วันที่ 25 สิงหาคม 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สหกรณ์โคนมชะอำ-ห้วยทราย จำกัด ต.สามพระยา อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี นายสมควร สว่างอารมณ์ ผู้จัดการสหกรณ์โคนมชะอำ-ห้วยทรายจำกัด ได้เปิดเผยถึงวิกฤนมโรงเรียนว่า สถานการณ์ปัญหานมโรงเรียนปัจจุบันของ สหกรณ์โคนมชะอำ-ห้วยทราย จำกัด จ.เพชรบุรี แ ละเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในพื้นที่ กลุ่มที่6 ภาคกลางตอนล่าง-ภาคใต้ ร่วม10จังหวัด มีสภาวะนมดิบล้นตลาดไม่มีแหล่งจำหน่ายออกที่ชัดเจน อาจส่งผลกระทบต่อภาพร่วมของนมโรงเรียนอย่างหนัก จนอาจลุกลามเป็นปัญญาหาระดับประเทศได้ในไม่ช้านี้ โดยสหกรณ์โคนมชะอำ-ห้วยทราย จำกัด จ.เพชรบุรี บริหารงานมากว่า20ปี รับซื้อนมจากเกษตรกรในพื้นที่วันละ23 ตันในปัจจุบัน ผลิตนมโรงเรียน และนมบางส่วนที่เหลือไม่สามารถไปจำหน่ายในราคาปกติได้ ทำให้เกิดสภาวะสหกรณ์อาจจะขาดทุนในปีนี้ เนื่องจากนมบางส่วนถูกขายในราคาต่ำ และได้รับผลกระทบจากนโยบายการค้าเสรีเป็นหลัก ทำให้นมเหลือประมาณวันละ10ตัน สาเหตุหลักเกิดจากการจัดสรรสิทธ์นมโรงเรียนที่ ไม่สอดคล้องกับปริมาณเด็ก โรงงาน ผู้ประกอบการในพื้นที่ จังหวัดเพชรบุรีอยู่ในกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมที่ 6 ขายนมโรงเรียนให้ทางภาคภลาง-ภาคใต้ประมาณ 14-15 จังหวัด โดยในกลุ่มที่ 6 มีสหกรณ์ตั้งอยู่ในพื้นที่มากที่สุดในประเทศไทย มีการจัดสรรสิทธิ์นมโรงเรียนในกลุ่ม โดยปกติทุกปีจะนำนมดิบไปขายให้ภาคเอกชนได้ โดยเอกชนเอกชนรับซื้อหมดในระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันผู้ประกอบการเอกชนไม่รับซื้อนมแล้ว สาเหตุอาจจะเกิดจากผู้บริโภคลดลง หรืออาจเป็นผลกระทบจากการค้าเสรีที่รัฐบาลนำสินค้าเกษตรไปแลกกับสินค้าอุตสาหกรรม หรือเอาเกษตรกรไปแลกกับนายทุน โดยการนำนมผงเข้ามาจากต่างประเทศในราคากิโลกรัมละ14 บาท แต่ถ้าเป็นน้ำนมดิบของสหกรณ์ในประเทศไทยจำหน่ายอยู่ในกิโลกรัมละ20-22 บาท ทำให้ปัจจุบันนี้เริ่มมีผลกระทบหนัก 
ข่าวที่น่าสนใจ
ปัจจุบันสหกรณ์มีนมที่เหลือจากการผลิตแต่ไม่สามารถจำหน่ายออกได้ จึงนำนมไปผลิตเป็นนมกล่อง uhtตราโรงเรียน มีอยู่ประมาณ10ล้านกล่อง ร่วมมูลค่ากว่า80กว่าล้านบาท ในช่วงปิดเทอมจะขายนมได้ประมาณ3ล้านกล่อง แต่ยังเหลืออีก 7 ล้านกล่องที่ขายไม่ออกและตกเป็นภาระของสหกรณ์ ปัจจุบันทางสหกรณ์มีฐานการเงินในการรับซื้อนมจากเกษตรกรได้อีกประมาณ 1 เดือน หากภาครัฐไม่มีการยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเงินทุนของสหกรณ์ที่มีอยู่จะไม่เพียงพอ ต่อการรับซื้อน้ำนมดิบเกษตรกรและจะส่งผลกระทบต่อเกษตรกร กว่า10จังหวัด สหกรณ์รับซื้อนมดิบจากเกษตรกร ราคา21บาท25สตาง ขายให้โรงงานผู้ประกอบการรายใหญ่ 22 บาท 75 สตางค์ โรงงานรับซื้อนมจากทั่วประเทศ3,050 