รายงานข่าวจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมครม. โดยเป็นการประชุมแบบเต็มคณะ ซึ่งบรรยากาศการประชุมนายกฯอารมณ์ดี พูดแซวทักทายบรรดารัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีในการประชุมเป็นระยะ ก่อนเข้าสู่วาระการประชุมพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้พูดถึงเรื่องการเปิดประเทศ โดยให้ครม.มองไปในวันข้างหน้าที่ประเทศจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเวทีใหญ่ ๆ หลายเวที โดยเฉพาะการประชุมเอเปคในปี 2565 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุม ตั้งแต่วันที่ 12 พ.ย.นี้ ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่สถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลายหวังว่าผู้นำระดับโลกจะมาประชุมพบกัน
โดยระหว่างที่นายกฯ พูดถึงเรื่องดังกล่าวได้พูดอย่างติดตลก ว่า “ไม่รู้ว่าจะอยู่ถึงตอนนั้นหรือเปล่า แต่ยืนยันว่ายังไม่มีการยุบสภาในตอนนี้ คิดกันไปเอง ไม่ยุบสภาฯ ไม่เลือกตั้งในตอนนี้ เดี๋ยวประชาชนจะสับสน ช่วงนี้มีแต่การเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)อย่างเดียว”
ส่วนเรื่องการเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย.นี้ นายกฯ ได้ชี้แจงในครม.ขอให้ทุกคนอย่าประมาทขอให้คนไทยระมัดระวัง สวมใส่หน้ากากอนามัย ป้องกันการกลับมาแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และได้พูดคุยกับกระทรวงสาธารณสุขในเรื่องนี้แล้ว
อย่างไรก็ตาม ระหว่างประชุมนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ ยังได้รายงานในที่ประชุมถึงสินค้าทางการเกษตรหลายชนิดที่เติบโตขึ้นมาก ยกเว้นข้าวที่ราคายังไม่ค่อยดี แต่เชื่อว่าปีหน้าค่าเงินบาทอ่อนจะสามารถส่งออกข้าวได้มากขึ้น โดยนายกฯ ชื่นชมกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทำให้ราคาพืชผลทางการเกษตรขยับตัวดีขึ้น
ภายหลังประชุมครม. เสร็จสิ้นทุกครั้งเป็นที่น่าสังเกตว่า นายกฯ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เข้าไปพูดคุยหารือถึงการทำงาน และหลังจากนั้นนายกฯ พูดคุยหารือกับนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม และนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ที่ห้องเหลือง ตึกสันติไมตรี ในเรื่องการเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย.นี้ โดยนายกฯ เชื่อว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่ช่วยเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งนี้ ย้ำว่ารัฐบาลไม่ได้เปิดแบบไม่มีมาตรการ แต่จัดให้อยู่ในพื้นที่ที่เตรียมไว้แล้ว และอยู่ภายใต้เงื่อนไขมาตรการสาธารณสุข.