สกายนิวส์และรอยเตอร์รายงานว่าออสเตรเลียได้ระดมโดรนและเฮลิคอปเตอร์บินเหนือชายฝั่งลองรีฟบีช (Long Reef Beach) ที่นครซิดนี่ย์เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (7 กย.) หลังเกิดเหตุนักท่องเที่ยวถูกฉลามขนาดใหญ่กัดขณะเล่นเสิร์ฟอยู่ที่นอกชายหาดดังกล่าวพร้อมกับเพื่อนๆอีกหลายคนเมื่อช่วงเช้าวานนี้
เพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่าขณะกำลังเล่นเสิร์ฟ เขาได้ยินเมอร์คิวรี่ ซิลลาคิสวัย 57 ปีซึ่งเป็นนักเล่นเสิร์ฟที่มีประสบการณ์ตะโกนออกมาว่า “อย่ากัดฉัน” (Don’t bite me) จากนั้นเขาก็เห็นครีบฉลามขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ และส่วนหางโบกสะบัด ซึ่งวัดจากระยะครีบและหางแล้วยาวมากประมาณ 4-6 เมตร ซึ่งใหญ่มากและใหญ่ที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา ก่อนที่ฉลามจะดึงเอาซิลลาคิสลงไปใต้น้ำ โดยจุดเกิดเหตุห่างจากชายฝั่งเพียง 100 เมตรเท่านั้น
หลังเกิดเหตุ บรรดานักเสิร์ฟพากันว่ายหนีตายเข้าฝั่ง จากนั้นไม่นาน ร่างของซิลลาคิสก็ลอยมาขึ้นฝั่งพร้อมกับกระดานเสิร์ฟที่ถูกกัดขาดเป็นสองท่อน ส่วนร่างของซิลลาคิสมีรายงานว่าแขนหรือขาถูกกัดหายไปและเสียชีวิตทันที ส่งผลให้เจ้าหน้าที่สั่งปิดชายหาด 2 แห่งที่ซิดนี่ย์ และมีการอุปกรณ์ตรวจฉลามที่ชายฝั่ง
ด้านผู้เชี่ยวชาญเผยหลังดูภาพแผลรอยกัดก็ประเมินว่าฉลามดังกล่าวน่าจะเป็นฉลามขาวขนาดใหญ่มีความยาวราวๆ 3.4-3.6 เมตร ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นเหตุฉลามกัดคนเสียชีวิตครั้งแรกในรอบ 3 ปีของชายหาดซิดนี่ย์ และเป็นครั้งที่สองในรอบ 62 ปี