จ.อุตรดิตถ์ ลอดช่องเค็ม เมนูอาหารแปลก หาทานยาก ถูกเชิดชูเป็นเมนูอาหารพื้นถิ่นภายใต้โครงการ “รสชาติ…ที่หายไป The Lost Taste”
ที่อำเภอลับแล จ.อุตรดิตถ์ ได้มีร้านขายของดีของเด็ดที่อร่อยและแปลก ไม่เหมือนใคร นั้นก็คือ “ลอดช่องเค็ม” เมืองลับแล ที่กำลังเป็นที่พูดถึงและเป็นอาหารพื้นบ้านที่มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น ของชาวอำเภอลับแล
ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปพบกับนางรูญ วิเศษ อายุ 69 ปี หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าป้ารูญ ซึ่งขณะกำลังทำก๊วยเตี๋ยวภายในร้าน และจัดเครื่องปรุง ทำเมนู ลอดช่องเค็ม ไว้บริการลูกค้าและนักท่องเที่ยว ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนบ้านต้นม่วง หมู่ที่ 7 ต.ฝายหลวง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ (อยู่ใกล้ๆวัดดอนสัก)
โดยป้ารูญ ได้เปิดร้านขายก๊วยเตี๋ยวลูกชิ้น ก๊วยเตี๋ยวหมูแดง ก๊วยจั๊บ มีทั้งเส้นเล็กเส้นใหญ่ เส้นบะหมี่ ขายในราคา 30-35 บาท นอกจากนี้ยังมี ต้มจืด ต้มยำ และก๊วยเตี๋ยวและก๊วยจั๊บซึ่งเป็นสูตรโบราณของแท้ โดยใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ ไม่ใช้น้ำปรุงสำเร็จรูป เน้นเครื่องเทศ หอมหัวใหญ่ กระเทียมทำให้น้ำซุปออกมากลมกล่อม มีกลิ่นหอมของเครื่องเทศ รสชาติจะอร่อยแบบดั้งเดิม โดยก๊วยเตี๋ยวภายในร้านจะเป็นสูตรโบราณดังเดิมตั้งแต่รุ่นคุณทวดๆๆตกทอดมารุ่นสู่รุ่นจนถึงรุ่นคุณแม่และมาถึงป้ารูญ ที่สืบทอดขายก๊วยเตี๋ยวโบราณมาต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน โดยป้ารูญเอง ก็ได้เปิดร้านขายต่อจากคุณแม่มากว่า 45 ปี นอกจากนี้ ไฟที่ใช้ในการทำต้มน้ำซุปก็จะเป็นการใช้ ไฟจากพื้น แบบดั้งเดิม เพราะจะทำให้ก๊วยเตี๋ยวก๊วยจั๊บ ต่างๆได้รับความหอมจากฟืน อีกด้วย
แต่ที่เป็นไฮไลฟ์ของทางร้าน ที่แปลกไม่เหมือนใคร และหาทานยาก นั้นก็คือ เมนู “ลอดช่องเค็ม” อาหารพื้นบ้าน อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นของชาวอำเภอลับแล
ป้ารูญ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ลักษณะเด่นของ “ลอดช่องเค็ม” หน้าตาคล้ายลอดช่องทั่วไป แต่เส้นจะหนาและหยาบกว่า ทำจากแป้งข้าวเจ้า
รสชาติเป็นของคาว ต่างจากลอดช่องทั่วไปที่เป็นของหวาน เป็นลอดช่องเส้นขาวผสมกับถั่วงอกดิบหรือดอง ปรุงรสด้วยปลาย่างหรือกุ้งป่น พริกป่น น้ำปลา มะนาว และผักชีฝรั่งซอยคลุกกับเส้นให้เข้าเนื้อก่อนทาน ซึ่งจะมีความ เค็ม?เปรี้ยวเผ็ด เผ็ดน้อย รสกลมกล่อม ครบรส คล้ายข้าวยำภาคใต้ แต่เป็นของทานเล่นหรือกับข้าวก็ได้
“ลอดช่องเค็ม”ปัจจุบันนับวันจะหาได้ยาก เพราะคนรุ่นใหม่ไม่นิยมทำ เป็นอาหารที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ และส่งเสริมให้รู้จักในวงกว้างมากขึ้น
.
ป้ารูญบอกเพิ่มเติมว่า สำหรับ ลอดช่องเค็ม เป็นสูตรดังเดิมที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ โบราณ จนถึงปัจจุบัน และจะหาทานยากมาก สำหรับนักท่องเที่ยวหรือชาวบ้านที่ชอบในรสชาติของ ลอดช่องเค็ม ก็จะเดินทางมาที่ร้าน และจะซื้อกลับบ้านกันเป็นประจำ โดยที่ร้าน ขายในราคา ถ้วยละ 10 บาท หรือขายใส่ภาชนะนำกลับบ้าน ก็ ชุดละ 10 บาท เท่านั้น ซึ่งในแต่ละวัน ก็จะมีข้าราชการและขาวบ้านในพื้นที่ ก็จะแวะมาทานก๊วยเตี๋ยวก๊วยจั๊บ และจะตามท้ายถ้วย ลอดช่องเค็ม แต่บางคนก็จะมาทาน เฉาะลอดช่องเค็มก็มี
ทั้งนี้เมนู”ลอดช่องเค็ม” ของป้ารูญยังได้รับการคัดเลือกเมนูอาหารพื้นถิ่นภายใต้โครงการ “รสชาติ…ที่หายไป The Lost Taste” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ซึ่งเป็นโครงการที่มุ่งส่งเสริมอาหารพื้นถิ่นที่กำลังเลือนหายให้กลับมาเป็นที่รู้จักในระดับประเทศ โดยปีนี้มีการคัดเลือกเมนูจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ รวมกว่า 70 รายการ
หนึ่งในเมนูที่โดดเด่นและสร้างความภาคภูมิใจให้กับชาวจังหวัดอุตรดิตถ์และได้รับผลโหวตมากที่สุด คือ “ลอดช่องเค็ม” อาหารพื้นถิ่นจากชาวเมืองลับแล ที่สามารถผ่านการคัดเลือกและได้รับการบันทึกไว้ในทำเนียบอาหารรสชาติหายไปของประเทศไทยประจำปีนี้
ลอดช่องเค็ม เป็นอาหารพื้นถิ่นของชาวเมืองลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งมีความแปลกและน่าสนใจตรงที่ถูกพลิกแนวคิดให้กลายเป็นของคาวที่มีรสชาติเค็ม เปรี้ยว และเผ็ดอ่อน ๆ แทน ซึ่งหน้าตาของลอดช่องเค็มจะคล้ายกับลอดช่องแบบหวาน แต่เส้นจะเป็นสีขาว ไม่ได้ใส่น้ำใบเตยหรือสีผสมอาหาร เส้นทำจากแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน และแป้งถั่วเขียว ผสมกันแล้วกวนให้สุก จากนั้นกดเส้นลอดช่องลงในน้ำเย็นให้เซ็ตตัว ซึ่งเป็นวิธีเดียวกับการทำลอดช่องทั่วไป
สิ่งที่ทำให้เมนูนี้โดดเด่นก็คือเครื่องปรุงแบบคาวที่ใช้แทนน้ำกะทิและน้ำตาล เช่น ปลาย่างที่ป่นละเอียด ถั่วงอกลวก ผักชีฝรั่งซอย พริกป่น น้ำปลา และน้ำมะนาว เมื่อคลุกเคล้าเข้าด้วยกันแล้วจะได้รสเค็มจัด เปรี้ยวนิด เผ็ดหน่อย มีกลิ่นหอมของสมุนไพรพื้นบ้าน เสิร์ฟในกระทงใบตองหรือจานเรียบง่ายแบบพื้นถิ่น
เป็นเมนูนี้ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของภูมิปัญญาท้องถิ่นที่แสดงถึงความคิดสร้างสรรค์ในการประยุกต์วัตถุดิบธรรมดาให้กลายเป็นอาหารที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งยังช่วยตอกย้ำบทบาทของจังหวัดอุตรดิตถ์ในฐานะแหล่งรวมวัฒนธรรมอาหารพื้นถิ่นที่ทรงคุณค่า และควรค่าแก่การอนุรักษ์สืบต่อไป
การได้รับคัดเลือกในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการยืนยันถึงรสชาติที่น่าจดจำของ “ลอดช่องเค็ม” เท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องยืนยันถึงคุณค่าทางวัฒนธรรมของอาหารพื้นถิ่นที่ไม่ควรถูกลืม
ร้านเปิดตั้งแต่ 08.00 น.-15.00 น.
เปิดขายทุกวัน หยุดทุกวันศุกร์
โทร 0872087523
ภาพ/ข่าว:นาคา คะเลิศรัมย์