ตัน และยังมีภาคเอกชนมาซื้อบางส่วน เพื่อนำไปทำนมโรงเรียน ส่วนของภาคเอกชนปัจจุบันลดปริมาณการซื้อนมลงซึ่งเชื่อว่า ปัญหาเจิดจากการเปิดการค้าเสรีคือราคานมที่แตกต่างกัน โดยการนำเข้านมผงเข้ามาจากต่างประเทศ ราคากิโลกรัมละ15 บาทก่อนนำมาแปลรูปเป็นน้ำมน ขณะที่ผู้ประกอบการในไทยซื้อนมจากเกษตรกรในประเทศในกิโลกรัมละ 22 บาท75 สตางค์ ซึ่งมีราคาต่างกันประมาณ 7 บาท ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ประกอบการในไทย ลดปริมาณการซื้อนมดิบจากสหกรณ์น้อยลง ทำให้สหกรณ์ได้รับผลกระทบแบกรับภาระเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในประเทศอาจจะไปต่อไม่ได้
แนวทางแก้ไข ทางสหกรณ์ได้เสนอของบประมาณนำมาซื้อนมกล่องให้กับเด็กนักเรียนเพิ่ม และต้องแก้ไขแบ่งเขต หรือจัดเขตใหม่ให้สอดคล้องกับปริมาณ นม เด็ก และผู้ประกอบการทั่วประเทศ กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม มีทั้งหมด7กลุ่ม อาจจะยุบลงมาเหลือเพียงแค่5กลุ่ม เพื่อให้จัดสรรปริมาณน้ำนมได้เหมาะสมทั้งระบบเบื้องต้น ส่วนระยะยาวต้องให้รัฐส่งเสริมให้เด็กดื่มนมให้ครบ365 วัน ซึ่งจะแก้ปัญหาเรื่องนมดิบที่ล้นตลาดได้ ทางสหกรณ์ได้ส่งเรื่องไปยังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อของบประมาณในการจัดสรรเงินมาซื้อน้ำนมที่ล้นตลาด และของบไปถึงรัฐบาลเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหาเรื่องนม ถ้ารัฐบาลเห็นใจแก้ไขปัญหาให้เกษตรกรเร่งด่วนได้ เกษตรกรก็จะไม่อยากไปปิดถนนเหมือนม็อบข้าวโพด หรือม็อบมันสำปะหลัง และยังมีปัญหาที่สำคัญคือที่องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย(อ.ส.ค.) ซึ่งก็มีปัญหาสภาพคล่องทางการเงินมีหนี้ค้างเกษตรกรประมาณ 800-1,000 ล้านบาท สหกรณ์ส่งนมบางส่วนนมให้ อสค. นำไปจ้างผลิตที่ หาก อสค.ไม่สามารถคงอยู่ได้ อาจทำให้ต้องหยุดกิจการและส่งผลกระทบเรื่องนมทั้งประเทศ ทาง อสค.ผลิตนมวันละ400ตัน หากมีการหยุดผลิตจริงผู้ประกอบการ และภาคเอกชน ไม่สามารถรองรับปริมาณน้ำนมวันละ 400 ตันได้ จะทำให้เกิดวิกฤตนมล้นทั้งประเทศทันที่ กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมวอนขอรัฐบาลเร่งลงไปเยียวยา ให้กับ อสค.หรือทำอย่างไรให้มีสภาพคล่องที่ดีขึ้นได้ ปัจจุบัน อสค.จะไปไม่ไหว มีหนี้ค้างเกษตรกรจำนวนมากและยังมีปัจจัยอื่นด้านวัตถุและการผลิตอีกมูลค่าหลายพันล้าน ไม่สามารถที่จะเคลียร์ให้กับบริษัทต่างๆได้ อาจจะส่งผลกระทบต่อสหกรณ์ทั่วประเทศ จึงอยากวอนให้รัฐบาลเร่งตรวจสอบ เยียวยา หรือหางบประมาณมารับซื้อขนมเกษตรกรให้ได้ เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตนมครั้งนี้
บรรณรต เจริญกิจสัมพันธ์ ผู้สื่อข่าว TOPNEWS ทั่วไทย จ.เพชรบุรี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
