กต.เปิดไทม์ไลน์ ยัน “บ้านหนองจาน” เป็นอาณาเขตไทย ให้ชาวเขมรอยู่ชั่วคราว เคยแจ้ง “กัมพูชา” ให้ปลดธงชาติออกแต่ไม่ยอมตอบรับ

กต. ยืนยัน "บ้านหนองจาน" เป็นพื้นที่ของไทย เคยแจ้ง "กัมพูชา" ให้ปลดธงชาติออกแต่ไม่ตอบรับ ทั้งนี้ เตรียมยื่นหลักฐานเขมรใช้ทุ่นระเบิดต่อที่ประชุมอนุสัญญาออตตาวา

กต.เปิดไทม์ไลน์ ยัน “บ้านหนองจาน” เป็นอาณาเขตไทย ให้ชาวเขมรอยู่ชั่วคราว เคยแจ้ง “กัมพูชา” ให้ปลดธงชาติออกแต่ไม่ยอมตอบรับ – Top News รายงาน

 

 

เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ และ นายเบญจมินทร์ สุกาญจนัจที อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ได้ร่วมกันแถลงข่าวเกี่ยวกับประเด็นบ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว ที่กัมพูชากล่าวหาว่าไทยวางลวดหนามในพื้นที่อธิปไตยกัมพูชา

นายเบนจามินทร์ ให้ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับประเด็นพื้นที่บ้าหนองจานว่า ประเด็นปัญหาบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เป็นพื้นที่ที่มีชาวกัมพูชาได้สร้างบ้านเรือนลุกล้ำเข้ามาในเขตของไทย จึงชี้แจงข้อเท็จจริงให้ทราบว่า บ้านหนองจานตั้งอยู่ระหว่างแนวเขตแดนที่ 46 และ 47 ตามแนวเขตแดนตามความตกลงสยาม-ฝรั่งเศส ปี 1907

เมื่อปี 2524 ไทยอนุญาตให้สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR ต้้งศูนย์อพยพชั่วคราวขึ้นด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรมให้คนกัมพูชาที่หนีภัยสงครามกลางเมืองภายในประเทศกัมพูชาเองตามที่ UNHCR ร้องขอ โดยทหารไทยได้จัดทำแนวรั้วเพื่อจำกัดเขตดังกล่าว

แต่หลังสงครามยุติลงในปี 2542 ชาวกัมพูชากลุ่มนั้นซึ่งหนีภัยสงคราม มาก็ยังได้เข้ามาก่อสร้างที่อยู่อาศัย ขยายที่ดินทำกินจนออกมานอกแนวรั้วที่เห็นกันอยู่จนปัจจุบันนี้

ข่าวที่น่าสนใจ

ที่ผ่านมาฝ่ายไทยได้จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการพิจารณาปักปันเขตแดน ของสมช. เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ได้มีการหารือเกี่ยวกับปัญหานี้รวม 4 คร้้ง ซึ่งที่ประชุมมีมติให้ดูแลเพื่อไม่ให้ราษฎรชาวกัมพูชาขยายพื้นที่ทำกิน และหารือเจรจาร่วมกับฝ่ายกัมพูชาอย่างสันติ รวมทั้งเร่งรัดการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนในบริเวณดังกล่าว

ต่อมาเมื่อวันที่ 28-30 สิงหาคม 2545 กระทรวงการต่างประเศ และกรมแผนที่ทหาร ได้มีการหารือกับนายวา คิม ฮอง ปธ.เจบีซีของกัมพูชา ณ ขณะนั้น โดยฝ่ายไทยขอให้ราษฎรชาวกัมพูชาย้ายออกไป แต่ฝ่ายกัมพูชาแจ้งว่าจะต้องขอตรวจสอบแนวที่แน่ชัดของหลักเขตแดนที่ 46 และ 47 ก่อน

เมื่อเดือนกันยายน 2560 กระทรวงการต่างประเทศได้มีหนังสือประท้วงฝ่ายกัมพูชา กรณีการขยายตัวของชุมชนบริเวณบ้านหนองจาน มีการชักธงชาติกัมพูชา และจัดตั้งหน่วยงานของกัมพูชาในพื้นที่ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทย และละเมิดข้อ 5 เอ็มโอยู 2543 ขอให้มีการปลดธงชาติและย้ายชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งฝ่ายกัมพูชาไม่ได้มีหนังสือตอบกลับหรือโต้แย้งแต่อย่างใด

 

