“สมศักดิ์–ทวี” เป็นสักขีพยาน MOU เยียวยาผู้เสียหาย-จำเลย-ผู้ต้องหา-พยาน ระหว่างกรมสุขภาพจิต กับกรมคุ้มครองสิทธิฯ

"สมศักดิ์–ทวี" เป็นสักขีพยาน MOU เยียวยาผู้เสียหาย-จำเลย-ผู้ต้องหา-พยาน ระหว่างกรมสุขภาพจิต กับกรมคุ้มครองสิทธิฯ

เมื่อวันที่ 8 ส.ค.68 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานและสักขีพยานร่วมกับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ว่าด้วยการรักษา ช่วยเหลือเยียวยา และฟื้นฟูทางด้านร่างกายและจิตใจแก่ผู้เสียหาย จำเลย ผู้ต้องหา พยาน และบุคคลที่เกี่ยวข้อง ระหว่างสำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข กรมสุขภาพจิต และกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ลงนามโดยนพ.มณเฑียร คณาสวัสดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ. กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต และน.ส.เอมอร เสียงใหญ่ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ

 

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การลงนาม MOU ว่าด้วยการรักษา ช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟู ทางด้านร่างกายและจิตใจ แก่ผู้เสียหาย จำเลย ผู้ต้องหา พยานและบุคคลที่เกี่ยวข้องระหว่างสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กรมสุขภาพจิต และกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เชื่อมั่นว่าความร่วมมือในครั้งนี้ จะทำให้เกิดการพัฒนาระบบบริการสุขภาพ ทำให้กลุ่มเป้าหมาย เข้าถึงบริการด้านการรักษา ช่วยเหลือเยียวยาและฟื้นฟู ทั้งทางด้านสุขภาพกายและสุขภาพจิตใจ แบบไร้รอยต่อ อย่างต่อเนื่อง ได้รับความคุ้มครอง ตามสิทธิที่พึงได้ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเท่าเทียม เป็นธรรม โดยไม่เลือกปฏิบัติ และคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ขอให้บูรณาการความร่วมมือระหว่างกันเพื่อประโยชน์ของประชาชนต่อไป

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ด้าน พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า การที่มี MOU ร่วมกันสะท้อนว่า กระทรวงสาธารณสุข โดยเฉพาะกรมสุขภาพจิต เป็นสิ่งที่สังคมเรียกร้องและชื่นชม ได้ถูกนำมาใช้ในกระบวนการยุติธรรม รัฐบาลห่วงใยทั้งร่างกายและจิตใจ นำไปสู่การช่วยเหลือประชาชนอย่างยั่งยืน เชื่อมั่นว่าความร่วมมือนี้จะเป็นหมุดหมายความสำเร็จในการคุ้มครองด้านสิทธิมนุษยชนของประชาชน

จากนั้น นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ความปรารถนาดีของ 2 กระทรวง และการหารอืกันกับอธิบดีทำให้เกิดงานวันนี้ ตนกับพ.ต.อ.ทวี เห็นชอบการ MOU เพราะมีเครื่องมือ มีกฎหมายคุ้มครองประชาชน กระทรวงสาธารณสุข มีกรมสุขภาพจิต โดยน.ส.แพรทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้เห็นความสำคัญกับสุขภาพใจ ประกาศให้เดือนพ.ค.ทั้งเดือนเป็นเดือนสุขภาพใจ เชื่อว่าเมื่อเข้าถึงเรื่องสุขภาพจิตแล้วเรื่องอื่นจะลดลงมาด้วย ต้องทำให้รวดเร็ว อย่างคนที่ถูกข่มขืน กระทำชำเรา ต้องมีการตรวจสุขภาพ เป็นส่วนตัว เข้มแข็ง เข้มงวด

เมื่อถามว่าอยากให้รัฐบาลใหม่สานต่อนโยบายหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า รอให้รัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภาก่อน แนะนำอะไรตอนนี้เร็วเกินไป เราต้องทำงานของเราไป จนถึงแถลงนโยบาย คงไม่เร็ว เมื่อไม่เร็วเราต้องทำงาน เป็นช่วงว่างไม่ได้ ต้องมีคนทำงาน พยายามทำงานที่ไม่ใช้จ่ายงบประมาณ ประกอบกับปลายปี จำเป็นต้องใช้จ่ายงยบประมาณ อะไรที่ยังไม่สุดปลายทางของนโยบาย ก็ต้องเร่งดำเนินการ อย่างกระทรวงยุติธรรมเขามีเรื่องค่าเสียหายในคดีอาญา

