ข่าวที่น่าสนใจ
ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจสอบของกลางอยู่นั้น เวลา 04.00 น. จนท.ฝ่ายปกครอง พบตัวผู้ร่วมขบวนอีก 1 คน ที่นอนซุกซ่อนตัวอยู่ในความมืดใต้ต้นไม้ ที่ห่างจุดเกิดเหตุเพียง 20 เมตร ทราบชื่อคือนายสมศักดิ์ เฉิดฉาย (กอล์ฟ) อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119 ม.6 ต.ห้วยแร้ง อ.เมือง จ.ตราด ตำรวจจึงคุมตัวไว้ ค้นตัวไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย โดยนายสมศักดิ์ ยอมรับว่า มาตัดไม้กับนายโบ ส่วนอีก 2 คน คือ นายนนท์ นายแมน หลบหนีไปได้
จนท.ฝ่ายปกครอง ในพื้นที่ให้ข้อมูลว่า สวนป่าห้วยแร้งแห่งนี้ เป็นพื้นป่าสาธารณะ ภายหลังหมดสัมปทานป่าไม้ ที่อนุญาตให้บริษัทเอกชนเข้าทำมาประโยชน์ในพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ ทำให้เกิดขบวนการลักลอบตัดไม้ในพื้นที่เรื่อยมา แม้ว่าป่าไม้ตราด ฝ่ายปกครอง ตำรวจ สนธิกำลังเพื่อติดตามจับกุมมาโดยตลอด อย่างน้อย 3 ครั้งแล้ว ได้ผู้ต้องหาและของกลางจำนวนมาก แต่ก็ยังมีกลุ่มผู้ลักลอบตัดไม้รายใหม่และรายเดิมที่ยังไม่ถูกจับลักลอบเข้าตัดไม้พื้นที่อยู่บ่อยครั้ง
สำหรับปัญหาและความยากลำบากในการจับกุม คือ กลุ่มผู้ลักลอบจะลงมือในช่วงเวลากลางคืนเท่านั้น และใช้อุปกรณ์เลื่อยยนต์ไฟฟ้า ซึ่งมีความเงียบกว่าการใช้น้ำมัน ประกอบการการตัดไม้แต่ละครั้ง จะมีการวางคนไว้ดูต้นทางหากมีกำลังจนท. มาตรวจสอบ ก็จะหยุดความเคลื่อนไหว หรือ หลบหนีไป อย่างไรก็ตาม จนท.ทั้งหมด ยังคงเฝ้าติดตามอย่างเข้มงวด กับการลักลอบตัดไม้สวนป่าห้วยแร้ง ซึ่งจนท.เชื่อว่า ยังคงจะมีการลักลอบตัดไม้ในพื้นที่อีก
อนึ่ง สวนป่าห้วยแร้ง ก่อนหน้านี้อยู่ในความดูแลของบริษัท ตราดทำไม้ จำกัดมีพื้นที่กว่า 3,000 ไร่ แต่ได้หมดสัมปทานมานานหลายปี และบริษัท ตราดทำไม้ จำกัด อยู่ระหว่างการต่อสัมปทานใหม่ ทำให้สวนป่าห้วยแร้ง อยู่ในความดูแลของศูนย์ป่าตราด และหน่วยงานป่าไม้ในพื้นที่ และที่ผ่านมา มีกลุ่มทุนท้องถิ่น และโรงรับซื้อไม้ท้องถิ่นสนับสนุนด้วยการรับซื้อ ทำให้สวนป่าห้วยแร้งถูกบุกรุกโดยบุกตัดบริเวณกลางสวนป่าที่อยู่ด้านในทำให้ยากต่อการจับกุม ทำให้เกอดความเสียหายกว่า 500 ไร่ จนชาวบ้านออกมาเรียกร้องและแจ้งสื่อมวลชนเพื่อให้ตรวจสอบ ทำให้มีการจับกุม ซึ่งครั้งนี้ มีการจับกุมเป็นคาั้งที่ 3 แล้ว นอกจากนี้ กลุ่มทุนในท้องถิ่น ยังนำที่ดินที่บุกรุกไปออกสปก.4-01 ด้วย และอยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
ภาพ/ข่าว จักรกฤชณ์ แววคล้ายหงษ์ ญาณี แววคล้ายหงษ์ ผู้สื่อข่าว TOPNEWS ทั่วไทย จ.ตราด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง