ฉะเชิงเทรา ผู้การแปดริ้วแถลงผลการดำเนินคดี ผู้ต้องหา 2 คดี อุกอาจ

เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2568 เวลาประมาณ 05.00  น. สภ.ฉะเชิงเทราได้รับแจ้ง จากศูนย์วิทยุว่ามีเหตุลักทรัพย์ ที่บริเวณบ้านพักภายในซอยมหาจักรพรรด์1ถนนมหาจักรพรรดิ์ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นเหตุให้มีผู้เสียหายจำนวน 2 ราย และคนร้ายยังได้ทรัพย์สินไปหลายรายการ ซึ่งคนร้ายกระทำการโดยอุกอาจไม่เกรงกลังต่อกฎหมาย กระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์ของประชาชนเป็นอย่างมาก

พลตำรวจตรึ เกรียงไกร บุญซ้อน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา, พันตำรวจเอก สมชาย อยู่สวัสดิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา, พันตำรวจเอก กิตติสัณห์ชะนะ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา จึงสั่งการให้ พันตำรวจเอก ภูริทัด บุญช่วย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทรา พร้อมชุดสืบสวนทำการสืบสวนติดตามจับกุมตัวคนร้ายดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากพฤติกรรมของคนร้าย กระทำการโดยอุกอาจไม่เกรงกลัว
กฎหมาย กระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์ของประชาชนเป็นอย่างมาก ซึ่งจากการสืบสวนแสวงหาข้อเท็จจริงและหลักฐานในคดี จนทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุคือ นายสุรศักดิ์หรือตั้ม ขอสงวนนามสกุล อายุ 37 ปี อยู่หมู่ที่ 5 ตำบลสระขวัญ อำเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว พนักงาน
สอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอออนุมัติศาลออกหมายจับตามหมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทราที่

ข่าวที่น่าสนใจ

จ.209/2568 ลงวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 ในข้อกล่าวหา “ลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืน” โดยชุดสืบสวนได้พยายามติดตามจับกุมตัว นายสุรศักดิ์หรือตั้ม อย่างกระชั้นชิดตลอดมา โดยมีการประสานข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว จนกระทั่งต่อมาวันที่1ก.ย.2568จึงสามารถติดตามจับกุมตัวนายสรศักดิ์หรือต้ม ได้พร้อมของกลาง เป็น เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าตนเองเป็น
บุคคลตามหมายจับจริง จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลางที่ใช้ในการกระทำความผิดส่ง พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
จากการสืบสวนข้อมูลเกี่ยวกับประวัติทางคดีพบว่านายสุรศักดิ์หรือตั้ม ยังเคยถูกดำเนินคดีอาญา ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ มาแล้วจำนวน 9 คดี ในหลายพื้นที่

ส่วนอีกคดีหนึ่ง กรณีคนร้ายพยายามลักทรัพย์ เครื่องบริการธุรกรรมอัตโนมัติ (ตู้เอทีเอ็ม) เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 07:30 น. สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเหตุจากพลเมืองดีว่า เครื่องบริการธุรกรรมอัคโนมัติ (ตู้เอทีเอ็ม) บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อโลตัส เอ็กซ์เพรส
สาขาตลาดสุวินทวงศ์ ต.คลองอุดมชลจร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ถูกงัดได้รับความเสียหาย จำนวน 3 ตู้ ของธนาคารไทยพานิชย์, ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารกรุงไทย ภายหลังรับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และได้ทำการสืบสวนสอบสวนแสวงหากล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุตลอดจนเส้นทางที่คนร้ายใช้เดินทางมาก่อเหตุ และหลังการก่อเหตุ เพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้าย ต่อมาเมื่อวันที่ 1 กันยายน 256 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายคือ นายแด หม่อง(ทราบชื่อภายหลัง) สัญชาติเมียนมาโดยใช้จักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 ไอ สีขาว-ดำคันที่ใช้ก่อเหตุ ได้ที่บริเวณห้องเช่าแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อได้สอบถามเบื้องต้น นายแต หม่อง ให้การรับในทันทีว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุดังกล่าว จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า พยายามลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำลายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคลหรือทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พันการจับกุม หรือเป็นบุคคลต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตในราชอาณาจักรสิ้นสุด แนะนำตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วย
รถจักรยานยนต์และเสื้อผ้าที่ใช้ในการก่อเหตุ ของกลางที่ใช้ในการกระทำความผิดส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว อาษา / ปรีญาภรณ์ ผู้สื่อข่าว TOPNEWS ทั่วไทย จ.ฉะเชิงเทรา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ตร.ภูเก็ตรวบ ‘เจ มังกร’ ผู้ต้องหาลักทรัพย์ต่อเนื่อง 7 คดี
ตรวจสารเสพติดแรงงานภูเก็ต กว่า 2,500 ราย
ทต.บางเก่า จัดโครงการลดโลกร้อนด้วยมือเรา ปลุกป่าเพิ่มพื้นที่สีเขียวเก็บขยะริมหาดบางเก่า
องคมนตรีตรวจเยี่ยมโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช
ประมงจังหวัดเพชรบุรี ลงพื้นที่ลงแขกลงคลองจับหปลาหมอคางดำ ณ บ่อบำบัดชะอำ ได้กว่า400กิโล
ARDA ปั้นเครือข่ายผู้บริหารธุรกิจเกษตรยุคใหม่วกส. รุ่น 6 ผนึกกำลังร่วมขับเคลื่อนอนาคตเกษตรไทย

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​