“ดร.สามารถ” เตือน 4 ข้อ ไทยต้องตื่นรู้ ระวังสายลับเขมร ส่งข้อมูลกลับประเทศ ไม่ต่างระเบิดเวลาแนบกาย
ข่าวที่น่าสนใจ
10 สิงหาคม 2568 ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก “ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ – Dr.Samart Ratchapolsitte” เกี่ยวกับ สายลับเขมร โดยมีรายละเอียด ระบุว่า “สายลับเขมร” ในคราบ “เขยไทย”
ระเบิดเวลาแนบกาย!
เมื่อศัตรูไม่ได้บุกเข้ามาด้วยรถถัง… แต่เขาเดินอยู่ข้างๆ คุณ โดยที่คุณไม่รู้ตัว! เขามาพร้อมยศ “ร้อยเอก” มีภรรยาเป็นหญิงไทย ใช้บ้านภรรยาเป็น “ฐานลับ” ส่งข้อมูลกลับประเทศในช่วงสงครามไทย-กัมพูชา
ชายชาวกัมพูชาอายุ 36 ปี ถูกจับได้ที่ จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2568 พร้อมหลักฐานมัดแน่นจากมือถือของเขาเอง… ภาพถ่ายตัวเองสวมเครื่องแบบทหารกัมพูชาและถืออาวุธ ตรวจสอบภายหลังพบว่าเป็นนายทหารระดับ “ร้อยเอก” ของหน่วย BHQ หรือองครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน!
นี่ไม่ใช่แค่ข่าวรายวัน… แต่เป็นการแทรกซึมแบบเต็มรูปแบบ!
1. จุดชนวนสงครามเงียบ!
ช่วงกรกฎาคมที่ผ่านมา ไทย–กัมพูชาเกิดความตึงเครียดชายแดน มีการยิงตอบโต้กันหลายวัน จนต้องประกาศหยุดยิงเมื่อเที่ยงคืนของวัน 28 กรกฎาคม 2568 แต่หลังจากนั้นไม่นาน… สายลับเขมรถูกจับในฝั่งไทย การพบสายลับเขมรแฝงตัวอยู่ในไทยไม่ใช่เรื่องเล็ก แต่คือ “ภัยความมั่นคงระดับชาติ” ทำให้เกิดคำถาม “เขาส่งข้อมูลอะไร? ข้ามแดนไปถึงมือใครบ้าง?”
2. “สายลับ” ไม่ใช่แค่ในหนัง
ในประวัติศาสตร์โลก สายลับช่วยทำให้สงครามเปลี่ยนทิศทาง! เช่น
(1) สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 สายลับของโซเวียตแทรกซึมเข้าไปในอังกฤษและอเมริกา เพื่อส่งข้อมูลให้สตาลิน ทำให้โซเวียตสามารถต้านการบุกของนาซีได้
(2) สงครามเวียดนามมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเวียดกงแฝงตัวเป็น “ไส้ศึก” อยู่ในหน่วยข่าวกรองอเมริกัน (CIA)!
(3) อิสราเอลใช้หน่วย “มอสสาด” ลอบสังหารอดีตนาซี และสอดแนมอิหร่านอย่างแยบยล
(4) แม้แต่ยูเครน-รัสเซียในวันนี้… หน่วยข่าวกรองคืออาวุธลับของทั้งสองฝ่ายในการทำลายยุทธศาสตร์ของกันและกัน
3. เราจะป้องกันภัยจากสายลับได้อย่างไร?
(1) ยกระดับการตรวจสอบบุคคลต่างชาติ
ต้องมีการตรวจสอบประวัติอย่างเข้มงวด “ระดับลึก” โดยร่วมมือกับกระทรวงกลาโหม ตำรวจ และฝ่ายความมั่นคง
(2) สร้างฐานข้อมูลความมั่นคงของคนต่างชาติ
ให้ทุกจังหวัดตรวจสอบคนต่างชาติในพื้นที่โดยละเอียด และบ่อยครั้งกว่าที่เคย
(3) เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังในพื้นที่ยุทธศาสตร์
เช่น ค่ายทหาร ฐานป้องกันชายแดน คลังอาวุธ หรือเส้นทางลำเลียงทางทหาร
(4) เสริมข่าวกรองในเชิงรุก
ตั้งหน่วยปฏิบัติการข่าวกรองเฉพาะกิจที่ทำงานร่วมกับพลเรือน เช่น ชุมชนชายแดน
(5) ส่งเสริมให้ประชาชนเป็นหูเป็นตา
เห็นคนแปลกหน้าเข้ามาในพื้นที่ยุทธศาสตร์ มีพฤติกรรมผิดปกติ? แจ้งหน่วยงานความมั่นคงทันที! เพราะประเทศไทย…. คือบ้านของเราทุกคน!
4. ถึงเวลาที่คนไทยต้องตื่นรู้
ความมั่นคงของชาติไม่ได้เริ่มที่ “รัฐ” เท่านั้น แต่ต้องเริ่มที่ “เรา” ทุกคน ชายเขมรสายลับที่ถูกจับกุมในไทยวันนี้อาจไม่ใช่คนสุดท้าย
คำถามที่เราต้องตอบในฐานะคนไทย “ถ้าเขาไม่ถูกจับวันนี้… คุณคิดว่าเขาจะทำอะไรต่อ?”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น