ครม.เห็นชอบต่อสัญญา “พ.ท.หนุน ศันสนาคม” นั่งเก้าอี้ ผอ.สลากฯ ถึงปี 2572 สานต่อโครงการ เลขท้าย N3
ข่าวที่น่าสนใจ
26 สิงหาคม 2568 ที่ประชุมครม. ยังเห็นชอบต่ออายุ พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ต่ออีกวาระ หลังจากครบกำหนดตามสัญญาจ้าง 26 ส.ค.2568 เพื่อให้สานต่อโครงการเลขท้ายสลาก N3 เพราะขณะนี้อยู่ระหว่างการทดลองเปิดจำหน่าย โดยมีระยะเวลาดำรงตำแหน่ง 4 ปี ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.2568 สิ้นสุด 26 ส.ค.2572
สำหรับประวัติของพ.ท.หนุน ศันสนาคม หรือ เสธ.หนุน
เกิดเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2515 ปัจจุบันอายุเกือบ 53 ปี
พ.ท.หนุน ศันสนาคม เป็นบุตรชายของ พล.อ.นิยม ศันสนาคม อดีตผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า
จบเตรียมทหารรุ่นที่ 31 รุ่นเดียวกับนายตำรวจคนดัง “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษา(สบ9) เสธ.หนุน เป็น นัก
เรียนนายร้อยจปร.รุ่นที่ 42 สมัยเรียนเป็นนักรักบี้
จบปริญญาโท บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต บริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
เคยดำรงตำแหน่งผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ผบ.ร.11พัน2รอ.)
ผลงานสำคัญในสำนักงานสลากฯ
เข้ามามีบทบาทสมัยรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้รับความไว้วางใจ เข้ามาจัดระเบียบปัญหามาเฟียในสำนักงานสลาก
ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล สมัย พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ นั่งเป็นประธานกรรมการบอร์ด
ปี 2561 ได้รับแต่งตั้งเป็น รองผู้อำนวยการ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
ปี 2564-2568 รับแต่งตั้ง เป็นผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สมัยแรก
ปี 2568 ปัจจุบัน ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สมัยสอง
เป็นผู้ผลักดันการแก้ปัญหาสลากเกินราคา 80 บาท ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมหลายโครงการ ไม่ว่าจะเป็นการผลักดันโครงการสลากดิจิทัล 80 บาท การเปิดลงทะเบียนผู้ค้ารายใหม่ หรือ L6 และผลักดันโครงการสลากเลข 3 หลักหรือ N3 ที่สำคัญทำให้สำนักงานสลากฯ เป็นรัฐวิสาหกิจที่สามารถนำส่งรายได้เข้ารัฐสูงสุดปีละ 4-5 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้เมื่อต้นปี 2568 “พันโทหนุน ศันสนาคม” ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่าแท้จริงแล้ววัตถุประสงค์หลักของสลาก N3 ไม่ใช่จะแข่งกับหวยใต้ดิน แต่ทำเพื่อปิดช่องว่างสลาก L6 ในเรื่องของการขายเกินราคา แต่การแก้ปัญหาหวยใต้ดิน คือผลพลอยได้
“N3 ไม่ใช่คู่แข่งหวยใต้ดิน เพราะคู่ชกน้ำหนักต่างกัน อัตราการจ่ายเงิน ก็ไม่เหมือนกัน ข้อนี้ชัดเจน ซึ่งเปรียบเทียบไม่ได้ แต่เราพูดเสมอว่า N3 มีจุดแข็ง ซื้อเลข 3 หลัก มีโอกาสถูกรางวัล 4 ประเภท สามตรง สามสลับหลัก สองตรง และรางวัลพิเศษ คือจุดแข็งของสำนักงานสลากฯ”
“พันโทหนุน” เปิดเผยด้วยว่า สลาก N3 จะกำหนดกรอบการจำหน่ายไว้ที่ประมาณ 5 ล้านรายการต่องวด โดยตัวแทนจำหน่ายจะได้ส่วนแบ่งในอัตรา 10% ของราคาสลาก N3 ต่อรายการ กล่าวคือสลาก N3 ราคา 20 บาท ก็จะได้ 2 บาท เมื่อรวมกับสลาก L6 ที่ได้รับไปจำหน่ายเดือนละ 10 เล่ม จะช่วยสร้างรายได้เพิ่มเติมให้กับตัวแทนประมาณ 15,000 บาทต่อเดือน ในกรณีที่สามารถจำหน่ายได้ครบ
ส่วนการจำหน่ายที่จุดจำหน่ายสลาก 80 จะเหมือนเดิม คือ ต้องซื้อที่จุดจำหน่าย ทำรายการผ่านอุปกรณ์ และชำระเงินผ่านแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง”
“คณะกรรมการได้ให้ความสําคัญในเรื่องการเป็นตัวแทนรายย่อย เขาจะได้ไปเดินขาย แล้วก็มีรายได้พอเลี้ยงชีพใน 1 เดือน เพราะฉะนั้นจากที่มีสลาก L6 แบบดิจิทัล ก็จะมีสลาก N3 เพิ่มเข้ามาให้ เพื่อให้มีรายได้ 15,000 บาทต่อเดือน ซึ่งข้อดี คือไม่ต้องลงทุน ต่างจากสลาก L6 แบบใบและดิจิทัล ที่จะต้องเอาเงินมาจ่ายให้สำนักงานสลากฯก่อน ถึงจะได้สินค้าไปจําหน่าย
แต่ N3 ไม่ต้องเอาเงินมาจ่ายก่อน ขายได้เท่าไหร่ ก็ได้เท่านั้น สมมุติหากขายได้ 1,600 รายการ หนึ่งรายการเท่ากับได้ 2 บาท คูณ 2 เข้าไป ก็เป็นรายได้ เพราะฉะนั้น ไม่มีการลงทุน ยิ่งขยันขาย ยิ่งได้ ตอบโจทย์เรื่องของอาชีพ”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น