โพลนักธุรกิจอัดพรรคใหญ่ขัดแย้งสูง ห่างเหินธุรกิจรากหญ้า ทำคนเบื่อหันเทใจพรรคใหม่

สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เปิดเผยรายงานผลสำรวจเรื่อง “โพลนักธุรกิจ นักลงทุน คิดอย่างไรต่อพรรคการเมือง” จากกลุ่มตัวอย่างนักธุรกิจ นักลงทุน ในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว บริการ การค้า และการผลิตทั่วประเทศจำนวน 450 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 10 – 16 สิงหาคม2568 ที่ผ่านมา

โดยรายงานสำรวจของซูเปอร์โพลพบว่า ภาคธุรกิจมีมุมมองวิพากษ์วิจารณ์ต่อพรรคการเมืองขนาดใหญ่ในหลายมิติ โดย 74.3% เห็นว่าพรรคใหญ่เต็มไปด้วยความขัดแย้งภายใน มีหลายมุ้งหลายกลุ่ม ไม่เป็นเอกภาพ, 70.9% เห็นว่าพรรคใหญ่ถูกหนุนหลังโดยกลุ่มทุนขนาดใหญ่, และ 68.8% เห็นว่าพรรคใหญ่ไม่สะท้อนเสียงของธุรกิจ SMEs ที่เป็นฐานสำคัญของเศรษฐกิจไทย สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าภาคธุรกิจไม่พึงพอใจต่อการเมืองแบบรวมศูนย์และผูกขาด เท่ากับเปิดพื้นที่ให้พรรคเล็กและพรรคเกิดใหม่เข้ามาเป็นทางเลือกที่ใกล้ชิดกับเศรษฐกิจจริงมากกว่า

รายงานของซูเปอร์โพลพบด้วยว่า ร้อยละ 82.4 ของนักธุรกิจและนักลงทุน แสดงความต้องการอย่างชัดเจนที่จะเห็นการเมืองไทยเกิดการเปลี่ยนแปลง ขณะที่มีเพียงร้อยละ 9.5 ที่ไม่ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และอีกร้อยละ 8.1 ไม่มีความเห็นในประเด็นดังกล่าว ผลสำรวจของซูเปอร์โพลยังแสดงให้เห็นว่า พรรคการเมืองเล็กและพรรคเกิดใหม่กำลังได้รับความสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะพรรคปวงชนไทย ที่มีคะแนนนำในหลายประเด็น เช่น สภาพคล่อง SMEs และสตาร์ทอัพ ปวงชนไทยได้ 37.6% นำหน้าไทยสร้างไทย ที่ได้ 31.8% และไทยก้าวใหม่ 31.2%

ส่วนความเข้มแข็งของ SMEs ปวงชนไทยได้ 45.6% นำไทยก้าวใหม่ที่ได้ 43.8% ขณะที่โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ปวงชนไทย ได้ 45.8% นำหน้าไทยก้าวใหม่ ที่ได้ 45.2% ส่วนพลังงานสะอาดและลดต้นทุนโลจิสติกส์ ปวงชนไทย ได้ 42.6% นำหน้าไทยก้าวใหม่ ที่ได้ 41.3%

ข่าวที่น่าสนใจ

ในขณะที่ ไทยสร้างไทยและเสรีรวมไทย ก็มีความโดดเด่นในบางประเด็น เช่น การท่องเที่ยวคุณภาพสูง และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน นี่สะท้อนว่าพรรคเล็กกำลังถูกมองว่า “มีบทบาทเชิงนโยบาย” ที่จับต้องได้ แตกต่างจากภาพลักษณ์พรรคใหญ่ที่ถูกวิจารณ์หนัก

ส่วนประเด็นที่เกี่ยวข้องกับศักยภาพด้านเศรษฐกิจและการเข้าถึงกลุ่มธุรกิจในมิติ ประสบการณ์ด้านธุรกิจและเศรษฐกิจพบว่า นายเอกสิทธิ์ คุณานันทกุล หัวหน้าพรรคปวงชนไทย ได้รับการยอมรับสูงสุด ร้อยละ 38.9 ตามมาด้วย นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ร้อยละ 36.5 และคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ร้อยละ 32.5

ในด้านความใกล้ชิดกับภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมนายเอกสิทธิ์ยังคงนำหน้า ร้อยละ 47.2 โดยมีนายสุชัชวีร์ ร้อยละ 45.9 และคุณหญิงสุดารัตน์ ร้อยละ 44.8 เช่นเดียวกับด้านความสามารถในการเข้าถึงและเป็นที่ยอมรับในภาคธุรกิจ ซึ่งนายเอกสิทธิ์ได้รับคะแนนสูงที่สุด ร้อยละ 48.9 ขณะที่นายสุชัชวีร์ ร้อยละ 47.3 และคุณหญิงสุดารัตน์ ร้อยละ 45.3 ด้าน การดูแลแรงงานและสวัสดิการ ผลสำรวจ นายเอกสิทธิ์ได้ร้อยละ 42.9 มีความได้เปรียบเหนือคุณหญิงสุดารัตน์ ร้อยละ 41.0

 

 

อย่างไรก็ตามในมิติที่เกี่ยวข้องกับความซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส และประสบการณ์ทางการเมือง เป็นชื่อของนายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี ,คุณหญิงสุดารัตน์ และพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ที่ยังคงมีความโดดเด่นและได้รับการยอมรับสูงกว่า

รายงานของซูเปอร์โพลนี้ชี้ให้เห็นว่า ผู้นำพรรคเล็กและพรรคเกิดใหม่ เริ่มได้รับการยอมรับจากภาคธุรกิจ โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความสามารถทางเศรษฐกิจและการเข้าถึงกลุ่มทุนจริง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่น แต่ในขณะเดียวกัน คุณลักษณะด้านความน่าเชื่อถือทางการเมืองและคุณธรรมจริยธรรม ยังคงเป็นพื้นที่ที่ผู้นำรุ่นใหม่จำเป็นต้องพัฒนาและสร้างความเชื่อมั่นให้มากขึ้น หากต้องการก้าวขึ้นมาเป็นตัวเลือกสำคัญของสังคมและเศรษฐกิจในอนาคต

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ปราบสายแว้นท่อดัง
"ผบช.น." สั่งสอบปมคลิปว่อนโซเชียล บ่อนพนัน ย่านหทัยราษฎร์-คลอง 15 ตั้งข้อสังเกตขบวนการแฉ เรียกรับเงิน
โพลนักธุรกิจอัดพรรคใหญ่ขัดแย้งสูง ห่างเหินธุรกิจรากหญ้า ทำคนเบื่อหันเทใจพรรคใหม่
คุมเข้มเต็มกำลัง "ทหารไทย" ขึงสแลน-ติดกล้องวงจรปิดเพิ่ม จุดชายแดนสระแก้ว หลังทหารเขมรเกณฑ์ชาวบ้านก่อม็อบป่วน
"กองทัพไทย" โต้กลับ "กัมพูชา" ยืนยันหลักฐานชัดเจน ทุ่นระเบิดชายแดนของใหม่ ไม่ใช่ของเก่า
เปิดจดหมายถึง "ลุงกุ้ง" ขวัญใจเด็กสาธิตเกษตร ส่งกำลังใจ อีก 1 เดือนได้พัก แต่ความรักประเทศ ไม่มีพักแน่นอน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​