“บิ๊กกุ้ง” กลั้นน้ำตา กล่าวสดุดี “ทหารไทย” พลีชีพเพื่อชาติ 18 นาย บาดเจ็บ 666 นาย ย้ำปมชายแดน จบหรือไม่ขึ้นอยู่กับ “ผู้นำกัมพูชา”
ข่าวที่น่าสนใจ
2 กันยายน 2568 พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ร่วมบรรยายในหัวข้อ “วิสัยทัศน์ หลักธรรมะและ การวางยุทธศาสตร์ป้องกันชายแดน” ที่คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยรรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า ดีใจ และภูมิใจที่ได้มาพบนักศึกษามหาวิทยาลัยรรรมศาสตร์ วันนี้อยากให้ลืมอดีตที่เคยมีเหตุการณ์สู้รบ สงคราม และอยู่กับปัจจุบัน เพราะสถานการณ์โลกเปลี่ยนไป เหตุผลที่เข้าตีกัมพูชา สืบเนื่องจากกัมพูชารุกล้ำเข้ามานานแล้ว เป็นสิ่งทิ่มแทงใจ ไม่โทษใคร และไม่ใช่คนเก่งอะไร แต่งานในหน้าที่ เมื่อถึงเวลาก็ต้องทำ
แม่ทัพภาคที่ 2 ถึงกับเสียงสั่นเครือ เมื่อพูดถึงระบุว่า เวลา 4 คืน 5 วัน ทหารไทยทำได้เท่านี้ และยอมรับว่า การสู้รบต้องเกิดการสูญเสีย บางคนขาขาด แขนขาด ทุกครั้งที่ใส่เครื่องแบบนี้คือการให้เกียรติ และสุดดีทหาร มีทหารบาดเจ็บ 660 คน เสียชีวิต 18 คน และแม่ทัพต้องเยี่ยมทุกคน ยอมรับว่า อึดอัด แต่ไม่ใช่ความรู้สึกเหนื่อย เพราะทหารแนวหน้าเหนื่อยกว่า ทุกคนอยากได้แผ่นดืนคืน โดยส่วนตัวชอบอยู่กับลูกน้อง โชคดีที่ได้อยู่ในยุทธบริเวณแล้วเกิดเหตุการณ์ไทย-กัมพูชา รวมถึงประเด็นคลิปเสียงสมเด็จฮุนเซน ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญ หรือบุญบารมีพระสยามเทวาธิราช ที่เปิดความจริงหลายอย่างให้คนไทยได้เห็น โดยไม่ได้มาโน้มน้าวความคิดนักศึกษา แต่ต้องให้ทุกคนสามัคคี ไม่ทะเลาะกัน พร้อมย้ำว่า ด้วยสัจจะลูกผู้ชาย หลังเกษียณไม่เล่นการเมืองแน่นอน และหาที่ปฏิบัติธรรมรอไว้แล้ว โดยจะอยู่เป็นกลาง ดูความถูกต้องของประเทศ เรารักธรรมศาสตร์ เพราะธรรมศาสตร์สอนให้ฉันรักประชาชน ซึ่งแม่ทัพก็รักประชาชนเช่นกัน
ไม่ต้องถามเรื่องการปฏิวัติรัฐประหาร เพราะไม่อยู่ในสมอง และมีเพื่อนเป็น ผบ.ทบ หมดยุคสมัยไปแล้ว แต่ต้องมาคิด และเปิดกว้างรับฟังความเห็นหลายฝ่าย อย่าเพิ่งเชื่อใคร จากชายแดนไทย-กัมพูชา แม่ทัพก็ทำให้เห็น ไม่ได้โน้มน้าว ไม่ได้ล้างสมองใคร และพร้อมตอบทุกคำถาม เอาเพียงใจมา ไม่อยากทะเลาะกับคนไทย โดยย้ำว่า สงครามไม่ว่าจะเกิดขึ้นที่ใด ถ้าประชาชนไม่ยอมรับก็แพ้ตั้งแต่ต้น
นอกจากนี้แม่ทัพภาคที่ 2 ยังชี้ว่าปัญหาชายแดนมี 2 อย่างที่ต้องแก้ คือ เรื่องภูมิประเทศ และเรื่องคน ซึ่งทำให้ความผูกพันระหว่างประเทศไทย-กัมพูชา กับไทย-ลาว แตกต่างกัน ซึ่งความยากของชายแดนไทย-กัมพูชา เพราะพื้นดินติดกัน และคนกัมพูชาคุยกันไม่รู้ รวมทั้งใช้ทหารนำสร้างความขัดแย้งแล้วไปฟ้องพี่ใหญ่ เป็นมุกตื้นๆที่ไทยต้องเท่าทัน ตอนนี้อยู่ในช่วงหยุดยิงชั่วคราว แต่จะเป็นอย่างไรต่อไปต้องติดตามต่อไป เพราะกัมพูชาพูดอย่างทำอย่าง