ทั้งหมดนี้สรุปได้ว่า พื้นที่บ้านหนองจานเป็นพื้นที่ของไทย โดยไทยอนุญาตให้ชาวกัมพูชาที่หนีภัยสงครามช่วงเขมรแดงมาอาศัยอยู่เป็นการชั่วคราว ทั้งนี้ด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม การที่ชุมชนขยายตัวเพิ่มขึ้นนั้นไทยไม่ได้ยอมรับ และไม่กระทบกับการปักปันเขตแดนที่ยังดำเนินอยู่ระหว่างไทยกับกัมพูชาตามกฎหมายระหว่างประเทศ และที่ผ่านมาก็ไม่ได้เป็นประเด็นสังคมในวงกว้าง เนื่องจากฝ่ายไทยรับทราบมาตลอดว่าให้ชาวกัมพูชาที่หนีภัยเข้ามาอาศัยอยู่ชั่วคราว แต่เมื่อฝ่ายกัมพูชาในปัจจุบันออกมากล่าวอ้างว่าเป็นพื้นที่ของกัมพูชา ก็มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ฝ่ายไทยต้องประท้วงและชี้แจงข้อเท็จจริงในวันนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากไทยประท้วงแล้ว ฝ่ายกัมพูชาตอบว่าอย่างไรบ้าง มีความคืบหน้าในเรื่องนี้อย่างไร นายเบญจมินทร์กล่าวว่า หลายจุดมีการประท้วงมาอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา เราคงต้องปฏิบัติไปตามหลักการสากล คือการแสดงจุดยืนและท่าทีของเราให้ชัดเจนว่า จุดใดที่เราเห็นว่าเขาล่วงล้ำเข้ามาเราก็ประท้วง การปะท้วงของเราไม่ได้ทำโดยไม่มีฐานทางกฎหมายเ พราะเอ็มโอยู 2543 ระบุชัดเจนว่า ไม่ควรเปลี่ยนแปลงภูมิประเทศในพื้นที่ที่ยังไม่ชัดเจนไปในลักษณะเช่นนั้น โดยเป็นข้อห้ามที่ชัดเจน

 

 

 

ผู้สื่อข่าวถามถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการดำเนินการตามอนุสัญญาออตตาวาที่จะมีการชี้แจงที่เจนีวาในวันนี้ นายเบญจมินทร์ กล่าวว่า กำลังรอคำตอบกับการดำเนินงานที่เจนีวา แต่เราดำเนินการตามอนุสัญญา มีการดำเนินการผ่านเลขาธิการสหประชาชาติ แจ้งการกระทำที่ไม่เป็นไปตามอนุสัญญาที่จะไม่นำมาใช้ซึ่งทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งดำเนินการไปแล้ว กำลังรอการตรวจสอบของเจนีว่าต่อไป

นายนิกรเดชกล่าวว่า วันนี้ ( 22 ส.ค.68 ) จะมีการประชุมในกรอบกรรมการบังคับให้รัฐภาคีดำเนินการภายใต้อนุสัญญาออตตาวาที่เจนีวา ซึ่ง น.ส.อุศณา พีรานนท์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา จะเข้าร่วมชี้แจงและในวันนี้จะมีการยื่นเอกสารเพิ่มเติมด้วย

เมื่อถามว่าการพาคณะทูตานุทูตและสื่อต่างชาติลงพื้นที่ของไทยจะถูกนำไปพูดคุยด้วยหรือไม่ นายนิกรเดชกล่าวว่า ท่านทูตหลายท่านแสดงความคิดเห็นและให้สัมภาษณ์สื่อในเชิงเห็นใจว่าไทยเป็นผู้ถูกระทำจากการที่ได้ลงไปดูและไปเห็น ซึ่งเป็นผลดีกับเราว่า สิ่งที่เราพูดเป็นความจริง สิ่งนี้สำคัญมากและสำคัญแน่นอนในการที่จะมีการสนับสนุนจากประชาคมตระหว่างประเทศว่าสิ่งที่เราพูดเป็นความจริง และกดดันกัมพูชาให้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง

บ้านหนองจาน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

มติเอกฉันท์ "มรภ.บ้านสมเด็จฯ" เพิกถอนปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ “ฮุนเซน”
บุกจับปลัด อบจ. รีดทรัพย์ผู้รับเหมา แลกเซ็นอนุมัติเบิกจ่ายงบสร้างถนน
200 หมวกนิรภัย เพื่อทุกลมหายใจบนถนน สิสราญ กรุ๊ปร่วมชุมชนบางเสร่ สานต่อพลังความปลอดภัย
ตชด.23 ! ปฏิบัติการกวาดล้าง จับล็อตใหญ่ 2 ล้านเม็ด 4 กิโลกรัม มูลค่ารวมกว่า 30 ล้าน
ชลบุรี พลตำรวจตรี เมฆาวิศ ประดิษฐ์ผล ผู้ทรงคุณวุฒิฯ (นรต.รุ่นที่ 41) แบ่งปันรอยยิ้ม มอบขนมและเงินบริจาค ให้แก่เด็กกำพร้าและผู้ด้อยโอกาส
ดร.ฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ร่วมแสดงความยินดีในโอกาสเป็นวันครบรอบ 60 ปี สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​