วันที่ 27 ส.ค. 2568 น.ส.อาภรณ์ รัตนพิบูลย์ เกษตรอำเภอเบตง พร้อมด้วย น.ส.ภัทรสิริตา พรหมประสิทธิ์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ และนางสาววีนัส ศักดิ์สองเมือง นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ ร่วมกับผู้นำชุมชน ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่ประสบภัยพิบัติ (ช้างป่า) จำนวน 4 ราย พบต้นทุเรียนที่กำลังเก็บเกี่ยวผลผลิตรวมทั้งระบบน้ำได้รับความเสียหาย พร้อมทั้งได้ให้คำแนะนำขั้นตอนในการปฏิบัติเพื่อขอรับความช่วยเหลือเบื้องต้น ณ หมู่ที่ 7 ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา
สำหรับ กรณีให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ที่พืชตาย หรือเสียหายตามจำนวนพื้นที่ทำการเกษตรจริง ที่ได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ ไม่เกินครัวเรือนละ 30 ไร่ ในอัตรา พืชไร่และพืชผัก ไร่ละ 1,980 บาท ไม้ผลไม้ยืนต้น และอื่น ๆ ไร่ละ 4,048 บาท เป็นต้น ด้านนายอับดุลอายี สาแม็ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดยะลา กล่าวว่า ตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้าน กรณีมีช้างป่าออกมาทำลายทรัพย์สินและพืชผลทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะสวนทุเรียนที่ได้รับความเสียหายต่อเนื่องทุกวัน ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก จึงขอให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าดำเนินการผลักดันหรือย้ายช้างป่าออกนอกพื้นที่โดยเร็ว พร้อมกันนี้ได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลและคณะกรรมาธิการวิสามัญที่ได้ผลักดันให้มีการประกาศค่าชดเชยเยียวยาความเสียหายในราชกิจจานุเบกษา โดยจากเดิมมีการชดเชยทุเรียนเพียงต้นละประมาณ 200 บาท ล่าสุดได้ปรับอัตราชดเชยเพิ่มขึ้นเป็นลูกทุเรียนกิโลกรัมละกว่า 35 บาท และต้นทุเรียนต้นละราว 20,000 บาท อย่างไรก็ตาม แม้จะมีประกาศอัตราชดเชยแล้ว แต่เกษตรกรยังไม่ได้รับเงินเยียวยา ซึ่งกระทบต่อรายได้อย่างรุนแรง เนื่องจากผลผลิตทุเรียนที่คาดหวังจะสร้างรายได้ในปีนี้แต่กลับถูกช้างป่าทำลายจนหมด จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งรัดจ่ายเงินชดเชยโดยใช้งบประมาณภัยพิบัติของจังหวัดไปพลางก่อน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และสร้างขวัญกำลังใจให้เกษตรกรที่กำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจและราคาผลไม้ตกต่ำ
เจษฎา สิริโยทัย ผู้สื่อข่าว TOPNEWS ทั่วไทย จ.ยะลา