AFP รายงานว่า EDF กลุ่มบริษัทพลังงานฝรั่งเศสได้ออกแถลงการณ์ผ่านเวปไซต์เมื่อวานนี้ (จันทร์ที่ 11 สค.) ตามเวลาท้องถิ่นว่าโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์เกรฟไลน์ส ที่เมืองลีล ทางเหนือของฝรั่งเศส ได้หยุดทำงานอัตโนมัติ หลังจากฝูงแมงกะพรุนจำนวนมากได้เข้าไปอุดตันในถังกรองของสถานีปั๊มน้ำเพื่อใช้ลดอุณหภูมิของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ทั้งหมด 4 เตาจากทั้งสิ้น 6 เตา ซึ่งในจำนวนนี้ 2 เตาอยู่ระหว่างการปิดซ่อมบำรุง
หลังเกิดเหตุ ทีมผู้เชี่ยวชาญได้เร่งเข้าตรวจสอบ ก่อนเปิดเครื่องใหม่ โดยคาดว่าจะเตาปฏิกรณ์จะกลับมาทำงานตามปกติอีกครั้งในวันพฤหัสบดี พร้อมยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ส่งผลกระทบต่อระบบความปลอดภัยของโรงไฟฟ้า รวมทั้งบุคลากรหรือสิ่งแวดล้อม และไม่ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการขาดแคลนไฟฟ้า เนื่องจากฝรั่งเศสมีแหล่งพลังงานอื่นทดแทน รวมทั้งโซลาร์เซลล์
โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เกรฟไลน์ส เป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันตก โดยแต่ละเตาสามารถผลิตไฟฟ้าได้มากถึง 900 เมกะวัตต์ และในปี 2583 ก็เตรียมเปิดเตาปฏิกรณ์ยุคอนาคตอีก 2 เตา ซึ่งแต่ละเตาสามารถผลิตได้ 1 พัน 600 เมกะวัตต์
เหตุฝูงแมงกะพรุนเข้าไปอุตตันในระบบระบายน้ำของเตาปฏิกรณ์ปรมาณูจนต้องปิด เป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยเกิด โดยครั้งล่าสุดที่เกิดคือราว 35 ปีที่แล้ว ขณะที่ญี่ปุ่นและสวีเดนก็เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุเกิดจากหลายปัจจัย รวมทั้งการทำประมงมากเกินไป, ปัญหามลพิษพลาสติกและการเปลี่ยนแปลงด้านภูมิอากาศ ทำให้แมงกะพรุ่นเร่งผสมพันธุ์และแพร่พันธุ์