 

 

ส่วนนโยบายกัญชาที่ประชาชนอยากให้แก้ไขกฎกระทรวง ไม่อยากให้ร้านกัญชาเป็นสถานพยาบาลนั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ต้องรอรัฐบาลใหม่ดำเนินการต่อไปนี้ ที่จะเข้าครม.คงไม่ทัน รอรัฐบาลตัดสินใจ เราพยายามประคับประคองให้มีปัญหาน้อยสุดเพราะถูกสร้างมาโดยไม่มีกฎเกณฑ์ เราทำให้เรียบร้อยขึ้น ป้องกันถูกฟ้องร้อง เพื่อให้ทุกฝ่ายไม่เดือดร้อน รัฐบาลใหม่ดำเนินการอย่างไรก็แล้วแต่ จะทำกฎหมายใหญ่ หรือกฎกระทรวง หรือประกาศแค่พ.ร.บ.คุ้มครองภูมิปัญหาแพทย์แผนไทย นโยบายหลักของผู้บริหารไม่ต้องการให้เกิดคดีความฟ้องร้อง ประชาชนไม่เดือดร้อน ออกเป็นแนวทางลดระดับ สำหรับกัญชายืนยันใช้ทางการแพทย์เท่านั้นเป็นอย่างน้อย หรือไม่ก็ยาเสพติด แต่ไม่สามารถเดินไปถึงจุดนั้นได้ เมื่อได้แค่นี้ยังดีกว่าไม่ทำอะไร

 

 

เมื่อถามถึงกรณี นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการ รพ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา และประธานชมรมแพทย์ชนบท กังวลผลสอบวินัยกรณีโดนร้องการจัดซื้อชุดตรวจ ATK หากเปลี่ยนรัฐบาล นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ต้องกังวล ถ้ามั่นใจว่าดำเนินการถูกต้อง ก็จะมีสิ่งที่ดีคุ้มครอง และเรื่องยังไม่มาถึงตน อะไรมาถึงก็ทำให้ เมื่อถามว่าจะกลับมาหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า อย่าไปพูดอย่างนั้น เดี๋ยวเขาจะคิดว่าเราอยากจะเป็นรัฐบาลอย่างเดียว ตนเรียบร้อยที่สุดนะ วันประชุมครม.นัดพิเศษ ยังมีการแซวอยู่เลย เพราะผมลาไปคิกออฟ ตรวจสุขภาพเพิ่มให้ อสม. และเมื่อวันศุกร์ก็ได้เสนอร่างพ.ร..บ.เข้าสภาฯ ที่เราทำเป็นเรื่อง ดีเยอะๆ เลยเริ่มมากดให้ผมต่ำลงไป เราก็คิดว่าทำเพื่อส่วนรวม

นายสมศักดิ์ ยังตอบคำถามกรณีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะเดินทางกลับไทยหรือไม่ว่า มั่นใจว่าไม่มีเหตุผลที่จะไม่กลับมา ไม่มีอะไรมากมาย ถ้ากลับเข้ามาจะมีโทษอะไรผมมองไม่ออก ส่วนแพทยสภากรณีหมอที่รักษานั้น ก็ให้ถึงวันนั้นก่อน เชื่อว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

หนุน "พริกไทยปะเหลียน" รายได้พุ่ง 2 เท่า มุ่งสู่ GI
กมธ.ทหารฯ ลงพื้นที่บ้านหนองจาน หนุนรัฐบาลใหม่ผลักดันกัมพูชาพ้นอธิปไตยไทยตามกรอบกลไกระหว่างประเทศ
เที่ยวอีสานสุดสนุก! ททท. ชวนสำรวจเส้นทาง “ออกพรรษา 3 สนุก” ปลุกกระแสท่องเที่ยวปลายปี
มือปืนปาเลสไตน์กราดยิงใส่ผู้คนที่ป้ายรถเมล์ในอิสราเอล
ผู้เชี่ยวชาญกัมพูชาชี้ไทยเปลี่ยนผู้นำไม่ช่วยแก้ข้อพิพาทชายแดน
"ซีพี" ปักธงองค์กรแห่งนวัตกรรม สร้างระบบนิเวศขับเคลื่อนสู่เวทีโลก

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​