No data was found

ประติมากรรมหนึ่งเดียวในโลก ตั้งสังขารหลวงพ่อพูลประดิษฐานศาลาหลังใหม่

กดติดตาม TOP NEWS

ศิษย์แห่ชื่นชมประติมากรรม หลวงพ่อพูลหน้าตัก 3 เมตร สูง 5 เมตร นั่งบนหนุมานอุ้มโลงแก่วหีบทอง บรรจุสังขารไม่เน่าเปื่อย 16 ปี เผยพุทธศิลป์หนึ่งเดียวในโลก หลวงพี่น้ำฝนจัดสร้างเพื่อถวายความกตัญญูเผยแพร่ความดี พร้อมเปิดให้ประชาชนเข้ากราบไหว้บูชาในศาลาหลวงพ่อพูลหลังใหม่นับจากนี้เป็นต้นไป 

วันที่ 12 ตุลาคม 2564  ที่วิหารพระพุทธเมตตาประทานพร วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เป็นประธานในการจัดพิธีเปลี่ยนผ้าครอง ย้ายสังขาร พระเดชพระคุณ หลวงพ่อพูล เข้าสู่ศาลาหลวงพ่อพูล ซึ่งเป็นพิธีการในการเปิดศาลาหลวงพ่อพูล(หลังใหม่) อย่างเป็นทางการหลังก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์ โดยมีเพียงคระสงฆ์ศิษยานุศิษย์ที่ใกล้ชิดรวมถึงเจ้าหน้าที่ของวัดไผ่ล้อมเข้าร่วมในพิธีโดยมีการป้องกันการเกิดครัสเตอร์ของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19

โดยในช่วงก่อนพิธีการ เวลา 14.00 น. ที่ศาลาหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้จัดพิธีมอบเครื่องผลิตออกซิเจน จำนวน 50 เครื่อง เพื่อมอบให้กับโรงพยาบาล 2 แห่งและโรงพยาบาลสนามอีก 3 แห่ง มูลค่า 2,050,000 บาท โดยมีศิษยานุศิษย์และผู้ร่วมบุญเข้ามอบให้กับตัวแทนจากโรงพยาบาลต่างๆ อาทิเช่น  พล.ต.ต.วิสิทธิ์ ศิริสหวัฒน์ ผบก.ศพฐ.7 นายสมชาติ สาลีพัฒนา เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวลูกปลานายเงี๊ยบ ศิลปิน นักร้องชื่อดัง พลพล พลกองเล็ง ศิลปินตลก กระรอก เชิญยิ้ม พิธีกรชื่อดัง นกบริพันธ์ ชัยภูมิ เป็นต้นซึ่งการมอบเครื่องผลิตออกซิเจนดังกล่าวเป็นการมอบครั้งที่ 2 หลังจากที่เคยได้ทำการมอบไปครั้งที่ 1 แล้วจำนวน 91 เครื่องให้กับโรงพยาบาลหลายแห่งโดยมีเป้าหมายเพื่อให้สามารถนำไปใช้กับโรงพยาบาลและโรงพยาบาลสนามต่างๆ ที่มีผู้ป่วยวิกฤติที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้ามาพักรักษาตัวในสถานที่ต่างๆ เพื่อลดโอกาสในความเสี่ยงของการเสียชีวิตจากการติดเชื้อลงปอด ซึ่งเป็นหนึ่งกิจกรรมทางด้านสาธารณสงเคราะห์ที่หลวงพี่น้ำฝนได้จัดขึ้นในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในขณะนี้

จากนั้น เป็นพิธีการเคลื่อนสังขารหลวงพ่อพูล ลงจากโลงหีบทองที่ตั้งอยู่ภายในวิหารพระพุทธเมตตาประทานพร และเคลื่อนมายังศาลาหลวงพ่อพูล โดยได้มีพิธีการทำสะอาดสังขารและเปลี่ยนผ้าครอง โดยมีลูกศิษย์ลูกหาที่ให้ความศรัทธาหลวงพ่อพูลได้ร่วมกันเปลี่ยนผ้าครองโดยเวลา และมีการลงกระหม่อม โดยการเปิดให้มีการทำพิธีหลัก นั่นคือการลงกระหม่อม คือการเปิดให้ประชาชนได้เข้าไปกราบไหว้อย่างใกล้ชิด และใช้หน้าผากแตะปลายเท้าสังขารหลวงพ่อพูล เพื่อความเป็นสิริมงคลกีบชีวิต โดยพิธีการดังกล่าวไม่ได้จัดมาแล้ว 2 ปี เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตลอดระยะเวลา 2 ปี ที่ผ่านมา

พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาวัดไผ่ล้อม เผยว่า ในการจัดพิธีการเปลี่ยนผ้าครอง สังขารหลวงพ่อพูล และการเคลื่อนย้ายสังขารไปตั้งในศาลาหลวงพ่อพูลครั้งนี้ ได้มีการวางแผนมานาน โดยที่ตั้งของศาลาหลวงพ่อพูลที่ได้นำสังขารท่านไปประดิษฐานตรงเดิมทีก็เป็นที่ตั้งของกุฏิของท่านเอง ซึ่งการออกแบบอาตมาก็ได้ทำตามนิมิตที่เป็นภาพ คือการที่มีรูปหล่อหลวงพ่อพูลที่สร้างขึ้นมาเป็นงานที่ละเอียดมีความเหมือนกับท่านยังคงมีชีวิต และนั่งอยู่บนหนุมานซึ่งถือว่าหนุมานเป็นตัวแทนของความกตัญญูซึ่งหมายถึงหลวงพี่น้ำฝน ซึ่งตลอดระยะเวลาครั้งที่หวงพ่อพูลท่านยังมีชีวิติยู่หลวงพี่น้ำฝนก็ได้มีการสนองงานของหลวงพ่อพูลในวัดไผ่ล้อมด้วยความตั้งใจมาโดยตลอดและแม้หลวงพ่อพูลท่านได้ละสังขารแล้ว 16 ปี แต่หลวงพี่น้ำฝนก็ยังคงสานต่อภารกิจในวัดไผ่ล้อมิย่างต่อเนื่องเสมอมา ส่วนโลงกระจกที่รูปหล่อท่านอุ้มไว้เป็นการที่แสดงให้เห็นถึงบารมีของท่านที่สังขารไม่มีการเน่าเปื่อย และเนื้อผิวก็ยังคงออกเป็นสีทองอร่ามมากขึ้นทุกปี โดยยังมีเส้นผมที่งอกออกมาด้วย จึงได้ตั้งใจมาจัดประดิษฐานเพื่อให้ประชาชนได้มาเห็นถึงบารมีของหลวงพ่อพูลที่ท่านเป็นครูบาอาจารย์ที่สร้างแต่ความดีมาตลอดการครองชีวิตในร่มกาสาวพัสตร์ โดยจากนั้นจะเปิดให้ประชาชนได้เข้ามากราบไหว้ขอพระเพื่อเป็นมงคลชีวิตนับจากนี้ไปอย่างเป็นทางการ

สำหรับ หลวงพ่อพูล กำเนิดเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ.2455 ปีชวด ที่บ้านเลขที่ 75 หมู่ที่ 3 ตำบลดอนยายหอม อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม เป็นบุตรคนที่ 6 จากพี่น้อง 10 คน บิดาชื่อ นายจู มารดาชื่อนางสำเนียง นามสกุลปิ่นทอง ในวัยศึกษา ได้เข้าศึกษาที่โรงเรียนวัดห้วยจระเข้ สำเร็จการศึกษาชั้นประถมปีที่ 4 เมื่อปีพ.ศ.2471

ครูจันทร์ หัวหน้าคณะลิเกคณะแสงทอง ในสมัยนั้น ได้เห็นหน่วยก้านดีจึงได้มาขอนายจูบิดาให้เด็กชายเริ่มมาฝึกฝนวิชาลิเก และแสดงให้เห้นถึงความสามารถเพราะเป็นคนมีความจำดีเยี่ยม แต่ก็ได้มาฝึกวิชาในเวลาไม่นานก็มาพบว่าชอบที่จะเรียนรู้วิชาการต่อสู้แบบลูกผู้ชายและไปฝึกซ้อมเป็นนักมวยไทยจนกลายมาเป็นนักมวยที่มีฝีมือดีคนหนึ่ง ในจังหวัดนครปฐมในช่วงนั้น

