การตัดสินใจไม่ขออนุมัติด้านกฎระเบียบของยุโรปสำหรับวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนาของเคียววัค เกิดขึ้นหลังจากผลการทดลองขั้นสุดท้ายในเดือนกรกฎาคมยืนยันว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพเพียง 48 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งต่ำกว่าคู่แข่งอย่างไฟเซอร์และโมเดอร์นา ที่ใช้เทคโนโลยี mRNA เหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม แม้ทาง European Medicines Agency (หรือ EMA) ได้แถลงยืนยันว่าได้สิ้นสุดการทบทวนวัคซีนของเคียววัคแล้ว แต่ EMA ก็ระบุว่า ในช่วงไตรมาสที่สองของปี 2022 วัคซีนรุ่นที่สองของเคียววัคจะก้าวหน้าไปสู่การทดลองทางคลินิกระยะสุดท้าย
ฟรานซ์-เวอร์เนอร์ แฮส ผู้บริหารระดับสูงของเคียววัคกล่าวว่า ข้อกำหนดในการจัดการกับไวรัสและสายพันธุ์ใหม่อย่างมีประสิทธิภาพได้เปลี่ยนไปแล้ว บริษัทจะใช้สิ่งที่ได้เรียนรู้จากผู้สมัครรับวัคซีนรุ่นแรก และ มุ่งเน้นการพัฒนาไปที่วัคซีนรุ่นที่สอง โดยเป็นการพัฒนาร่วมกันกับ บริษัทยายักษ์ใหญ่อย่าง แกรโซสมิทไคล์น หรือ GSK ต่อไป
สำหรับการตัดสินใจครั้งนี้ของเคียววัค ได้ทำให้ข้อตกลงสั่งซื้อล่วงหน้าที่บริษัทเคยทำไว้กับสหภาพยุโรปต้องสิ้นสุดลงด้วย แต่จะมีการเจรจากับคณะกรรมาธิการยุโรปเกี่ยวกับวัคซีนรุ่นที่ 2 ต่อไป