“กรมการจัดหางาน” แจงข้อเท็จจริง ปมข่าวค้ามนุษย์เก็บผลไม้ป่าฟินแลนด์ปี 65

"กรมการจัดหางาน" แจงข้อเท็จจริง ปมข่าวค้ามนุษย์เก็บผลไม้ป่าฟินแลนด์ปี 65

วันนี้(8 ก.ย.) หลังจากที่นายพิเชษฐ์ ทองพันธ์ อธิบดีกรมการจัดหางาน สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงแรงงาน เนื่องในโอกาสได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการจัดหางาน ได้มีการเปิดเผยถึงกระแสข่าวว่า ศาลฟินแลนด์ ตัดสินจำคุกอดีตผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเคียนตามา (Kiantama) บริษัทเบอร์รี่รายใหญ่ของฟินแลนด์ และ นายหน้าชาวไทยในคดีค้ามนุษย์และหลอกคนไทยไปเก็บเบอร์รี่ เมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งระบุว่ากระทรวงแรงงานในขณะนั้นไปดูงานที่บริษัทดังกล่าวด้วยนั้น

 

 

นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้นั้น กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางาน ขอเรียนชี้แจงว่า ข่าวดังกล่าวมีความคลาดเคลื่อน ซึ่งข้อเท็จจริงนั้น บริษัทที่ผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ไปดูงานและไปเยี่ยมคนงานเก็บผลไม้ป่าที่บริษัทอื่นซึ่งเป็นคนละบริษัทกับที่เป็นคดีความ และคนงานที่ไปทำงานที่ประเทศฟินแลนด์ ได้แจ้งการเดินทางถูกต้องตามกฏหมาย ตามพ.ร.บ.จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ไม่ได้มีการหลอกลวงหรือบังคับขู่เข็ญ ที่เข้าข่ายกฎหมายการค้ามนุษย์ของประเทศไทย

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยคณะของกระทรวงแรงงานที่ไปเยี่ยมคนงานเมื่อต้นเดือนกันยายน 2565 ในขณะนั้น ได้เดินทางไปพร้อมกับคณะท่านเอกอัครราชทูตไทยประจำฟินแลนด์ และทีมไทยแลนด์ โดยมี กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงแรงงาน เพื่อไปให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลรักษาสุขภาพแก่แรงงานไทย เนื่องจากอาชีพเก็บผลไม้ป่าบางครั้งต้องมีโรคจากการถูกยุง เห็บ แมลงในป่ากัด แรงงานจึงต้องได้รับการดูแลทางด้านสาธารณสุข มีหลักประกันสุขภาพ ตลอดจนสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายและมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น

 

 

 

 

นอกจากนี้ กฎหมายการค้ามนุษย์ของประเทศฟินแลนด์กับประเทศไทยมีความแตกต่างกัน เนื่องจากการไปเก็บผลไม้ป่าของคนงานไทยนั้นจะมีข้อตกลงที่ชัดเจน โดยการเดินทางไปเก็บผลไม้ป่าในประเทศฟินแลนด์ ในปี 2022 กำหนดให้ผู้ประสานงานที่จะพาแรงงานไปเก็บผลไม้ป่าในฟินแลนด์จะต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลในประเทศไทย รวมถึงกำหนดมาตรการการเดินทางที่ชัดเจนเนื่องจากในขณะนั้นเป็นช่วงที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด – 19 เริ่มคลี่คลาย นายจ้างหรือผู้ประสานงานจึงต้องเคร่งครัดในมาตรการ อาทิ ต้องจัดทำประกันการเดินทาง ประกันอุบัติเหตุ และประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีเจ็บป่วยโควิด- 19 วงเงินไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นแก่แรงงานไทยทุกกรณีเกี่ยวกับโควิด- 19 ตามที่ทางการฟินแลนด์และทางการไทยกำหนดตลอดฤดูกาล ต้องประกันรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายให้คนงานไทย โดยวางหลักประกันทางการเงิน ตามจำนวนที่กรมการจัดหางานกำหนด ณ ธนาคาร ธกส.จำนวนที่ต้องไม่ต่ำกว่า 30,240 บาท นอกจากนี้ จะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในเรื่องการตรวจหาเชื้อโควิด -19 ก่อนเดินทางกลับตามมาตรการที่ทางการกำหนด ต้องจ่ายเงินชดเชยเนื่องจากขาดรายได้ กรณีติดเชื้อหรือกักตัว รวมทั้งรับผิดชอบค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าวีซ่า ค่าตรวจสุขภาพ ค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนเครื่องบิน ดูแลเรื่องที่พัก อาหาร ยารักษาโรค รถรับส่งการอบรมก่อนเดินทาง เป็นต้น

 

 

 

“กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางาน มีภารกิจสำคัญในการส่งเสริมให้คนไทยมีงานทำ ทั้งงานในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งในแต่ละปีมีนายจ้างในต่างประเทศแจ้งความต้องการแรงงานไทยเพื่อเดินทางไปเก็บผลไม้ป่าเป็นจำนวนมาก กรมการจัดหางานจึงต้องออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง เพื่อจะได้ไม่ให้เกิดผลกระทบต่อภาพรวมในการจัดส่งคนงานไปเก็บผลไม้ป่าต่อไป” นายพิเชษฐ์ กล่าว

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ค้นพบแหล่งโบราณคดี 2,000 ปี "ผาปางเปือย" บนยอดเขาภูขัด พิษณุโลก
สารทเดือนสิบ คึกคักทั่วนราฯ
ทีมอาจารย์นิติศาสตร์ มจร.นครฯ ช่วยคณะสงฆ์ให้คำปรึกษากฎหมาย
ปราจีนบุรี ปภ.เตือนเตรียมขนย้ายของขึ้นที่สูงและผู้ป่วยไว้ในที่ปลอดภัยหลังพบน้ำขึ้นสูง
ศอ.บต. เปิดเวทีฟังปัญหาชุมชน
สมุทรสงครามพิธีต้อนรับพระบัญชาสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสิงฆปริณายก แต่งตั้ง พระครูสมุทรวชิรานุวัตร เป็นรองเจ้าอาวาสวัดเพชรสมุทรวรวิหาร

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​