนตรีและสมาชิกในครอบครัวอย่างโหดร้ายทารุณ ขณะที่สำนักงานประธานาธิบดีก็ถูกจุดไฟเผาเช่นกัน
นายกรัฐมนตรีโอลี วัย 73 ปี และรัฐมนตรีอีก 4 คนได้ตัดสินใจลาออกเพื่อยุติปัญหา ทำให้เนปาลเกิดสูญญากาศทางการเมือง และล่าสุดยังไม่ชัดเจนว่าจะมีการแต่งตั้งใครเข้ารับตำแหน่งแทนโอลี อย่างไรก็ตามล่าสุดเนปาลเตรียมกลับมาเปิดสนามบินอีกครั้งในเวลา 1800 นาฬิกาในวันนี้
ด้านโฆษกอันโตนิโอ กูเตเรส เลขาธิการยูเอ็นออกมาเรียกร้องให้ชาวเนปาลอดทนอดกลั้นและหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง ขณะที่จีนและอินเดียก็เรียกร้องเนปาลให้เร่งฟื้นฟูความสงบและเสถียรภาพ โดยนายหลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนประกาศเตือนคนจีนในเนปาลให้ใช้ความระมัดระวัง และเรียกร้องทุกภาคส่วนในเนปาลเร่งฟื้นฟูความสงบและแก้ปัญหาอย่างเหมาะสม