ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายทนงศักดิ์ บุญแก้วล้อม ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดสระแก้ว ส่งเจ้าหน้าที่เรือนจำ เพื่อเดินทางไปควบคุมตัว นางสาวกมลชนก วิชาฉิม อายุ 26 ปี ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่รักษาหายแล้ว ที่ โรงพยาบาลสนาม อบจ.สระแก้ว ต.ท่าเกษม อ.เมือง จ.สระแก้ว ไปควบคุมตัวไว้ที่ เรือนจำจังหวัดสระแก้ว หลัง ศาลจังหวัดสระแก้ว มีคำพิพากษา ในคดีที่ นางกมลวรรณ ลุ่มมณี อายุ 46 ปี (มารดา) และ น.ส.กมลชนก วิชาฉิม อายุ 26 ปี สองแม่ลูก หลบหนีจากห้องเช่า เลขที่ 66/4 ชุมชนเมืองย่อยที่ 11 โรงฆ่าสัตว์เก่า ถนนเทศบาล 6 ต.สระแก้ว อ.เมือง จ.สระแก้ว ไม่ยอมเข้ารับการรักษา ภายหลังทราบผลตรวจว่า ติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยหนีไปอยู่ที่ จ.สมุทรปราการ กระทั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถติดตามจับกุมตัวได้ที่ จ.นครนายก เมื่อวันที่ 25 เม.ย.64 และถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการรักษา ที่่ รพ.สมเด็จพระยุพราช สระแก้ว ส่งต่อมายัง รพ.สนาม อบจ.สระแก้ว จนกระทั่งพบว่า น.ส.กมลชนก รักษาหายแล้ว มีผลตรวจเป็นลบ ไม่พบเชื้อ จึงประสานให้ เจ้าหน้าที่เรือนจำ มารับตัวไปดำเนินการตามกฎหมาย
ทั้งนี้ น.ส.กมลชนก และแม่ ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองสระแก้ว แจ้งความกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสระแก้ว ในข้อกล่าวหา จงใจฝ่าฝืนและขัดคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรค ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 , ขัดคำสั่งจังหวัดสระแก้วที่ 982/2564 เรื่อง มาตรการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ฉบับที่ 32 และกระทำผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ศ.2548 โดย น.ส.กมลชนก ซึ่งมีคดีค้างเก่าเดิม และถูกแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ฐานแอบอ้างชื่อและใช้บัตรประชาชนของ น.ส.ฉันทนา บุญทา ที่ทำบัตรประชาชนหาย ไปตรวจหาเชื้อแทน เพื่อปกปิดข้อมูลตนเอง ซึ่ง ร.ต.ท.(หญิง) เกศรินทร์ วีระพันธ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองสระแก้ว พนักงานสอบสวนคดีนี้ ได้ทำสำนวนส่งฟ้องต่อศาลจังหวัดสระแก้ว เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทางด้าน พ.ต.อ.จิราวัฒน์ ศรีพัฒนสิทธิกร ผกก.สภ.เมืองสระแก้ว เปิดเผยว่า คดีนี้ศาลสั่งจำคุกผู้เป็นแม่ ฐานหลบหนี โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญา และปรับเป็นเงิน 5,000 บาท ส่วน น.ส.กมลชนก ลูกสาว ถูกศาลสั่งลงโทษจำคุก เป็นเวลา 1 ปี 1 เดือน โดยไม่รอลงอาญา เนื่องจาก มีการทำผิดกรณีนำข้อมูลทะเบียนราษฎรของผู้อื่นมาใช้และมีความผิดกฎหมายอาญา มาตรา 188
ผกก.สภ.เมืองสระแก้ว กล่าวว่า ถือเป็นบทเรียน สำหรับผู้ที่คิดจะปกปิดข้อมูล หรือ หลบหนีไม่เข้าสู่กระบวนการรักษา โดยมีผลกระทบต่อสังคมและบุคคลอื่น ๆ อย่างมาก และน่าจะเป็นคดีแรกที่ ศาลสั่งลงโทษจำคุกผู้หลบหนี ไม่เข้ารับการรักษาโรคโควิด