ปัจจัยสถานการณ์คือผู้นำต้องคุยกันรู้เรื่อง และไทยต้องยืนยันแผนที่1 ต่อ 5 หมื่น ทุกวันนี้ทหารกัมพูชา รอฟังคำสั่งผู้นำคนเดียว ขณะที่กัมพูชายังเต็มไปด้วยบ่อนกาสิโน ที่ผีพนันคนไทยข้ามไปเล่น จึงเป็นเหตุให้กัมพูชา เร่งเปิดด่าน ดังนั้นจะเปิดด่านเมื่อคุยกันรู้เรื่อง ทั้งนี้ไม่ได้พาดพิงใคร แต่ต้องการชี้ให้เห็นความจริง ซึ่งกัมพูชา ถ้าคุยกับผู้นำคนเดียวได้ปัญหาก็จบ และทหารไม่ได้มีผลประโยชน์ โดยมองว่า หน้าที่คนไทยคือการสนับสนุนตัวแทนที่ดี ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง และรู้จริงไปบริหารประเทศ เช่น คนที่จะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมต้องรู้เรื่องสถานการณ์โลก
ทั้งนี้ไม่ได้ตำหนิรัฐบาลปัจจุบัน
จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ตอบคำถามนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในหลายประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ไทย-กัมพูชา
โดยแม่ทัพภาคที่ 2 ย้ำถึงช่วงสำคัญของสถานการณ์อยู่การตัดสินใจปิดปราสาทตาเมือนธม โดยยอมรับว่ามีข้อกังวล แต่ทหารได้เตรียมพร้อมทุกอย่าง สุดท้ายเป็นไปตามที่คิด เพื่อยึดแผ่นดินคืนมาเท่าที่ทำได้ โดยต้องวางแผนทั้งหมด
อาจจะมีบางคนบอกแม่ทัพภาคที่ 2 ตรวจพร้อมรบ แค่เอาหล่อ ตรวจพร้อมรบเท่ ก็แล้วแต่เขา แต่เราต้องเตรียมพร้อมไม่ไปหวังน้ำบ่อหน้า ย้ำว่าทหารไม่ยุ่งการเมืองจะสง่างาม ทหารมีหน้าที่ปกป้องประเทศ และทำตามคำสั่งที่ถูกต้อง คำพูดนี้ต้องอยู่ในปากทหาร รู้จักนักการเมืองเกือบทั้งสภา รวมทั้งนายกรัฐมนตรี แต่คนที่อยู่ในตำแหน่งต้องชี้แจงเอง แต่จะเป็นไม้หลักปักขี้เลนไม่ได้ โดยยอมรับว่า มีพรรคการเมืองติดต่อ แต่ไม่ยุ่งการเมือง และเลือกที่จะไม่เล่น เพราะคนไทยหลายคนมองอยู่ แม้จะเกษียณจากแม่ทัพ แต่ไม่เกษียณจากความเป็นคนไทย
แม่ทัพภาคที่ 2 เชื่อว่า ปัญหาไทย-กัมพูชา ขึ้นอยู่กับผู้นำกัมพูชาจะบอกประชาชน และแม่ทัพพร้อมจูบปาก กอดกับแม่ทัพกัมพูชา ซึ่งเชื่อว่า ต้องใช้เวลาอีกไม่นานสถานการณ์จะดีขึ้น
ทั้งนี้แม่ทัพภาคที่ 2 ยัง ตอบคำถามนักศึกษาในประเด็นสิทธิมนุษยชนกรณีส่งเด็ก ม.1 กัมพูชาที่เข้าเมืองผิดกฎหมายกลับประเทศว่า จากสิ่งที่กัมพูชาทำต่อพลเรือนไทย สร้างความไม่พอใจให้คนไทย และการที่เด็กต้องกลับ รวมถึงคนกัมพูชาที่ต้องกลับประเทศหลักแสนคน เป็นเงื่อนไขของผู้นำ ทั้งนี้มองว่า เด็กไม่ได้เกี่ยวข้องกับสถานการณ์และเชื่อว่าเมื่อเหตุการณ์เรียบร้อยก็น่าจะได้กลับมาเรียน
พร้อมฝากนักศึกษาให้กำลังใจทหาร และทหารก็มีความเป็นประชาธิปไตย ซึ่งผู้บัญชาการทหารบกก็ฝากมาย้ำว่า หากนักศึกษาต้องการทำกิจกรรมอะไรทหารก็พร้อมที่จะสนับสนุน และ หากสถานการณ์ดีขึ้นจะจัดกิจกรรมวิ่งเทรลที่ภูมะเขือจังหวัดศรีสะเกษรับลมหนาว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น