เมื่อเข้าสู่วัยหนุ่มเต็มตัว นายพูลก็ได้จุดประกายใคร่เรียนรู้ ในการเขียนอักขระภาษาขอมและวิชาการแพทย์แผนโบราณ จึงได้เข้าไปฝากตัวเป็นศิษย์ของหลวงปู่แย้ม ปิ่นทอง ผู้เป็นปู่ซึ่งได้รับวิชาจากหลวงปู่จ้อย วัดบางช้างเหนือ หลวงพ่อแช่มวัดตาก้อง และหลวงปู่กลั่น วัดพระประโทนเจดีย์ ซึ่งล้วนเป็นอดีตพระเกจิชื่อดังแห่งเมืองนครปฐม ซึ่งหลวงปู่แย้มยังมีเพื่อนรักอีกคนหนึ่งที่เป็นศิษย์ร่วมสำนักเดียวกัน นั่นคือ นายพรม ด้วงพลู หรือ พ่อพรม จอมขมังเวทย์ แห่งดอนยายหอม ผู้ที่เป็นบิดาของหลวงพ่อเงิน แห่งวัดดอนยายหอม นายพูลจึงได้รับการฝึกฝนวิชาต่างๆมาจากครูบาอาจารย์หลายท่าน

ในปี พ.ศ.2477 นายพูล อายุครบสู่วัยเกณฑ์ทหาร จึงสมัครเข้ารับราชการในสังกัดทหารม้ารักษาพระองค์ ทันทีที่เสร็จสิ้นเรื่องการรับใช้ชาติ ท่านได้เข้าบรรพชาอุปสมบททดแทนคุณบุพการี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ.2480 ขึ้น 12 ค่ำ ปีฉลู ณ พัทธสีมา วัดพระงาม ได้รับฉายา อัตตะรักโข หมายความว่า ผู้รักษาตน ซึ่งท่านได้ไปเข้าฝากตัวเป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อพร้อม แห่งวัดพระงาม ซึ่งเลื่องชื่อในการสร้างพระปิดตาเนื้อทองผสม ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในวงการพระเครื่อง คือ พระปิดตา วัดพระงาม และท่านยังได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์ของหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ซึ่งได้เรียนรู้และศึกษาทางธรรมจนมีจิตใจที่นิ่งสงบ

 

ต่อมาในปี พ.ศ.2490 วัดไผ่ล้อมได้ ซึ่งเป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ซึ่งเป็นช่วงที่พระองค์ทรงเกณฑ์ชาวมอญมาเป็นแรงงานในการบูรณะองค์พระปฐมเจดีย์ และมีสถานที่เงียบสงบในการปฏิบัติธรรม จึงได้จัดให้เป็นธรณีสงฆ์ในและมาเป็นวัดไผ่ล้อม ได้ขาดเจ้าอาวาส หลวงพ่อเงิน ท่านได้บอกกับชาวบ้านว่ามีพระอาจารย์รูปหนึ่ง มีการปฏิบัติที่งดงามจำพรรษาอยู่ที่วัดพระงาม ชาวบ้านจึงได้พร้อมใจกันไปกราบนมัสการอาราธนาพระอาจารย์พูล ให้ย้ายมาจำพรรษาที่วัดไผ่ล้อม พร้อมกับให้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม โดยมีหลวงพ่อเงินคอยเป็นพี่เลี้ยงคอยแนะนำให้การช่วยเหลือ ประสิทธิประสาทวิชาให้จนครบถ้วน หลวงพ่อพูลจึงถือได้ว่าเป็นศิษย์สายตรงของหลวงพ่อเงิน ที่ท่านรักและเมตตาเป็นอย่างยิ่ง

กระทั่งวันอาทิตย์ ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ.2548 เวลา 14.55 น. หลวงพ่อพูลได้ละสังขารอย่างสงบ ขณะอายุ 93 ปี ซึ่งเป็นเกิดปรากฏการณ์ 3 มงคล คือตรงกับวันวิสาขบูชาพิธีไหว้ครูบูรพาจารย์และเป็นวันที่ท่านละสังขาร ซึ่งหลังจากมีการจัดพิธีการทางศาสนาได้ครบ 100 วัน พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) ได้มีการเปิดโลงหีบทอง และเกิดเรื่องอัศจรรย์เมื่อพบว่า ร่างสังขารของหลวงพ่อพูล ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ใบหน้าผิวพรรณของท่านยังเหมือนปกติไม่เน่าเปื่อย หลวงพี่น้ำฝนจึงได้อัญเชิญสังขารของหลวงพ่อพูลบรรจุไว้ในโลงแก้ว ซึ่งทำให้ศิษยานุศิษย์และประชาชนได้กราบไหว้บูชาด้วยความอัศจรรย์จนจวบถึงทุกวันนี้ นับเวลามาถึงตอนนี้ เป็นเวลา 16 ปีเต็ม

และศิษยานุศิษย์ รวมถึงประชาชนทั่วไปจะทราบกันกันดีว่า ท่านเป็นเกจิอาจารย์ที่มีญาณหยั่งรู้ แต่พูดน้อยและเป็นพระที่มีความเมตตาสูงโดยเฉพาะในกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่ทำการค้าขายจะมาให้ท่านจัดทำพิธีเพื่อความเป็นมงคลในการประกอบกิจการ และจะเป็นที่รู้กันว่าหากจะตั้งศาลพระภูมิหลวงพ่อพูลท่านมักจะมีการหยดเทียนน้ำมนต์ลงในอ่างน้ำมนต์ ผู้ที่จัดงานมักจะมาขอดูลายหยดน้ำตาเทียนและนำไปตีเลขได้โชคลาภกันเป็นประจำ หลวงพ่อพูลท่านจึงได้รับมาขนานนามว่า พระผู้เมตตากับพ่อค้าแม่ค้า ตั้งแต่ยุคก่อนถึงจนถึงยุคปัจจุบัน

 

ปนิทัศน์ มามีสุข   นส.ปณิดา มามีสุข จ.นครปฐม

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ชลบุรี ตำรวจ บก.ปทส. พร้อมเจ้าหน้าที่กรมอุตสาหกรรม นำหมายค้นเข้าตรวจสอบบริษัทรีไซเคิล ในพื้นที่ตำบลคลองกิ่ว หลังชาวบ้านร้องกลัวว่าจะเป็นที่กักเก็บกากแคดเมียม
ตำรวจรวบตัว "3 ชาวจีน" ถูกทิ้งอยู่ข้างทาง หลังหนีการสู้รบจาก "เมืองเมียวดี" ลักลอบเข้าไทย
เด็ก "เจ๊แดง" ผงาด "จักรพล" ขึ้นแท่น "โฆษกรัฐบาล" ลุยทำงานเต็มสูบหลังโผครม.เศรษฐา 2 คลอด
ตำรวจสอบสวนกลาง รวบ "แม่เล้า" ริมฝั่งโขง ค้ากามเด็กสาวไทย-ลาว เตือนผู้ปกครองควรใส่ใจดูแลบุตรหลาน
“แม่น้องไนซ์” รอพบสำนักพุทธฯ เคลียร์ปมเชื่อมจิต ลั่นเตรียมฟ้องสื่อ 5 ช่อง เผยแพร่ข้อมูลเท็จ
3 จีนเทา หนีสู้รบ จากเมียวดีฯ ลอบเข้าไทยจะไปปอยเปตถูกนำมาปล่อยทิ้งข้างถนน
เมืองพัทยา คึกคัก กองเรือพิฆาตเทียบฝั่ง ทหารอเมริกันยกพลขึ้นบกท่องเที่ยว
ชาวเน็ตแห่แชร์ภาพคุณยายวัย 89 ปี อยู่คนเดียว สุดรันทดในบ้านไม้ผุพังไม่มีหลังคาบังแดดบังฝนวอนหน่วยงานเร่งช่วยเหลือ
"หมอธีระวัฒน์" แจ้งข่าวลาออก หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ รพ.จุฬาฯ หลังวิจารณ์ปมวัคซีนโควิด หวั่นกระทบภาพลักษณ์องค์กร
"รทสช." ยังไม่นิ่ง! สะพัด "เสี่ยเฮ้ง" รีเทิร์นคั่วเก้าอี้ "รมช."

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น